ลูกทรพีสวมโม่ง ตีหัวแม่ชิงเงิน 3 พันบาท (เดลินิวส์)
สุดสลด "ลูกทรพี" สวมไอ้โม่งคว้าเก้าอี้ไม้ดักตีหัวแม่บังเกิดเกล้าปางตาย ชิงเงิน 3,000 บาท แม่ดึงหมวกไหมพรมคนร้ายออกแทบขาดใจ พบเป็นลูกชายแท้ ๆ ของตัวเอง อ้อนวอนอย่าทำ "พ.ต.อ.จีรศักดิ์" ตามลากคอได้ อ้างหาเงินใช้หนี้พนันฟุตบอลและไถ่ถอน จยย. ที่นำไปจำนำไว้ เผยเป็นทาสยาเคยถูกจับนับครั้งไม่ถ้วน
รวบลูกทรพีสวมไอ้โม่งดักตีหัวแม่ชิงเงินครั้งนี้ เกิดขึ้นเมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 30 ธ.ค. พ.ต.อ.จีรศักดิ์ ขำคง รอง ผบก.น.8 พ.ต.อ.ดุสิต สมศักดิ์ ผกก.สน.ราษฎร์บูรณะ พ.ต.ท.ฉัตรา พาสุวรรณ รอง ผกก.สส. แถลงข่าวจับกุมตัวนายอรรถพร วงศ์ขจิต อายุ 27 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาธนบุรีเลขที่ 1262/2552 ลงวันที่ 29 ธ.ค. 2552 ในข้อหาชิงทรัพย์ในเวลากลางคืน โดยมีอาวุธเป็นเหตุให้ได้รับอันตรายแก่ร่างกาย หรือจิตใจ
พ.ต.อ.จีรศักดิ์ เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากเมื่อเวลา 05.00 น. วันที่ 25 ธ.ค.ที่ผ่านมา เกิดเหตุคนร้ายสวมหมวกไหมพรมใช้เก้าอี้ไม้ตีนางศศิมา สว่างเลิศศรีสกุล แม่ค้าขายเสื้อผ้าอยู่ย่านซอยเพชรบุรี 5 จนได้รับบาดเจ็บ เหตุเกิดบริเวณทางลงบันไดชั้น 3 แฟลตศูนย์การค้าบางปะกอก ถนนสุขสวัสดิ์ แขวงบางปะกอก เขตราษฎร์บูรณะ ขณะเกิดเหตุ นางศศิมาดึงหมวกไหมพรมของคนร้ายออกได้ และเห็นหน้าคนร้ายว่าเป็นนายอรรถพร ซึ่งเป็นลูกชายแท้ ๆ ของตนเอง จากนั้นนายอรรถพรได้ล้วงเอาเงินสดในกระเป๋าคาดเอว 3,000 บาทแล้วหลบหนีไป กระทั่งตำรวจสน.ราษฎร์บูรณะขออนุมัติหมายจับจากศาล และติดตามจับกุมผู้ต้องหาได้ที่หน้าบ้านพักย่านสายไหม จากการตรวจสอบประวัติ พบว่านายอรรถพรเคยถูกจับในคดีเสพยาบ้าในพื้นที่ สน.บางมด 8 ครั้ง และสน.ราษฎร์บูรณะอีก 2 ครั้ง
นายอรรถพร รับสารภาพว่า ช่วงก่อนเกิดเหตุตนได้นำรถจยย.ไปจำนำไว้ที่ร้านขายรถ จยย. แห่งหนึ่งย่านสายไหมในราคา 8,000 บาท และยังเป็นหนี้พนันฟุตบอลอีกจำนวนหนึ่ง เมื่อหมดหนทางหาเงินใช้หนี้ จึงตัดสินใจก่อเหตุดังกล่าวขึ้น
ด้านนางศศิมา กล่าวทั้งน้ำตาว่า ในวันเกิดเหตุ ตนออกจากห้องพักจะไปขายของตามปกติกำลังเดินอยู่ตรงทางลงบันไดแฟลต จู่ ๆ มีคนร้ายที่มาดักรออยู่ก่อน แล้วใช้ของแข็งตีที่ศีรษะและใบหน้าอย่างแรงหลายครั้ง ตอนนั้นตนเห็นคนร้ายสวมหมวกไหมพรม แต่ก็พอสังเกตได้จากลักษณะท่าทางและเสื้อผ้าที่ใส่ว่าคนร้ายคือ นายอรรถพร ลูกชายของตัวเอง โดยขณะนั้นตนบอกลูกชายว่าอย่าทำร้ายแม่ ต้องการอะไรเดี๋ยวแม่จะให้ นายอรรถพรจึงล้วงเอาเงินสดในกระเป๋าเงินที่คาดเอว อยู่ไป 3,000 บาท แล้วรีบหลบหนีไป "ลูกชายป้าติดยาอย่างหนัก เคยแจ้งให้ตำรวจจับกุมตัวมาแล้ว 2-3 ครั้ง เพราะคิดว่าหากลูกอยู่ในคุกก็จะไม่ต้องเสพยา เสียใจมากกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ไม่คิดว่าลูกแท้ ๆ จะทำกับป้าได้ ป้ารักลูกมาก ที่ผ่านมาก็ดูแลเลี้ยงลูกของนายอรรถพรอีก 2 คน ส่งเสียเงินให้ใช้ทุกเดือน ล่าสุดก็เพิ่งให้เงินนายอรรถพรไปอีก 5 พันบาท เพื่อไปเป็นค่าไถ่รถ "
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะแถลงข่าว นายอรรถพรก้มลงกราบที่เท้านางศศิมาเพื่อขอขมาด้วย โดยนางศศิมาได้ให้อภัยนายอรรถพร ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะควบคุมตัวดำเนินคดีต่อไป
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก
