ฆ่ายกครัว
คนลาวมือสังหารโหด 4ศพ เผยนาทีฆ่ายกครัว (ไทยรัฐ)
คนลาวมือสังหารโหดฆ่ายกครัว 4 ศพ สารภาพลงมือทีละคนโกรธที่ไม่ยอมจ่ายเงินเดือนเพื่อนำไปรักษาพ่อ ขโมยเงิน-รถซิ่งหวังหลบหนีไปลาวแต่ไม่รอดรถพลิกคว่ำก่อนทำให้ต้องขึ้นรถโดยสารและถูกจับในที่สุด ผบช.ภ.4 แถลงมอบรางวัลตำรวจตามจับฆาตกรได้
หลังจากตำรวจ สภ.ชุมแพ จ.ขอนแก่น รับแจ้งเหตุเมื่อวันที่ 17 พ.ย.ที่ผ่านมา เกิดคดีฆ่ายกครัว 4 ศพ ที่อู่แม็คการช่าง ตั้งอยู่เลขที่ 331/ 2 หมู่ 18 บ้านนครชัย 2 ต.หนองไผ่ อ.ชุมแพ จ.ขอนแก่น ไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพบผู้เสียชีวิตประกอบด้วย นายแม็ค ชาติวิชัย อายุ 31 ปี เจ้าของบ้าน น.ส.อรทัย ลาภนภากุล อายุ35 ปี ภรรยา นายแก้วตา ลาภนภากุล อายุ 60 ปี พ่อของ น.ส.อรทัย และ ด.ญ.ไอรญา ชาติวิชัย อายุ 9 ขวบ ลูกสาวนายแม็คกับ น.ส.อรทัย โดยทั้ง 4 ศพถูกทุบด้วยของแข็งที่ศีรษะจนกะโหลกแตก รถกระบะของผู้ตายหายไป ภายหลังสอบสวนพยานทราบชื่อคนร้าย ชื่อว่า นายคำพัน พิมพา อายุ 20 ปี ราษฎรบ้านนามะเดื่อ เมืองสารคาม แขวงเวียงจันทน์ ประเทศลาว เป็นช่างซ่อมรถยนต์ในอู่ของผู้ตายที่มีจิตใจโหดเหี้ยมอำมหิตฆ่าได้แม้เด็กอายุไม่เกิน 9 ขวบ ตามที่เสนอข่าวมาโดยตลอด
ความคืบหน้า เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 19 พ.ย. ที่สำนักงานตำรวจภูธรภาค 4 พล.ต.ต.สันติ เพ็ญสูตร รักษาการ ผบช.ภ.4 (รับตำแหน่งวันแรก) พร้อมด้วย พล.ต.ต.เฉลิมชัย จงศิริ รอง ผบช.ภ.4 พล.ต.ต.จตุพล ปานรักษา ผบก.ศสส.ภ.4 พ.ต.อ.รัฐพงษ์ ยิ้มใหญ่ รอง ผบก.ภ.จว.ขอนแก่น พ.ต.อ.ยรรยง เวชโอสถ ผกก.สส.กก.1 ภาค 4 พ.ต.อ.ศรีพงษ์ เตียประพงษ์ ผกก.สภ.ชุมแพ จ.ขอนแก่น พ.ต.ท.สมศักดิ์ ล้อศรีสกุล รอง ผกก.สส.สภ.เมืองเลย เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดเฉพาะกิจสืบสวนจับกุมฆาตกรฆ่ายกครัว 4 ศพ ร่วมกันแถลงข่าว
ทราบชื่อผู้ต้องหา นายคำพัน พิมพา อายุ 20 ปี ราษฎร สปป.ลาว ช่างซ่อมรถยนต์เป็นลูกจ้างของผู้ตาย ซึ่งมีบาดแผลแตกที่เหนือคิ้วด้านขวายาวประมาณ 3 นิ้ว สวมใส่กุญแจมือกันหลบหนี พร้อมด้วยเงินสด 39,020 บาท บิลค่าอาหารจำนวน 19,279 บาท โทรศัพท์จำนวน 2 เครื่อง ค้อน เหล็กแป๊ป เหล็กแหลม อย่างละ 1 อัน นอกจากนี้มีเสื้อผ้าที่สวมใส่เปื้อนเลือดขณะกำลังก่อเหตุ ยาแก้ปวด ยาแดง เครื่องชาร์ตโทรศัพท์มือถือ
พล.ต.ต.สันติ เพ็ญสูตร รักษาการ ผบช.ภ.4 เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 17 พ.ย.ที่ผ่านมา มีการก่อคดีฆ่ายกครัว 4 ศพ ในอู่ซ่อมรถยนต์แม็คการช่าง อ.ชุมแพ และคนร้ายคือนายคำพัน พิมพา ชาวลาวที่เป็นนายช่างอยู่ในอู่ซ่อมรถยนต์ของผู้ตาย จึงได้ประสานกับสถานีตำรวจที่คาดว่าจะเป็นเส้นทางหลบหนีตั้งแต่วันที่ไปตรวจที่เกิดเหตุ กระทั่งวันที่ 18 พ.ย.ที่ผ่านมา ได้ทราบจาก สภ.นาด้วง ว่ารถยนต์ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นไทเกอร์ ทะเบียน บบ – 2735 ขอนแก่น ของ น.ส.อรทัยหนึ่งในผู้ตายหายไปพร้อมกับนายคำพัน พิมพา ได้เกิดเหตุพลิกคว่ำ เมื่อวันที่ 13 พ.ย.ที่ผ่านมา ในเขต อ.นาด้วง จ.เลย มีผู้พบเห็นผู้ขับขี่รถคันดังกล่าว คือนายคำพัน พิมพา ที่ได้รับบาดเจ็บเป็นแผลแตกที่เหนือคิ้วขวา และได้ขึ้นรถโดยสารไปที่ อ.เมืองเลย และทราบต่อมาว่านายคำพัน ไปเปิดห้องพักที่โรงแรมม้วนทองแกรนด์ ใน อ.เมืองเลย จึงได้มีการประสานตำรวจ ภ.จว.เลย และ ตำรวจ สภ.เมืองเลย เข้าจับกุมนายคำพัน พิมพา มาดำเนินคดีตามหมายจับศาลจังหวัดขอนแก่นที่ 438/ 2552 ลงวันที่ 18 พฤศจิกายน 2552 ในความผิดฐานฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา
อย่างไรก็ตามในชั้นจับกุมนายคำพัน พิมพา ผู้ต้องหาได้ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา โดยให้การว่าเป็นผู้กระทำความผิดเพียงลำพัง โดยลงมือกระทำความผิดเมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 22.00 น. ซึ่งภายหลังจากการฆ่ายกครัว 4 ศพ แล้วได้ค้นหาทรัพย์สิน ได้เงินสดไปประมาณ 60,000 บาทเศษ จากนั้นได้ขับขี่รถยนต์กระบะคันดังกล่าวหลบหนีไป และจากการสอบสวนขยายผลได้มีการตรวจยึดเสื้อของนายคำพัน พิมพา ที่เปื้อนเลือดพร้อมเงินสดที่ห่อด้วยผ้าเช็ดตัวจำนวนประมาณ 30,920 บาทเศษ ที่รีสอร์ทแห่งหนึ่งใน อ.วังสะพุง จ.เลย จึงได้ตรวจยึดมาเพื่อดำเนินการต่อไป
ส่วนนายคำพัน พิมพา ชาวลาวผู้ต้องหาฆ่ายกครัว 4 ศพ ยอมรับสารภาพ ว่า ได้เข้ามาทำงานในประเทศไทยประมาณ 1 ปีกว่า โดยผ่านขั้นตอนใช้แรงงานถูกต้องตามกฎหมายที่ อ.ภูเขียว จ.ชัยภูมิ จนบัตรหมดอายุใช้แรงงานในประเทศไทยก็ย้ายมาทำงานในอู่รถยนต์ของผู้ตายประมาณ 2 เดือนกว่า ขณะที่ทำงานอยู่กับผู้ตายได้เงินเดือน 4,500 บาท ขณะนี้ยังไม่ได้รับเงินเดือน ตั้งแต่ที่ทำงานอยู่กับผู้ตาย
นายคำพัน เปิดเผยเพิ่มเติมว่าพ่อไม่สบายจึงหาเงินกลับบ้านโดยไปขอเงินจำนวน 10,000 บาท กับนายแม็คที่เป็นนายจ้าง ซึ่งนายจ้างผัดผ่อนว่าเอาเงินเดือนตอนปีใหม่ เมื่อพ่ออาการสาหัสมาก จำเป็นต้องขอเงินเดือนล่วงหน้ามาใช้ก่อน แต่นายแม็คไม่ยอมให้แถมผลักอกให้ผมไปทำงาน จึงได้เกิดชกต่อยกันขึ้น นายแม็คได้หยิบค้อนมาตีที่เหนือคิ้วด้านขวาของผม ผมจึงได้โมโหอย่างมากแย่งค้อนกับนายแม็ค เมื่อแย่งได้ใช้ค้อนตีนายแม็คจนตาย เมื่อลูกสาววัย 9 ขวบ มาเห็นจึงหันมาตีลูกสาวนายแม็คตายตามไปด้วย และผมได้รีบวิ่งขึ้นไปบนบ้านเพื่อค้นหาทรัพย์สินก็มี น.ส.อรทัยภรรยาผู้ตายมาเห็นเข้าต่อว่าผมอย่างเสียหายหลายอย่าง พร้อมกับจะแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจด้วย ผมจึงตัดสินใจฆ่าตายไปอีกคน นายแก้วตาพ่อของ น.ส.อรทัยได้เข้ามาเห็น เข้ามาช่วยเหลือผู้ตายผมจึงได้ใช้ค้อน เหล็กแป๊ปทุบตีที่ศีรษะตายตามไปด้วยเป็นศพที่ 4 แล้วก็ค้นหาทรัพย์สินในบ้าน และนำรถยนต์ปิคอัพของผู้ตายหลบหนีเพื่อจะเข้าไปประเทศลาว เอาเงินที่ได้ทั้งหมดไปรักษาพ่อของตนที่รักษาอยู่ในลาว จนมาถูกจับตัวได้ดังกล่าว
พล.ต.ต.สันติ เพ็ญสูตร รักษาการ ผบช.ภ.4 กล่าวว่า อาชญากรรมข้ามชาติในประเทศไทยมีมากขึ้น ซึ่งมีปัญหาจากคนต่างประเทศเข้ามาทำงานในประเทศไทย หรือหลบหนีเข้าเมืองไทย ถ้าพวกนี้เข้ามาทำงานในประเทศไม่พอใจ หรือโกรธนายจ้างขึ้นมาจะก่ออาชญากรรมรุนแรงสะเทือนขวัญประชาชนคนไทยอย่างมาก เช่น คนลาวเป็นฆาตกรโหดฆ่ายกครัว 4 ศพ ใน อ.ชุมแพ จ.ขอนแก่น จึงต้องขอฝากประชาชนในการรับแรงงานต่างด้าว หรือพวกหลบหนีเข้าเมืองมาทำงานในประเทศไทยต้องมีความระมัดระวังยิ่งขึ้น และป้องกันไม่ให้มีแรงงานต่างด้าวก่ออาชญากรรมรุนแรงในประเทศอีกด้วย
พล.ต.ต.สันติ กล่าวเพิ่มเติมว่า การสอบสวนจับกุมของเจ้าหน้าที่ตำรวจในสังกัดภาค 4 ที่ช่วยกันหลังรับแจ้งเหตุไม่เกิน 60 ชั่วโมง ก็สามารถจับกุมคนร้ายได้แม้ว่าเตรียมการหลบหนีไปลาว และคนร้ายยอมรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา ในฐานะผู้บังคับบัญชาจะได้เตรียมจัดหารางวัลพร้อมใบประกาศเกียรติคุณให้กับตำรวจที่จับกุมนายคำพัน พิมพา คนร้ายฆ่าโหดยกครัว 4 ศพ ซึ่งต้องดำเนินคดีไปตามกฎหมายในประเทศไทย เพราะก่อคดีฆ่า 4 ศพที่เป็นคนไทย ในประเทศไทยด้วยซึ่งมีโทษสูงสุดประหารชีวิต แต่ต้องอยู่ในดุลยพินิจของผู้พิพากษาจะวินิจฉัยอย่างไร โดยเฉพาะนายคำพันเป็นคนร้ายที่ก่อเหตุฆ่าชิงทรัพย์นายจ้างยกครัว 4 ศพ และนายคำพันยอมรับสารภาพตลอดข้อกล่าว โทษสูงสุดของกฎหมายไทยคือเป็นการประหารชีวิต
หลังจากนั้น พ.ต.อ.ศรีพงษ์ เตียประพงษ์ ผกก.สภ.ชุมแพ จ.ขอนแก่น พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมนายคำพันได้นำนายคำพันไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพในที่เกิดเหตุซึ่งเป็นพื้นที่ เกิดเหตุ สภ.ชุมแพ ต่อไป
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก มติชนออนไลน์, กรุงเทพธุรกิจ
