นักเที่ยวโวย ขรก.เหนือ กร่าง! ร้องคาราโอเกะลั่นอุทยานฯ น่าน

นักเที่ยวโวย ขรก.เหนือ กร่าง! ร้องคาราโอเกะลั่นอุทยานน่าน จนท.ไม่กล้าหือ ต้องโพสประจานในเว็บไซต์ (มติชนออนไลน์)

          นักท่องเที่ยวโวยแขกวีไอพี ขรก.ภาคเหนือ เข้าพักอุทยานฯ ขุนสถาน จ.น่าน ร้องคาราโอเกะเสียงดังผิดกฏอุทยาน เจ้าหน้าที่ไม่กล้าหือ ต้องโพสข้อความลงในเว็บไซต์ Pantip ประจาน อธิบดีกรมอุทยานฯ ขอโทษสั่งทุกแห่งปฏิบัติตามกฎเข้มงวด

          เมื่อวันที่ 23 ธันวาคม ผู้สื่อข่าวสายสิ่งแวดล้อมประจำกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) ได้รับร้องเรียนจากกลุ่มนักท่องเที่ยวที่เดินไปท่องเที่ยวยังอุทยานแห่งชาติขุนสถาน อ.นาน้อย จ.น่าน ว่า ได้รับความเดือดร้อนจากกรณีกลุ่มข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ในจังหวัดภาคเหนือ ซึ่งอ้างตัวว่าเป็นนักท่องเที่ยวระดับวีไอพี ของอุทยานฯ ขุนสถาน เข้าไปเปิดห้องพัก พร้อมกับร้องคาราโอเกะ และเปิดเพลงเต้นรำ ส่งเสียงดังโหวกเหวกโวยวายตลอดทั้งคืนเมื่อช่วงกลางเดือนธันวาคมที่ผ่านมา โดยที่เจ้าหน้าที่อุทยานฯ ขุนสถาน ไม่กล้าห้ามปรามนักท่องเที่ยวกลุ่มดังกล่าวให้หยุดทำเสียงดังได้ ทั้ง ๆ ที่เขตอุทยานแห่งชาติมีกฏชัดเจนว่า ห้ามส่งเสียงดังในยามค่ำคืน เพราะนอกจากจะสร้างความเดือดร้อนรำคาญแล้วยังรบกวนสัตว์ในป่าอีกด้วย ทั้งนี้ กลุ่มนักท่องเที่ยวดังกล่าวยังสั่งเจ้าหน้าที่อุทยานฯ ขุนสถาน ห้ามนักท่องเที่ยวรายอื่น ๆ เข้าพักในบ้านพักของอุทยานฯ เพราะต้องการจะกันเอาไว้รับรองเฉพาะแขกของกลุ่มข้าราชการวีไวพีกลุ่มนี้เท่านั้น
 
          ผู้สื่อข่าวได้สอบถามข้อร้องเรียนดังกล่าวไปยัง นายจตุพร บุรุษพัฒน์ อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) โดยนายจตุพร กล่าวว่า ได้รับรายงานเรื่องนี้แล้ว และยอมรับว่า เป็นเรื่องจริง นอกจากนี้ กลุ่มนักท่องเที่ยวที่ได้รับความเดือดร้อนร้องเรียนที่กรมอุทยานฯ แล้ว ยังได้ไปโพสข้อความลงในเว็บไซต์พันทิป (http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E8654264/E8654264.html) ด้วย จนก่อให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ ถึงการใช้อิทธิพลของกลุ่มข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ในจังหวัดภาคเหนืออย่างกว้างขวาง ว่าทำตัวไม่เหมาะสม และทำผิดกฎระเบียบในการท่องเที่ยวอุทยานฯ
 
          "เรื่องนี้ผมไปอ่านเจอในพันทิป และได้เข้าไปโพสข้อความขอโทษและแสดงความเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในเว็บไซต์แล้วในความเห็นที่ 211-213  ส่วนการกระทำของกลุ่มข้าราชการชั้นผู้ใหญ่กลุ่มนั้น ผมก็ได้ทำหนังสือแจ้งให้หน่วยงานปกครองทราบแล้วเช่นกัน ทั้งนี้ ระเบียบปฏิบัติในการเข้าไปท่องเที่ยวอุทยานแห่งชาติให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์อย่างเข้มงวด สำหรับหัวหน้าอุทยานฯ ขุนสถาน ก็ได้สอบสวนเพื่อลงโทษทางวินัยแล้วเช่นกัน" นายจตุพร กล่าว
 
          นายจตุพร กล่าวว่า ปัญหาการใช้อำนาจของผู้มีอิทธิพล โดยเฉพาะกลุ่มข้าราชการ รวมทั้งนักการเมือง เพื่อขอสิทธิพิเศษเข้าไปท่องเที่ยวในอุทยานแห่งชาตินั้นสร้างความหนักใจให้กับกรมอุทยานฯ มานาน ดังนั้นในช่วงเทศกาลปีใหม่นี้ ซึ่งเป็นวันหยุดต่อเนื่อง จะมีนักท่องเที่ยวไปท่องเที่ยวในอุทยานฯ จำนวนมาก จึงกำชับให้อุทยานแห่งชาติทั้ง 148 แห่งทั่วประเทศ เข้มงวดกับนักท่องเที่ยวที่ชอบใช้สิทธิพิเศษ ไม่ว่าจะเป็นการขอที่พัก หรือการใช้เสียงดังรบกวนนักท่องเที่ยวรายอื่น ให้ปฎิบัติตามกฎระเบียบของอุทยานฯ
 
