คลองเตย เดือดอีก ยิง"พตท." ห้ามม็อบ (ข่าวสด)
คลองเตยเดือดอีก "พ.ต.ท." รองผกก.วัดพระยาไกรถูกยิงบาดเจ็บ หลังนำตำรวจเข้าห้ามศึกพ่อค้าแม่ค้าตลาดคลองเตย กับรปภ.บริษัท ลีเกิ้ลฯ เจ้าของสัมปทานตลาด "วรพงษ์ ชิวปรีชา" ผบช.น. สั่งปรับแผนดูแลเหตุปะทะที่ตลาดคลองเตย เพิ่มตำรวจอีกวันละ 150 เป็น 300 นาย มั่นใจช่วยแก้ปัญหาดีขึ้นได้ ด้านกลุ่มผู้ค้าตลาด 4 คลองเตยจี้ "มาร์ค" เร่งแก้ไขปัญหาพิพาท
เมื่อเวลา 02.30 น. วันที่ 3 พ.ย. ขณะที่ พ.ต.ท.กิตติพงษ์ สุวรรณ รองผกก.สน.วัดพระยาไกร พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจนครบาล 5 จำนวน 150 นาย เข้าไกล่เกลี่ยระหว่างกลุ่มชายฉกรรจ์ของบริษัท ลีเกิ้ล โปรเฟสชั่นแนล จำกัด ที่ได้รับสัมปทานจากการท่าเรือแห่งประเทศไทย (กทท.) ให้เข้ามาดูแลตลาด กับกลุ่มผู้ค้าในตลาด 4 คลองเตย ซึ่งกำลังเผชิญหน้ากัน เนื่องจากทางลีเกิ้ลฯ อ้างว่า ร้านเจ๊น้อยปลาสดค้างชำระค่าแผงมาปีกว่าแล้ว ทางบริษัทจึงนำลวดหนามมาล้อมไว้ เมื่อช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา เพื่อจะให้ผู้ค้ารายใหม่มาขายแทน
แต่ทางผู้ค้านำลวดหนามออก พร้อมทั้งนำลังใส่ปลามาวางไว้เต็มพื้นที่ ทางบริษัทจึงประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจมาเจรจาให้นำลังปลาออกจากพื้นที่ ไม่เช่นนั้นบริษัทจะดำเนินการเอง เพื่อไม่ให้ทั้ง 2 ฝ่ายปะทะกันเหมือนที่เคยเกิดขึ้นหลายครั้ง เจ้าหน้าที่จึงขนย้ายลังปลา เพื่อนำไปเก็บไว้สน.ท่าเรือก่อน ระหว่างนั้นมีเสียงนกหวีดดังขึ้น จากนั้นไฟบริเวณดังกล่าวดับ และมีเสียงปืนดังขึ้น 2 นัด ทำให้ พ.ต.ท.กิตติพงษ์ ถูกยิงที่แขนซ้าย บาดเจ็บ นอกจากนี้มีชาวบ้านบาดเจ็บอีก 1 ราย ทราบชื่อภายหลังคือ นายชนะพล รมสมิทธ์ ที่อยู่ในเหตุการณ์ ถูกกระสุนเฉี่ยวเช่นกัน นำส่งโรงพยาบาลเทพธารินทร์
หลังเกิดเหตุ พ.ต.อ.สมชาย อินโต รองผบก. น.5 เดินทางมายังจุดเกิดเหตุ พร้อมสั่งเจ้าหน้าที่กระจายกำลังทั่วบริเวณจุดเกิดเหตุ เนื่องจากกลัวว่าจะเกิดการปะทะกันขึ้นระหว่างกลุ่มของบริษัทลีเกิ้ลฯ กับพ่อค้าแม่ค้าในตลาด พร้อมตรวจสอบบริเวณที่เกิดเหตุ พบหัวกระสุนไม่ทราบขนาดตกอยู่ที่บริเวณลังปลา
พ.ต.ท.กิตติพงษ์ เปิดเผยว่า ก่อนเกิดเหตุตนพร้อมด้วยกำลัง 150 นาย มาที่บริเวณตลาดคลองเตยเพื่อรักษาความสงบ และได้รับประสานจากบริษัท ลีเกิ้ลฯ ว่า มีพ่อค้าแม่ค้าตลาด 4 รุกล้ำมาในที่ของบริษัท โดยพ่อค้าแม่ค้าตัดรั้วลวดหนามที่ทางบริษัทขึงไว้ไม่ให้เข้า แล้วนำลังปลามาวางไว้ บริษัทลีเกิ้ลฯ แจ้งความกับตำรวจ สน.ท่าเรือไว้ก่อนหน้านี้ ข้อหาบุกรุก และทางบริษัทขอความร่วมมือเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบ ตนพร้อมเจ้าหน้าที่รุดไปที่บริเวณหน้าร้านเจ๊น้อย โดยมีคนของบริษัทลีเกิ้ลฯ 50 คน เดินทางมาบริเวณนั้นด้วย
พ.ต.ท.กิตติพงษ์ กล่าวต่อว่า จากนั้นกลุ่มพ่อค้าแม่ค้าจำนวนมากเกิดปะทะกับกลุ่มของบริษัทลีเกิ้ลฯ ตนเห็นว่าจะเกิดเหตุบานปลาย จึงให้เจ้าหน้าที่ยกลังปลาออกจากจุดที่บุกรุก ขณะเจ้าหน้าที่เข้ายกลังปลา มีเสียงนกหวีดดังขึ้น 1 ครั้ง จากนั้นไฟบริเวณนั้นดับ แล้วมีเสียงปืนดังขึ้น 2 นัด ตนโดนยิงเฉี่ยวบริเวณแขนซ้าย และพ่อค้าอีกคนหนึ่ง กระสุนทั้ง 2 นัดพุ่งไปฝังที่ลังปลา เห็นผู้ชายใส่เสื้อสีแดงคาดว่าเป็นคนยิงวิ่งหนีออกไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ สน.ท่าเรือ พล.ต.ท.วรพงษ์ ชิวปรีชา ผบช.น. เรียกประชุมนายตำรวจระดับรองผู้บัญชาการที่รับผิดชอบด้านความมั่นคง ฝ่ายสืบสวนปราบปราม และฝ่ายควบคุมฝูงชน เพื่อคลี่คลายคดีเหตุคนร้ายลอบยิง พ.ต.ท. กิตติพงษ์ เบื้องต้นตำรวจให้น้ำหนักที่กลุ่มผู้เสียผลประโยชน์ แต่ยังไม่ตัดประเด็นมือที่ 3 สร้างสถานการณ์ โดยยืนยันไม่พบปลอกกระสุนปืนหรือหลักฐานใดในที่เกิดเหตุ อย่างไรก็ตาม ต้องรอผลตรวจแนววิถีกระสุนที่คนร้ายซุ่มยิงจากนิติวิทยาศาสตร์ตำรวจก่อน
พล.ต.ท.วรพงษ์กล่าวว่า ภายหลังเกิดเหตุสั่งการให้ระดมกำลังตำรวจ บก.น.1 มาเสริมกำลังตำรวจบก.น.5 เจ้าของพื้นที่ โดยเพิ่มกำลังดูแลในแต่ละผลัดจาก 150 นาย เป็น 300 นาย คุมเข้มทั้งรอบนอกและรอบใน ตรวจค้นอาวุธบุคคลต้องสงสัยตลอดเวลา ขณะเดียวกันสั่งเตรียมกำลังตำรวจปราบจลาจลพร้อม ณ ที่ตั้ง หากเกิดเหตุรุนแรงสามารถเข้าควบคุมสถานการณ์ภายใน 30 นาที สำหรับการดูแลความสงบเรียบร้อยของตำรวจนั้นเป็นเพียงการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ ป้องกันไม่ให้เกิดความรุนแรงปะทะกันสองฝ่ายเท่านั้น ส่วนการแก้ไขปัญหาในภาพรวมของสาเหตุนั้น เป็นหน้าที่ของผู้เกี่ยวข้องสองฝ่ายที่ต้องดำเนินการอย่างเร่งด่วน จะปล่อยให้ล่วงเลยเวลาไปมากกว่านี้ไม่ได้แล้ว การชุมนุมยืดเยื้อมานาน
ส่วนกรณีนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกฯ ออกมาคาดโทษตำรวจที่ปล่อยให้มีเหตุรุนแรงเกิดขึ้นนั้น ในฐานะที่มีหน้าที่ดูแลความสงบเรียบร้อยไม่ได้เกิดความท้อแท้หรือน้อยอกน้อยใจแต่อย่างใด ตำรวจต้องทำหน้าที่อย่างเต็มความสามารถอยู่แล้วไม่มีปัญหา
ด้าน พ.ต.อ.สมชาย พัชรอินโต รองผบก.น.5 กล่าวว่า สั่งการเจ้าหน้าที่สายตรวจคุมเข้มตรวจค้นบุคคลเข้าออกบริเวณที่มีการชุมนุม และบริเวณโดยรอบให้มากขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มชายฉกรรจ์และบุคคลต้องสงสัยทั้งฝ่ายลีเกิ้ลฯ และฝ่ายผู้ค้า พร้อมประสานเจ้าหน้าที่สรรพาวุธเข้าตรวจค้นตรวจสอบวัตถุระเบิดวัตถุต้องสงสัยอย่างต่อเนื่อง ที่ผ่านมาตำรวจดำเนินการเข้มงวดมาโดยตลอด แต่ไม่รู้ว่ามีการลักลอบนำเข้าไปได้อย่างไร ซึ่งต้องตรวจสอบข้อเท็จจริงกันต่อไป ขณะเดียวกันสั่งกำชับไปยังฝ่ายสืบสวนให้เร่งรัดติดตามตัวคนร้ายที่ก่อเหตุมาดำเนินคดีให้ได้โดยเร็ว
ด้านกลุ่มผู้ค้าตลาด 4 คลองเตย แถลงเรียกร้องให้นายกฯ การท่าเรือแห่งประเทศไทย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เป็นคนกลางเข้ามาเจรจาแก้ไขปัญหาพิพาทของกลุ่มผู้ค้ากับบริษัทลีเกิ้ลฯ หลังเกิดเหตุคนร้ายลอบยิงเจ้าหน้าที่ตำรวจและประชาชนที่ไม่เกี่ยวข้องได้รับบาดเจ็บขณะเข้าคลี่คลายเหตุการณ์ระหว่างผู้ค้าตลาด 4 กับรปภ. บริษัทลีเกิ้ลฯ เมื่อกลางดึกที่ผ่านมา เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นสะท้อนว่าชีวิตและทรัพย์สินของผู้ค้าอยู่ในจุดเสี่ยง หากนายกฯ ไม่ช่วยเหลือแก้ไขปัญหาอาจเกิดความรุนแรงกับผู้ค้าได้อีก โดยเฉพาะในวันที่ 6 พ.ย. นี้ ทางบริษัทลีเกิ้ลฯประกาศจะเข้ารื้อตลาด 4 ในส่วนที่ยังเป็นปัญหา จึงอาจเกิดความรุนแรงขึ้นได้ นอกจากนี้ขอให้นายกฯ ตรวจสอบการประมูลของบริษัทลีเกิ้ลกับการท่าเรือฯ ว่าเป็นไปอย่างถูกต้องหรือไม่
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก
