x close

เล็งขยายเวลาลงทะเบียน แก้หนี้นอกระบบ

หนี้นอกระบบ



เล็งขยายเวลาลงทะเบียนแก้หนี้นอกระบบ (เดลินิวส์)

          "กรณ์" เล็งขยายเวลาลงทะเบียน "แก้หนี้นอกระบบ" ไม่มีกำหนด เผยคนไทยมีหนี้ 133,293 บาท/ครัวเรือน

          นายกรณ์ จาติกวณิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวเมื่อวันที่ 28 ธ.ค. ว่า เตรียมหารือกับผู้บริหารธนาคารออมสิน และธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เพื่อขอขยายเวลาการลงทะเบียนโครงการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบให้ประชาชนออกไป โดยไม่มีกำหนด จากเดิมจะสิ้นสุดการลงทะเบียนในวันที่ 30 ธ.ค.นี้ เพื่อเปิดโอกาสให้ประชาชนได้รับการแก้ไขปัญหาอย่างทั่วถึง หลังจากประเมินว่า ถึงสิ้นเดือนนี้จะมีผู้มาลงทะเบียนประมาณ 7 แสนคน ซึ่งต่ำกว่าเป้าที่ตั้งไว้ที่ 1 ล้านคน ทั้งนี้ ประชาชนสามารถลงทะเบียนตามขั้นตอน และสถานที่กำหนดไว้ตามปกติ
 
          "ผมคิดว่า ไม่มีเหตุผลที่จะปิดโครงการ เพราะโครงการนี้ไม่ใช่โครงการฉาบฉวย อาจมีประชาชนบางส่วนที่ยังไม่ได้มาลงทะเบียน เพราะไม่มั่นใจว่า รัฐบาลจะสามารถทำได้จริงหรือไม่ แต่เมื่อเขาเห็นผลสัมฤทธิ์ของโครงการ ก็จะมาลงทะเบียนเพิ่มขึ้น สำหรับผู้ที่ลงทะเบียนแล้ว ขณะนี้เจ้าหน้าที่เริ่มแยกแยะข้อมูลของลูกหนี้นอกระบบ โดยจะเร่งพิจารณากลุ่มลูกหนี้ที่มีความเดือดร้อนมากเป็นอันดับต้น ๆ เช่น ลูกหนี้นำโฉนดที่ดินไปจำนองกับเจ้าหนี้ แล้วไม่มีที่ดินทำมาหากิน โดยจะเริ่มเห็นการปรับโครงสร้างหนี้ตั้งแต่เดือน ม.ค.ปีหน้าเป็นต้นไป" นายกรณ์ กล่าว
 
          นายกรณ์ กล่าวว่า นอกจากนี้ กระทรวงการคลังและธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) จะเร่งศึกษาการทำธุรกิจเงินกู้นอกระบบให้เป็นธุรกิจเงินกู้ที่ถูกต้อง ภายใต้การกำกับของ ธปท. โดยเเนวทางดำเนินการอาจจะออกใบอนุญาตให้กับเจ้าหนี้นอกระบบให้ถูกต้อง และอยากให้ทันตามแผนพัฒนาระบบสถาบันการเงิน ฉบับที่ 2 ที่จะอนุญาตให้กับธุรกิจสินเชื่อรายย่อย หรือไมโครไฟแนนซ์ คาดว่า จะเริ่มดำเนินการภายในปี 2553 และมีผลในปี 2554 เพื่อให้ประชาชนระดับรากหญ้าสามารถเข้าถึงแหล่งสินเชื่อได้มากขึ้น สอดคล้องกับการดำเนินชีวิตของประชาชน และเป็นการแก้ปัญหาหนี้นอกระบบด้วย ต้องยอมรับว่า ตอนนี้ยังมีประชาชน 1 แสนคน-1 ล้านคน ยังมีความต้องการกู้ยืมหนี้นอกระบบอยู่
 
          วันเดียวกัน นางจีรวรรณ บุญเพิ่ม ผู้อำนวยการสำนักงานสถิติแห่งชาติ (สสช.) เปิดเผยผลสำรวจภาพรวมเศรษฐกิจ และสังคมไทย ก่อนก้าวสู่ปี 2553 ว่า ของขวัญปีใหม่ที่ประชาชนต้องการจากรัฐบาลมากที่สุด คือ ขอให้แก้ปัญหาหนี้สิน และเงินกู้นอกระบบ คิดเป็นสัดส่วน 38% รองลงมา ได้แก่ ความยากจน 32.3% ราคาสินค้าอุปโภค บริโภค 32.2% ผลผลิตการเกษตรราคาตกต่ำ 30.3% และราคาน้ำมันแพง 24.4%
 