          นายจตุพร กล่าวอีกว่า ในช่วงปีใหม่ขณะนี้ที่พักในอุทยานแห่งชาติทั้งหมดเต็มเกือบทุกแห่งแล้ว ส่วนปัญหาที่มักเกิดขึ้นคือ ขยะล้น การจราจรแน่น พื้นที่กางเต้นท์และสุขาไม่เพียงพอ รวมถึงการนำสัตว์เลี้ยงไปท่องเที่ยวด้วย ได้เตรียมการแก้ไขไว้แล้วโดยประสานกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น โดยเฉพาะในสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยม อาทิ เขาใหญ่ น้ำตกเจ็ดสาวน้อย ดอยอินทนนท์
 
          ด้าน นายวีรวิทย์ วิวัฒนวานิช ผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน กล่าวว่า ขอชี้แจงว่าไม่ได้เป็นผู้นำคณะเข้าไปพักในพื้นที่ดังกล่าว นักท่องเที่ยวกลุ่มนี้เป็นคณะวีไอพี จากจ.แพร่ ที่มาบรรยายสรุปเรื่องการเตรียมการในช่วงปีใหม่
 
          "ผมก็เดินทางไปฟังข้อสรุปดังกล่าวด้วย แต่ไปเวลาประมาณ 20.00 น. ยอมรับว่า มีการกางจอโปรเจคเตอร์เพื่อร้องเพลงคาราโอเกะกันจริง และได้รับทราบว่า มีนักท่องเที่ยวไปร้องเรียนกับเจ้าหน้าที่จริง แต่สาเหตุที่นักท่องเที่ยวไม่พอใจส่วนหนึ่งเชื่อว่าเป็นเพราะนักท่องเที่ยวคนดังกล่าวไม่สามารถนำรถเข้าไปจอดในพื้นที่ได้ เนื่องจากเดินทางมาถึงช้ากว่านักท่องเที่ยวกลุ่มอื่น ทำให้พื้นที่เต็ม และไม่มีพื้นที่กางเต้นท์ จึงไม่พอใจ" นายวีรวิทย์ กล่าว
 
          ขณะที่ นายฉัตรชัย โยธาวุธ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติขุนสถาน อ.นาน้อย จ.น่าน เปิดเผยถึงกรณีอุทยานแห่งชาติขุนสถานต้อนรับคณะของนายวีรวิทย์ วิวัฒนวานิช ผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน และแขกพิเศษอย่างไม่เหมาะสม ปล่อยให้มีการใช้เครื่องเสียง เปิดเพลงและร้องคาราโอเกะเสียงดังรบกวนความสงบของธรรมชาติ  ว่า ได้รับแจ้งจากอธิบดีกรมอุทยานฯ ให้ปฏิบัติตามระเบียบอย่างเคร่งครัด พร้อมทั้งชี้แจงกับ ผู้ว่าฯ น่านถึงเรื่องดังกล่าวแล้ว วันเกิดเหตุมีนักท่องเที่ยวมาขอใช้พื้นที่กางเต็นท์พักแรม แต่เนื่องจากบนอุทยานฯ มีสถานที่จอดรถจำกัด ต้องกันบริเวณไว้ สำหรับคณะของผู้ว่าฯ น่าน ที่จะมาตรวจงาน ประกอบกับนักท่องเที่ยวเดินทางมาถึงหลังเวลา 17.00 น. แล้ว จึงผ่อนผันให้เข้าไปหาพื้นที่กางเต็นท์ หลังจากนั้น คณะของผู้ว่าฯ น่าน เดินทางมาถึงเวลาประมาณ 20.00 น. แล้วจึงมีการบรรยายสรุปข้อมูลให้ฟังถึงเวลา 21.00 น. แล้วจึงเลี้ยงอาหารและร้องคาราโอเกะกันจนถึงเวลา 22.00 น. เท่านั้น ต้องขออภัยนักท่องเที่ยวที่ทำให้ไม่พอใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น
 
          "ต่อไปจะปรับปรุงการให้บริการ และให้นักท่องเที่ยวต้องปฏิบัติตามระเบียบอย่างเท่าเทียมกันทุกฝ่าย ส่วนกรณีของท่านผู้ว่าฯ น่าน นั้น ทางอธิบดีกรมอุทยานฯ จะไปทำความเข้าใจกันเอง " นายฉัตรชัย กล่าว
 
          ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวติดต่อขอเข้าพบกับ นายวีรวิทย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน เพื่อขอคำชี้แจงถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่ได้รับคำตอบจากเจ้าหน้าที่ศาลากลางจังหวัดน่าน ว่า ผู้ว่าฯ น่าน ไม่อยู่ในพื้นที่ เดินทางไปกรุงเทพฯ
 
          อย่างไรก็ตาม แหล่งข่าวระดับสูงชี้แจงเรื่องนี้ว่า วันเกิดเหตุนั้นทางอุทยานฯ ขุนสถาน เชิญผู้ว่าฯ น่าน ไปรับฟังบรรยายสรุป เพื่อของบประมาณพัฒนาจังหวัดไปสร้างถนนเข้าอุทยานฯ ซึ่งคณะของผู้ว่าฯ น่าน พักอยู่ห่างไกลจากกลุ่มนักท่องเที่ยวที่กางเต็นท์พักแรม โดยมีคณะวีไอพี และสื่อมวลชนจาก จ.แพร่ พักอยู่ใกล้กว่า และเปิดเครื่องเสียงร้องคาราโอเกะกันอย่างสนุกสนานจนดึก



ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก