อภิสิทธิ์ ปลื้มผลงาน 1 ปี รัฐบาลลุย 6 ภารกิจสำเร็จ

อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ

อภิสิทธิ์ ปลื้มผลงาน 1 ปี รัฐบาลลุย 6 ภารกิจสำเร็จ (มติชนออนไลน์)

          ครบรอบ 1 ปี รบ.อภิสิทธิ์ โว 6 ภารกิจสำเร็จ อภิสิทธิ์ยังไม่พอใจปัญหาใต้ - ทุจริตพอเพียง - งบฯไทยเข้มแข็ง พร้อมหยุดเมื่อมีเสียงครหา พิสูจน์ความโปร่งใส ปลื้มประกันรายได้ - เรียนฟรี - เบี้ยยังชีพ 

          นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 22 ธันวาคม ที่ทำเนียบรัฐบาล ว่า รัฐบาลจะใช้เวลาแถลงผลงานรอบ 1 ปี ในวันที่ 23 ธันวาคม ประมาณ 30 - 40 นาที ส่วนเรื่องการซักถาม คงให้ถามในวันอื่นจะได้มีเวลาไปคิดคำถาม สำหรับผลงานที่ยังไม่พอใจจะมีการแถลงด้วยหรือไม่นั้น นายกฯกล่าวว่า หากถามว่ามีงานด้านไหนพอใจหรือไม่พอใจคงต้องแยกบางเรื่อง เช่น การแก้ปัญหาภาคใต้ไม่มีใครมีสิทธิที่จะพอใจผลที่เป็นอยู่ในขณะนี้ เพราะความรุนแรงยังมีอยู่ถึงจะลดลงก็ตาม และอยู่ในระดับที่ยังไม่พอใจ แต่ไม่ได้หมายความว่าไม่พอใจในตัวนโยบาย เพราะยังมีความเชื่อว่านโยบายที่ทำอยู่เป็นนโยบายที่ถูกต้อง แต่ต้องเดินหน้าให้เร็วขึ้น เดินหน้าเป็นรูปธรรมมากขึ้น

          "สำหรับโครงการที่สะดุดไปด้วยเหตุที่มีปัญหาเรื่องการทุจริต เช่น ชุมชนพอเพียง หรือโครงการไทยเข้มแข็ง ของกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ที่ยังช้าอยู่ก็ต้องบอกว่ายังไม่พอใจเพราะถ้าอยากให้เป็นไปตามที่ตั้งใจไว้โครงการก็ต้องเดินหน้าได้แล้ว แต่เราก็พร้อมที่จะหยุดเพื่อให้เกิดความโปร่งใสชัดเจน ก็เป็นสิ่งที่เราชั่งน้ำหนักดูและต้องรักษาความสมดุลไว้ โครงการไหนถ้ามีข้อมูล ข้อครหาว่าทุจริตจะต้องตรวจสอบให้โปร่งใสก่อนค่อยเดิน เราก็พร้อมที่จะทำเพราะเราต้องการรักษามาตรฐานในเรื่องความโปร่งใสด้วย" นายอภิสิทธิ์ กล่าว

          นอกจากนี้ นายกฯยังกล่าวถึงโครงการที่พอใจและภูมิใจว่า "มีหลายโครงการ อย่างเช่น โครงการประกันรายได้ การผลักดันเรื่องการเรียนฟรี การทำระบบสวัสดิการซึ่งเยอะมาก ทั้งเรื่องเบี้ยยังชีพ เบี้ยคนพิการที่กำลังเริ่มในเดือนเมษายน ปี 2553 การผลักดันกองทุนเงินออม กำลังสมทบเงินในกองทุนสวัสดิการชุมชน งานเหล่านี้ผมถือว่าเป็นนโยบายที่หลายคนพูดมานานแต่ไม่ได้ทำ และที่ทำไม่ได้ทำแก้ปัญหาเฉพาะหน้าแต่กำลังวางระบบไว้สำหรับอนาคตด้วย รวมทั้งภาพรวมของเศรษฐกิจ ภาพรวมของประเทศที่เดินหน้ามาในช่วงปีกว่า ๆ ผมถือว่าเป็นสิ่งที่ได้ทำให้เราได้แก้ไขปัญหาที่รุนแรงมากในช่วงที่ผมเข้ามาทำหน้าที่ได้ระดับหนึ่ง" 

