ลาก่อน...เพื่อนรัก! (ข่าวสด)
คอลัมน์ ขนหัวลุก
โดย ใบหนาด
"บุ๋ม" เล่าประสบการณ์ขนหัวลุกจากห้องเช่า
"ไอ้แป๋มมันโทร.มาลาเค้า บอกว่าชาติหน้ามีจริงคงจะได้พบกัน! เฮ้ย...มันพูดยังงี้หมายความว่า ยังไงวะแก?"
นุชพูดเสียงกระหืดกระหอบ หน้าตาท่าทางอย่างที่เขาเรียกกันสมัยก่อนว่า "เจ๊กตื่นไฟ" นั่นแหละค่ะ แต่ดิฉันกำลังอบสปาเกตตีที่ซื้อจากเซเว่นฯ มาเป็นอาหารมื้อเย็น รู้นิสัยของเพื่อนข้างห้องดีว่าเป็นยังไง ก็เลยไม่ค่อยสนอกสนใจเท่าไหร่
"เรอะ?" เลิกคิ้วทำหน้าตาย แต่นุชก็ปราดเข้ามาจับมือเขย่าแรงๆ หน้าตาซีดเซียว ทำท่าว่ากำลังตระหนกอกสั่นเต็มที่
"โธ่! จริง ๆ นะแก เค้าไม่ได้มาอำเล่นหรอก ช่วยคิดหน่อยเถอะว่ามันเกิดอะไรขึ้นน่ะ ไอ้แป๋มมันเพิ่งกลับบ้านที่ชุมพรไปเมื่อวันก่อนนี่เอง แล้วจู่ ๆ ก็โทร.มาพูดอะไรบ้า ๆ ยังกะจะลาตายงั้นแหละ!"
"ทำไมไม่โทร.กลับไปถามมันล่ะ?"
"โทร.แล้ว..." นุชเสียงอ่อย ทำหน้าเหมือนจะร้องไห้ "แต่ไม่ยักมีคนรับสายหรอก โทร.ตั้งหลายครั้งแน่ะ ก่อนจะมาเคาะประตูห้องแกน่ะ"
คราวนี้ดิฉันชักงง...จัดการเอาอาหารมื้อค่ำออกจากเตาอบ นุชทิ้งตัวลงนั่งที่เก้าอี้ข้างฝา บ่นพร่ำไปเรื่อยตามนิสัย คิดๆ ก็น่าเห็นใจเหมือนกัน เพราะสองสาวนี่อยู่ด้วยกัน ทำงานที่เดียวกันแถวถนนอโศก ดิฉันเสียอีกที่มาเช่าห้องอยู่ทีหลังพวกเธอ แต่เราก็สนิทสนมกันได้อย่างรวดเร็ว
แป๋มเป็นคนเงียบ ๆ เฉย ๆ ตรงข้ามกับนุชที่ช่างพูดช่างคุยได้สารพัดเรื่อง ชนิดรอบรู้อะราวด์เดอะเวิลด์จริง ๆ แต่หลาย ๆ เรื่องก็พอจะรู้ว่าเจ้าหล่อนมั่วไปเรื่อย อย่างที่เขาเรียกว่าระดับ "มั่วได้ถ้วย" นั่นละค่ะ!
แต่คิดอีกทีก็ดีเหมือนกัน ตรงที่การพูดคุยจ๋อย ๆ แทบไม่หยุดปากของเธอทำให้ดิฉันหายเหงาไปตั้งพะเรอ โดยเฉพาะตอนค่ำ ๆ กับเสาร์อาทิตย์ ที่แป๋มกับนุชมักจะซื้อนั่นซื้อนี่มาทำอะไรกินด้วยกัน เป็นเพื่อนพูดคุยให้สนุกสนานจนกว่าจะถึงเวลาหลับนอน
เรื่องที่นุชเอามาเล่าก็น่าคิดเหมือนกัน แม้ว่าจะเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่งก็ตาม ดิฉันได้แต่ปลอบโยนไปตามเรื่อง บอกว่าเดี๋ยวลองโทร.หาแป๋มดูใหม่...นุชทำตามคำแนะนำแต่ก็ไร้ผลค่ะ
คืนนั้น เธอเลยขออาศัยนอนด้วยเพราะบอกว่าเสียวสันหลังยังไงชอบกล
รุ่งขึ้น นุชตื่นแต่เช้ามืด นั่งหน้าซีดตัวสั่นอยู่บนเตียง ทำหน้าเหมือนจะร้องไห้ออกมา พอเห็นดิฉันตื่นก็รีบเล่าให้ฟังว่า ฝันเห็นแป๋มเข้ามาหาในห้องของเธอ...ในฝัน นั้นเธอนอนคนเดียว ได้ยินเสียงสะอื้นเบาๆ อยู่ข้างเตียง ก่อนจะมองเห็นแป๋มเข้ามายืนอยู่ใกล้ ๆ แล้วชะโงกเข้ามาหา
"ลาก่อนนะ นุช...ถ้าชาติหน้ามีจริง..."
แป๋มพูดไม่ทันจบ เธอก็ยกมือปิดหน้า แทบจะขาดใจตายด้วยความหวาดกลัวเมื่อเห็นร่างของเพื่อนรักเปรอะไปด้วยเลือด สด ๆ แดงฉาน หน้าตาก็เละเทะยับเยินและเต็มไปด้วยเลือดเช่นกัน!
"เค้าจำได้ว่าพยายามกลั้นเสียงร้องอย่างเต็มที่ จนกระทั่งตกใจตื่นขึ้นมา จะปลุกแกก็เกรงใจ เห็นยังหลับเพลิน ๆ น่ะซี"
"เพราะแกคิดถึงเรื่องโทร.แล้วแป๋มไม่ได้รับสายต่างหาก..."
คราวนี้นุชน้ำตาไหลพราก ยกหลังมือขึ้นปาดป้อย ๆ ก่อนจะพูดเสียงขาดเป็นห้วง ๆ ด้วยก้อนสะอื้นที่ประดังขึ้นมา
"พอเค้าตื่นขึ้นก็พอดีไอ้แป๋มโทร.มาหาอีก เสียงมันเย็น ๆ ยังไงไม่รู้ บอกว่า...ลาก่อนนะ เพื่อนรัก ถ้าชาติหน้ามีจริงเราคงได้พบกันอีก..."
"ทำไมฉันไม่ได้ยินเลยล่ะ?" ดิฉันสงสัย นุชก็สั่นหน้าบอกว่าไม่รู้เหมือนกัน...
บอกตรงๆ ว่าตอนนั้นดิฉันคิดว่านุชประสาทหลอนไปเอง หรือไม่แป๋มก็อาจจะเล่นตลกกับเพื่อนก็ได้...
จนกระทั่งแยกย้ายกันไปทำงานแล้ว ตกบ่ายนุชก็โทร.มาหา ร้องห่มร้องไห้จนน่าตกใจ ก่อนจะเล่าว่าเพิ่งได้รับโทรศัพท์จากญาติแป๋ม ว่าเมื่อเย็นวานแป๋มเกิดอุบัติเหตุ ขี่มอเตอร์ไซค์ไปชนกับรถกระบะจนเสียชีวิตคาที่
ข่าวร้ายนี้ทำให้ดิฉันตกตะลึงตัวชาไปหมด แต่อะไรก็ไม่น่าสยดสยองเท่ากับเรื่องที่นุชเล่าว่าแป๋มโทร.มาล่ำลาถึงสอง ครั้ง หลังจากวิญญาณหลุดลอยออกจากร่างไปแล้ว
นุชไม่มีโอกาสได้ไปงานศพเพื่อน แต่มาขออาศัยนอนกับดิฉันหลายคืน ซึ่งดิฉันก็ยินดีต้อนรับอย่างเต็มอกต็มใจ...โธ่! อย่าว่าแต่นุชเลย ดิฉันเองก็ขนหัวลุกเหมือนกันนี่ค่ะ!
ขอขอบคุณข้อมูลจาก