รวบ 2 พ่อลูกโจรกรรมสายเคเบิ้ลโทรศัพท์ ทำให้สื่อสารเสียหาย (มติชนออนไลน์)
ที่บริเวณหน้าสำนักงานตำรวจภูธรภาค 3 ถ.สรรพสิทธิ์ อ.เมือง นครราชสีมา เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 28 ธ.ค. พล.ต.ท เดชาวัต รามสมภพ ผบช.ภาค 3 พร้อม พล.ต.ต ฉัตรกนก เขียวแสงส่อง ผบก.ภ.จ.นครราชสีมา และ พ.ต.ท จักรภัณฑ์ จันทรอุทัย สวญ.สภ.หมูสี อ.ปากช่อง นครราชสีมา ร่วมแถลงข่าวการจับกุมนายพานิช อินสุข อายุ 49 ปี และ นายอนุชา อินสุข อายุ 25 ปี ที่อยู่ บ้านเลขที่ 81 หมู่ 12 ต.ขนงพระ อ.ปากช่อง นครราชสีมา สองพ่อลูก โดยนายอนุชา เป็นผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดสีคิ้ว นครราชสีมา หมายเลขคดีที่ 165/2552 ลงวันที่ 27 ธ.ค. ผู้ต้องหาโจรกรรมสายเคเบิลรับส่งสัญญาณโทรศัพท์ พร้อมของกลางสายเคเบิ้ลโทรศัพท์ชนิด 600 คู่สาย ความยาวประมาณ 120 เมตร ซึ่งเป็นทรัพย์สินของบริษัท ทีทีแอนด์ที จำกัด มูลค่ากว่า 6 แสนบาท และอุปกรณ์ที่ใช้โจรกรรม เป็นเลื่อยตัดเหล็ก จำนวน 1 ปื้น คีมสำหรับตัดสาย จำนวน 1 อัน เหล็กยาวประมาณ 20 ซม. ซึ่งใช้สำหรับปีนเสาไฟฟ้า จำนวน 2 อัน ถุงมือสีดำ จำนวน 1 คู่ และเสื้อกันหนาวหนังสีดำ จำนวน 1 ตัว
ผบช.ภ.3 เปิดเผยพฤติการณ์ว่า ตั้งแต่เดือนตุลาคมที่ผ่าน ได้รับแจ้งจากนางสาวบุปผา วุฒิประสิทธิ ผู้จัดการส่วนปฏิบัติการโครงข่ายในเขต คู่สายโทรศัพท์ หมายเลข 044 บริษัท ทีทีแอนด์ที จำกัด ว่ามีเหตุลักลอบโจรกรรมตัดสายเคเบิ้ลโทรศัพท์ตามจุดส่งสัญญาณ จำนวน 36 ครั้ง มูลค่าความเสียหาย 4 ล้านบาท ในเขตพื้นที่ อ.ปากช่อง ช่วงเวลาที่คนร้ายประกอบเหตุจะอาศัยในช่วงเวลากลางดึก ส่งผลให้ระบบการสื่อสารได้รับความเสียหายประเมินค่ามิได้ คือคู่สายโทรศัพท์บ้านหมายเลข 044 คู่สายอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง (แม็กเน็ต) และตู้เช่าวงจร ซึ่งกว่า ช่างเทคนิค จะสามารถกู้คืนได้ต้องใช้เวลากว่า 4 ชม. ซึ่งแม้นจะมีการติดตั้งเครื่องส่งสัญญาณอัตโนมัติ ที่บางครั้งก็ไม่ทำงาน หรืออาจทำงาน แต่กว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจจะเดินทางไปถึง คนร้ายก็หลบหนีไปก่อน บางครั้งก็ทิ้งของกลางให้ดู ส่วนตัวคนก็วิ่งหนีเข้าไปในป่าจึงสั่งการให้ พ.ต.ท.จักรภัณฑ์ จันทรอุทัย สารวัตรใหญ่ สภ.หมูสี อ.ปากช่อง ระดมกำลังสืบสวนติดตามจับกุม
จนกระทั่งเมื่อช่วงกลางดึก วันที่ 27 ธ.ค.ที่ผ่านมา ระบบสัญญาณอัตโนมัติเตือนความผิดปกติของระบบสายเคเบิล จากจุดรับส่งสัญญาณ ที่ตั้งอยู่ที่บริเวณริม ถ.ธนะรัตน์ ทางขึ้นอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ช่วงหลักกิโลเมตรที่ 17-18 บริเวณหน้าจุลดิสแมนชั่น หมู่ 4 ต.หมูสี อ.ปากช่อง ศูนย์ปฺฏิบัติการฯ ได้ตรวสอบแล้ว จึงรีบประสานขอกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจที่อยู่ใกล้เคียง ระดมกำลังไปตรวจสอบเร่งด่วน พบคนร้ายจำนวน 2 คน กำลังขนสายเคเบิลขึ้นรถปิกอัพ ไม่ทราบยี่ห้อ และทะเบียน ทราบชื่อคือนายพานิช อินสุข อายุ 49 ปี และนายอนุชา อินสุข อายุ 25 ปี สองพ่อลูก เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวมาสอบสวนดำเนินคดีพร้อมของกลาง
จากการสอบสวนคนร้ายทั้ง 2 ราย ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา และซัดทอดไปยังคนร้ายที่ร่วมแก๊งอีกว่า ทั้งสองมีอาชีพเป็นช่างก่อสร้าง แต่รายได้ไม่พอใช้ โดยอ้างประกอบเหตุมาแล้ว 4 ครั้ง ต่อมาได้รู้จักกับนายสมหมาย หัสน้อย หัวหน้าแก๊งค์ อายุ 40 ปี ที่อยู่ บ้านเลขที่ 33 หมู่ 9 ต.คลองม่วง อ.ปากช่อง นครราชสีมา ,นายวิลา จิ๋วสูงเนิน อายุ 29 ปี ที่อยู่ บ้านเลขที่ 4/1 หมู่ 9 ต.คลองม่วง อ.ปากช่อง นครราชสีมา และนายอนุชิต อินสุข อายุ 40 ปี ที่อยู่บ้านเลขที่ 81 หมู่ 12 ต.ขนงพระ อ.ปากช่อง จึงมีการชักชวนให้ร่วมกันโจรกรรม
นายพานิช อ้างว่าได้รับค่าจ้างครั้งละ 2 พันบาท วิธีการจะใช้เหล็กเสียบที่รู้เสาไฟฟ้า เพื่อปีนขึ้นไปใช้เลื่อยตัดสายเคเบิ้ล ครั้งแรกจะใช้เลื่อยตัดหัวท้ายก่อน เพื่อให้สายเคเบิ้ลตกลงมาข้างล่าง จากนั้นก็จะใช้เลื่อยหั่นออกเป็นท่อน ๆ เพื่อสะดวกในการขนย้าย ต่อมาก็จะมีรถปิกอัพ มารับสายเคเบิ้ลไปทำการลอกเอาเฉพาะทองแดง เพื่อนำไปขายที่ร้านรับของเก่า ในเขต จ.สระบุรี ราคา กก.ละ 150 บาท
ผบช.ภาค 3 กล่าวต่ออีกว่า ขณะนี้ตนได้สั่งการให้พนักงานสอบสวน ดำเนินการขออนุมัติหมายจับจากศาลจังหวัดสีคิ้ว นครราชสีมา เพื่อติดตามจับกุมผู้ร่วมขบวนการทั้งหมดมาดำเนินคดี ส่วนนายพานิช และนายอนุชา เจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหาร่วมกันลักทรัพย์ที่ใช้หรือมีไว้ เพื่อสาธารณะประโยชน์เวลากลางคืน โดยใช้ยานพาหนะ เพื่อสะดวกแก่การกระทำผิด หรือพาทรัพย์ไป หรือเพื่อให้พ้นการจับกุม
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