          นายกฯ ยังกล่าวกรณีพอใจเรื่องการสร้างความสมานฉันท์ในชาติ ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) ให้เกรดดี (D) หรือแค่คาบเส้นหรือไม่ว่า ไม่ได้พอใจเรื่องสถานภาพ เพราะยังมีความขัดแย้งอยู่ แต่สิ่งที่ได้ยืนยันและปฏิบัติให้เห็นตลอดมา คือรัฐบาล แม้ว่าจะมีผู้ไม่เห็นด้วยและขัดแย้งก็ไม่ใช้ความรุนแรง โดยให้โอกาส สิทธิและเสรีภาพ อีกทั้งไม่ปล่อยให้ปัญหาความขัดแย้งมาเป็นอุปสรรคต่อการบริหารจะเห็นได้จากการทำงานในสภา แม้จะขลุกขลักแต่ก็ผลักดันงานออกมา รวมถึงนโยบายสำคัญ ๆ เอาเป็นว่า ในสายตาต่างประเทศ ที่เมื่อปลายปีที่แล้วมองว่ารัฐบาลในประเทศไทยจะขยับไปทางไหนไม่ได้เลย แต่ปีนี้ก็ยอมรับว่าสามารถขับเคลื่อนแก้ปัญหาวิกฤตเศรษฐกิจได้ และบางด้าน เช่น ปัญหาการว่างงาน ทำได้ค่อนข้างจะดีเมื่อเทียบเคียงกับที่อื่น ๆ ซึ่งมีตัวเลขการว่างงานที่อยู่จุดสูงสุดในระดับที่ต่ำมากกว่าประเทศอื่นที่เจอวิกฤต แต่ขณะนี้ก็เริ่มลดลงเร็วกว่าที่อื่น

  ผู้สื่อข่าวถาม มั่นใจหรือไม่ว่าจะจำกัดหรือขีดวงความขัดแย้งไว้ได้ 

          นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า เป็นการพูดถึงเรื่องของอนาคต เป็นเรื่องที่ต้องทำต่อ ถึงอยากชี้ให้เห็นว่า 1 ปีที่ผ่านมาแม้การทำงานจะไม่เป็นที่น่าพอใจของทุกคน และมีหลายเรื่องที่ต้องปรับปรุง แต่ถ้ามีความวุ่นวายในบ้านเมืองจากนี้ไปก็จะทำให้ประเทศสูญเสียโอกาสอย่างมาก เพราะขณะนี้ 1 ปีที่ผ่านมาก็มีการวางรากฐานที่จะเดินหน้าต่อไว้แล้ว เมื่อถามว่า แล้วพอใจผลงานด้านการแก้ปัญหาเศรษฐกิจมากน้อยแค่ไหน นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า เชื่อว่าตัวเลขการขยายตัวทางเศรษฐกิจน่าจะอยู่ที่ร้อยละ 3.5 แต่ต้องมีการปรับไปตามข้อมูลที่เข้ามา อีกทั้งยังมีปัจจัยที่ยังมีความอ่อนไหวอยู่ เช่น ราคาน้ำมัน เศรษฐกิจโลก รวมถึงปัญหาภายในเองด้วย 

          นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่ฝ่ายค้านโจมตีผลงานรอบ 1 ปีรัฐบาลล้มเหลว โดยเฉพาะการแก้ปัญหาความแตกแยกในบ้านเมือง ว่า ถ้ากระบวนการสมานฉันท์จะล้มเหลวก็เพราะฝ่ายค้านไม่ร่วมมือ ทุกคนจะเห็นได้ว่าตลอดเวลาที่ผ่านมา รัฐบาลได้ใช้ความอดทน หลีกเลี่ยงการปะทะกับฝ่ายค้านและกลุ่มประชาชนที่ฝ่ายค้านจัดตั้งขึ้นตลอดเวลา แม้กระทั่งช่วงที่ก่อจลาจลทำให้บ้านเมืองเสียหาย ถ้าฝ่ายค้านได้ปฏิบัติอย่างเดียวกับที่รัฐบาลทำ บ้านเมืองก็จะสงบเรียบร้อยกว่านี้

          "ฝ่ายค้านต้องยึดกฎหมาย ไม่ใช่ในสภาทำหน้าที่ฝ่ายค้าน นอกสภาก็นำคนมาทำผิดกฎหมาย บ้านเมืองก็ไปลำบาก" นายสุเทพ กล่าว

  เมื่อถามว่า รัฐบาลนี้ถูกมองจากหลายฝ่ายว่าล้มเหลวในการปราบปรามการทุจริตจะปรับปรุงอย่างไร 

          นายสุเทพ กล่าวว่า ยืนยันว่านายกฯให้ความสำคัญและพยายามสกัดยับยั้ง

  เมื่อถามว่า ส.ว.บางส่วนโจมตีว่าตัวนายกฯมือสะอาดแต่คนรอบข้างไม่สะอาด

          นายสุเทพ กล่าวว่า ผมก็เห็นว่าเขาก็ยังสะอาดเรียบร้อยกันดี ดูกันด้วยสายตา

          นพ.บุรณัชย์ สมุทรักษ์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ แถลงผลการประชุมพรรคว่า ที่ประชุมประเมินการทำงานของพรรคในช่วง 1 ปี สามารถทำภารกิจสำเร็จ 6 ด้านคือ

          1. พิทักษ์ระบบสถาบันสูงสุด โดยรัฐบาลได้ทำทุกวิธีทางเพื่อไม่ให้สถาบันเข้ามามีส่วนในความขัดแย้งทางการเมือง

          2. นำพาบ้านเมืองพ้นวิกฤติโดยเปรียบเทียบพบว่าดีขึ้นกว่าปีที่ผ่านมาอย่างชัดเจน 1 ปีที่ผ่านรัฐบาลสามารถรักษาความสงบในบ้านเมืองได้

          3. วิกฤตเศรษฐกิจโดยรัฐบาลสามารถทำให้พ้นจากจุดต่ำสุดด้วยมาตรการต่างๆ จนทำให้เศรษฐกิจกลับมาบวกอีกครั้ง

          4. ปัญหาเรื่องความแตกแยกที่เกิดจากปัญหาทางการเมือง รัฐบาลสามารถดำเนินการด้วยการไม่แบ่งแยกประชาชนด้วยวิธีการต่างทุกรูปแบบ รวมทั้งหาข้อยุติโดยให้ประชาชนทำประชามติ

          5. ผลักดันนโยบายหลักของพรรคไม่ว่าจะเป็น เรื่องเรียนฟรี เบี้ยยังชีพ ไทยเข้มแข็ง และอื่น ๆ 

          6. เสริมสร้างความเข้มแข็งและรักษาระบบประชาธิปไตย โดยหนุนให้มีการทำงานในระบบรัฐสภา เพื่อแก้ปัญหาประเทศชาติและสังคม ไม่เข้าไปแทรกแซงองค์กรอิสระ

          ทั้งนี้ พรรคประชาธิปัตย์จัดงานเลี้ยงสังสรรค์ปีใหม่ และฉลองรัฐบาลทำงานครบรอบ 1 ปี ที่ห้องประชุมพรรค ชั้น 3 อาคาร ม.ร.ว.เสนีย์ ปราโมช งานเริ่มต้นขึ้นเมื่อเวลา 17.30 น. โดยจัดอาหารไทยจีน ฝรั่ง และญี่ปุ่นจากโรงแรงแกรนด์ ไฮแอท เอราวัณ มาเลี้ยงบรรดารัฐมนตรี ส.ส. สมาชิกพรรคที่เข้าร่วมงานอย่างคึกคัก นำโดยนายอภิสิทธิ์ หัวหน้าพรรค นายบัญญัติ บรรทัดฐาน กรรมการสภาที่ปรึกษาพรรค นายชุมพล กาญจนะ ประธาน ส.ส.พรรค และบรรดารัฐมนตรี ขณะที่ ส.ส.พรรคซึ่งไม่ได้พบปะกันมานานเนื่องจากอยู่ระหว่างปิดสมัยประชุมสภา ต่างจับกลุ่มพูดคุยกับอย่างยิ้มแย้มแจ่มใส ท่ามกลางการบรรเลงขับกล่อมโดยวงดนตรีคลาสสิก