          ผู้อำนวยการสำนักงานสถิติฯ กล่าวว่า ทั้งนี้ ผลการสำรวจความเดือดร้อนที่ประชาชนได้รับตลอดปี 2552 เป็นปัญหาหนี้สิน และเงินกู้นอกระบบ คิดเป็นสัดส่วน 40.3% โดยจำนวนครัวเรือนที่เป็นหนี้มีสูงถึง 11.8 ล้านครัวเรือน แบ่งเป็นที่มีหนี้ในระบบ 9.8 ล้านครัวเรือน และที่มีหนี้นอกระบบ 0.9 ล้านครัวเรือน และเป็นครัวเรือนที่มีทั้งหนี้ในระบบ และหนี้นอกระบบ 1.1 ล้านครัวเรือน โดยหนี้ในระบบมีมูลหนี้เฉลี่ย 127,152 บาท ส่วนใหญ่เกิดจากการซื้อบ้าน และที่ดิน ขณะที่หนี้นอกระบบมีมูลหนี้เฉลี่ย 6,140 บาท ส่วนใหญ่นำมาใช้จ่ายเพื่อการอุปโภคบริโภคในครัวเรือน

          นางจีรวรรณ กล่าวว่า อย่างไรก็ตาม ครัวเรือนที่เป็นหนี้ มีหนี้โดยเฉลี่ยเพิ่มขึ้นจาก 116,681 บาท ในปี 2550 เป็น 133,293 บาท ในปี 2552 หรือคิดเป็นอัตราส่วนหนี้สินต่อรายได้ 6.3 เท่า สูงกว่าเมื่อ 10 ปีที่ผ่านมา อยู่ที่ 5.6 เท่า นอกจากนี้ ประชาชนยังเดือดร้อนจากปัญหาผลผลิตทางการเกษตรตกต่ำ คิดเป็นสัดส่วน 34.7% ปัญหาไม่มีงานทำ 22.1% ปัญหาไม่มีเงินทุนในการประกอบอาชีพ 21.3% และปัญหาเรื่องปุ๋ย ยาปราบศัตรูพืชราคาแพง 21%

          นางจีรวรรณ กล่าวว่า สำหรับปัญหาการว่างงานนั้น ช่วงปลายปีถือว่า มีแนวโน้มที่ดีขึ้น ปรับตัวจาก 8.8 แสนคน เหลือ 4.1 แสนคน โดยพบว่า มีการจ้างงานเพิ่มขึ้นในสาขาขายส่ง ขายปลีก โรงแรม ภัตตาคาร ขนส่ง การศึกษา และอสังหาริมทรัพย์ จะเห็นว่า ปัญหาที่ประชาชนส่วนใหญ่ต้องการให้รัฐบาลเข้ามาดูแลเป็นเรื่องเกี่ยวกับปากท้องของประชาชน การแก้ปัญหาหนี้สิน เป็นปัญหาที่รัฐบาลเห็นความสำคัญ และกำลังดำเนินการ โดยเฉพาะการแก้ปัญหาหนี้นอกระบบเป็นเรื่องที่น่าจะมาถูกทิศทางแล้ว" ผู้อำนวยการสำนักงานสถิติฯ กล่าว และว่า ปัญหาที่น่าเป็นห่วงสำหรับสังคมไทย คือ การดื่มสุราที่เพิ่มขึ้นทั้งในผู้ชาย และผู้หญิง ทำให้ภาพรวมการดื่มสุราเพิ่มขึ้นจาก 29.3% ในปี 2550 เป็น 32.2% และกลายเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้เกิดปัญหาอุบัติภัยบนท้องถนน และความรุนแรงในครอบครัว


ขอขอบคุณข้อมูลจาก

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
เล็งขยายเวลาลงทะเบียน แก้หนี้นอกระบบ อัปเดตล่าสุด 29 ธันวาคม 2552 เวลา 11:05:52 4,820 อ่าน
TOP