อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ
อภิสิทธิ์ ยันเอกสารลับ เป็นการทำงานปกติรัฐบาล (คมชัดลึก)
วันนี้ (20 ธันวาคม) ผู้สื่อข่าวรายงานความเคลื่อนไหวของ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ว่า เมื่อเวลา 06.35 น. นายอภิสิทธิ์ ได้เดินทางกลับจากการประชุมโลกร้อน ที่กรุงโคเปนเฮเกน ประเทศเดนมาร์ก โดยไม่ให้สัมภาษณ์ใดๆ กับผู้สื่อข่าว จากนั้นในเวลา 08.30 น. ได้เดินทางมายังสถานีโทรทัศน์ช่อง 11 เพื่อออกรายการ "เชื่อมั่นประเทศไทยกับนายกฯอภิสิทธิ์"
ต่อมา นายอภิสิทธิ์ ได้ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย แกนนำกลุ่มเสื้อแดง ยังพยายามเปิดเผยเอกสารลับต่อ ว่า จริง ๆ แล้วในตัวเอกสารตนมั่นใจว่าเป็นเรื่องของการสรุปสถานการณ์การวิเคราะห์ การนำเสนอทางเลือกตั้ง และรัฐบาลโดยตนได้ยืนยันไป และมั่นใจ 100 เปอร์เซ็นต์ ว่าการตัดสินใจทุกอย่างอยู่บนพื้นฐานประโยชน์ของประเทศ และอยู่ในกรอบของกฎหมายทั้งสิ้น เพียงแต่การนำเสนอเอกสาร ตนคิดว่าจะทำให้มีความพยายามที่จะบิดเบือนและทำให้เกิดปัญหาในประเทศบ้าง ระหว่างประเทศบ้าง ซึ่งตนไม่เข้าใจว่าผู้ทำต้องการทำไปเพื่ออะไร ดังนั้น อยากเห็นบ้านเมืองของเรามีความสงบ และอยากเห็นการปกป้องผลประโยชน์ของชาติ
สิ่งที่เเกิดขึ้นเป็นการซ้ำเติมความสัมพันธ์ระหว่างไทย-กัมพูชา ให้หนักขึ้นหรือไม่ อภิสิทธิ์ : คงไม่มีผลมาก เพราะคนกลุ่มเดียวกันไปดำเนินการให้ข้อมูลที่ผิดกับกัมพูชาตลอดเวลาอยู่แล้ว
คิดว่าข้อมูลนี้ตกไปถึงมือ สมเด็จฮุนเซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา แล้วหรือยังอภิสิทธิ์ : เขาคงพูดอะไรอาจจะมากกว่านี้ด้วยซ้ำ เราดูจากความเข้าใจของทางฝ่ายกัมพูชาหลายต่อหลายเรื่องมันไม่ตรงกับความเป็นจริง ก็เป็นเรื่องที่น่าเสียดายว่ามีคนไทยอยู่กลุ่มหนึ่งซึ่งไปทำสิ่งเหล่านี้ และไม่ได้เป็นประโยชน์กับประเทศ
มองอย่างไรที่มีความพยายามพูดถึงการขยายขอบเขตปัญหา ไปจนถึงการทำสงครามระหว่างประเทศ อภิสิทธิ์ : ไม่มี เราจะสามารถที่จะรักษาหรือดูแลให้สถานการณ์ไม่รุกลาม เป็นเรื่องที่จำกัดวงให้ได้และท่าทีของเราชัดเจนมา ในระยะหลังจะเห็นว่าเราไม่มีการไปตอบโต้อะไรทั้งสิ้น เราถือว่าเราได้วางความสัมพันธ์ในจุดที่เหมาะสมกับการกระทำที่เกิดขึ้น และจะไม่ไปตอบสนองการยั่วยุทุกรูปแบบ
ขณะนี้ดูเหมือนว่าการยั่วยุจะรุนแรงมากขึ้น อภิสิทธิ์ : คงไม่เป็นปัญหา รัฐบาลนี้คงไม่ไปเต้นตามจังหวะ ในเรื่องของการยั่วยุระหว่างประเทศให้มากขึ้น
มองว่าเป็นการนำเรื่องนี้มาโหมโรงก่อนการชุนนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงหรือไม่ อภิสิทธิ์ : คงจะเป็นอย่างนั้น เพราะในการชมนุมแต่ละครั้งดูเหมือนมีความพยายามที่จะเอาบางเรื่องขึ้นมา สร้างเป็นเงื่อนไข ซึ่งในอดีตทำกันมาแล้ว เช่น เรื่องคลิปเสียง และเรื่องอื่น ๆ ซึ่งต่อมาก็พิสูจน์แล้วว่าไม่เป็นความจริง
คิดว่าการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงในเดือนมกราคม 2553 จะรุนแรงมากกว่าเดือนเมษายน 2551 ที่ผ่านมาหรือไม่อภิสิทธิ์ : ต้องเฝ้าติดตามอย่างใกล้ชิดว่าเป็นอย่างไร เพราะการชุมนุมในแต่ละครั้งไม่เหมือนกัน เช่นเมื่อวันที่ 10 ธันวาคม เราตรวจสอบดูไม่มีอะไร จึงไม่ได้ใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคงฯ แต่ถ้าการชุมนุมครั้งไหนมีการข่าวว่าจะมีปัญหา เราก็ต้องมีมาตรการรักษาความสงบเรียบร้อย
จะมีปัญหาเพิ่มขึ้นหรือไม่ เพราะตอนนี้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ยังพำนักอยู่ที่กัมพูชาอาจจะบัญชาการกลุ่มคนเสื้อแดงอภิสิทธิ์ : ไม่ทราบว่า พ.ต.ท.ทักษิณ จะอยู่นานแค่ไหน จริง ๆ แล้วไม่ว่าเขาจะอยู่ที่ไหนก็สามารถติดต่อสื่อสารกันได้อยู่แล้ว
พล.อ.สุยุทธ์ จุลานนท์ องคมนตรี ระบุว่าจะเป็นคนกลางประสานระหว่าง พ.ต.ท.ทักษิณ กับรัฐบาลอภิสิทธิ์ : ช่วงที่ พล.อ.สุรยุทธ์ พูดตนไม่ได้อยู่เมืองไทย แต่อ่านจากหนังสือพิมพ์เหมือนกับท่านตอบคำถามว่า ถ้า พ.ต.ท.ทักษิณ โทรศัพท์มาคุยด้วยจะคุยหรือไม่ ท่านก็บอกว่า ก็คุย ซึ่งท่านก็ตอบคำถามแค่นี้
มองอย่างไรที่มีการส่งสัญญาณอาจเกิดความุรนแรง และจะมีการพูดถึงการเจรจาระหว่าง พ.ต.ท.ทักษิณ กับรัฐบาลอภิสิทธิ์ : อาจจะมีความคิดของตัว พ.ต.ท.ทักษิณ เอง หรือคนอื่น ว่าการที่เอาความรุนแรงมาขู่เพื่อที่จะเป็นอำนาจในการต่อรอง คิดในลักษณะนักต่อรองเพื่อผลประโยชน์อาจจะมีแนวคิดของคนรอบ ๆ ตัวก็เป็นได้ แต่ตนยืนยันว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องประโยชน์ของประเทศ ไม่ใช่เรื่องประโยชน์ส่วนตัวของตน ของรัฐบาล หรือใคร ยิ่งไปทำความเสียหายให้กับประเทศ ยิ่งเป็นการท้าทายในการที่จะให้มีข้อยุติในเรื่องของการเจรจาหรืออะไรได้ ก็อยากให้ไปทบทวน ถ้าใครไปรับคำแนะนำจากใคร หรือยังมีกรอบความคิดอย่างนี้อยู่ ยืนยันว่าไม่มีการเอาเรื่องนี้มาต่อรอง เพราะถ้าเราปล่อยให้เอาความรุนแรง ความเสียหายของประเทศมาต่อรองจะเป็นแบบอย่างที่ไม่ดีอย่าง ยิ่งต่อไปในอนาคตกลายเป็นว่าใครทำความเสียหายให้กับประเทศก็มีสิทธิที่เรียกร้อง
ช่องทางการเจรจาระหว่าง พ.ต.ท.ทักษิณ กับรัฐบาลปิดตายแล้วใช่หรือไม่อภิสิทธิ์ : ไม่มีอะไรปิดตาย แต่ปัญหาคือจะเจรจาเครื่องอะไร ตนยืนยันจุดยืนเดิมว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ต้องนอมรับระบบกฎหมมายไทย และคิดว่าเมื่อไหร่ที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ยอมรับระบบกฎหมายไทยสังคมก็ให้อภัย
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก ไทยรัฐ