          แหล่งข่าวเปิดเผยว่า ในการประชุม ส.ส.พรรควันเดียวกันนี้ นายอภิสิทธิ์กล่าวตอนหนึ่งว่า "ถ้าจะถามว่า 1 ปีที่ผ่านมา รัฐบาลมีผลงานหรือไม่ ตอบได้เลยว่า ผลงานมีเยอะ ถ้าจะให้เขียน ๆ ได้เป็นร้อยเรื่องโดยใช้เวลาไม่กี่นาที ทำให้บรรดา ส.ส.ต่างปรบมือลั่นพร้อมส่งเสียงเฮด้วยความชอบใจ"

          นายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ว.สรรหา แกนนำกลุ่ม 40 ส.ว. กล่าวว่า ส่วนตัวมองว่า รัฐบาลนี้แก้ปัญหาเศรษฐกิจได้ดีกว่า นับตั้งแต่รัฐบาล พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ เป็นต้นมา โดยพอจะมีผลงานบ้างในการประคองเศรษฐกิจไม่ให้ตกต่ำ และทำให้มีมุมเงยขึ้นบ้างจากติดลบมาเป็นบวกเล็กน้อย ในแง่ภาพรวมด้านแก้เศรษฐกิจ ขอให้คะแนน 75 เปอร์เซ็นต์ อย่างไรก็ดี ในทางกลับกัน เมื่อหาเงินกูมาได้ 8 แสนล้านบาทก็มีปัญหาความไม่โปร่งใสมาก คะแนนเรื่องการปราบคอร์รัปชั่นจึงได้ที่คาบเส้น 50 เปอร์เซ็นต์ โดยปัญหาอยู่ที่โครงสร้างการเมืองที่เป็นรัฐบาลผสม ผู้นำรัฐบาลไม่สามารถควบคุมได้เด็ดขาด พรรคร่วมรัฐบาลมีข้อสงสัยในหลายโครงการ ขณะที่รัฐมนตรีของพรรคบางคนก็มีข้อสงสัยในโครงการที่ดูแลเช่น โครงการชุมชนพอเพียง โครงการไทยเข้มแข็งขอ สธ. ซึ่งภาพรวมยังมีสภาพเหมือนยุคบุฟเฟ่ต์คาบิเนต 

          ขณะที่ นายสุชาติ ลายน้ำเงิน รองโฆษก พท. กล่าวตอบโต้นายบุญยอด สุขถิ่นไทย รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ แถลงสรุปผลงาน 1 ปีของ พท.ในหัวข้อ "สิ่งที่ควรทำและไม่ควรทำในรอบ 1 ปี" ว่า นายบุญยอดไม่ควรที่จะออกมาแถลงเช่นนี้ เพราะที่ผ่านมารัฐบาลไม่มีผลงานแต่อย่างใด แม้แต่นโยบาย 99 วันทำได้จริงก็ไม่สามารถทำได้จริงตามชื่อนโยบาย โดยเฉพาะการแก้ไขปัญหาชายแดนภาคใต้ หนำซ้ำรัฐบาลชุดนี้ยังมีปัญหาการทุจริตในโครงการต่าง ๆ เป็นจำนวนมาก ส่วนเรื่ององค์ประชุมสภาที่ล่มบ่อยครั้งนั้นเรื่องนี้เป็นหน้าที่ของรัฐบาลที่จะต้องดูแลเสียงจากพรรคร่วมรัฐบาลไม่เกี่ยวกับพรรคฝ่ายค้าน "การบริหารงานของรัฐบาล 1 ปีที่ผ่านมานั้น ผมขอตั้งฉายาให้ว่า รัฐบาล 4 ก."

          1. ก.กู้ เพราะถนัดกู้เงินทุกชนิด 

          2. ก.โกง โกงทุกโครงการในทุกกระทรวง 

          3. ก.เก็บ ถนัดแต่การเก็บภาษีประชาชนทั้งการขึ้นภาษีสรรพสามิต การขึ้นภาษีเหล้า

          4. ก.กิน ที่โครงการทุกอย่างในรัฐบาลถูกนำไปแบ่งเป็นผลประโยชน์กันระหว่างพรรคร่วมรัฐบาล"  รองโฆษก พท.กล่าว


ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก