เรื่อง...ไม่เป็นเรื่อง !! (ไทยรัฐ)
ฤาเป็นเพราะวิกฤติโลกร้อน มีภัยพิบัติหลายหย่อมหญ้า รวมถึงเศรษฐกิจย่ำแย่ จนเป็นเหตุให้เกิดเรื่องไม่เป็นเรื่องขึ้นมาได้ ไม่ว่าจะเป็นนักโทษจากเมืองผู้ดี ที่ลอบดื่มเจลล้างมือ อนามัยกันหวัด 2009 จนเกิดเหตุทะเลาะวิวาทตีกันเละ เพื่อแย่งชิงขุมทรัพย์แอลกอฮอล์เพียงแห่งเดียวที่พอ กล้อมแกล้มแก้ขัดได้ จนต้องมีคำประกาศิต สั่งห้ามติดตั้ง เจลแอลกอฮอล์ล้างมือภายในเรือนจำอย่างเด็ดขาด
ส่วนที่กรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย มีหญิงสติฟั่นเฟือน นางหนึ่ง วิ่งเข้าไปในไซต์งานก่อสร้างแห่งหนึ่ง ด้วยสภาพเปลือยเปล่า และร้องตะโกนว่า มีผู้ใดสนใจเธอบ้างเมื่อคนงานเห็นก็จกใจและพากันแตกตื่น พยายามวิ่งตามเพื่อนำผ้าไปช่วยปกปิดร่างกาย จากนั้นจึงโทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาควบคุมสถานการณ์และนำหญิงเปลือยเข้ารับการบำบัดอาการทางจิตในเวลาต่อมา
เคร่งเกินไปหรือเปล่า! เป็นเรื่องสำคัญที่ต้องปฏิบัติตามกฏหมายบ้านเมือง แต่บางเรื่องก็ควรอนุโลมบ้าง ไม่งั้นจะโดนหาว่าใจจืดใจดำ ดังเช่นเรื่องของ ชาวเยอรมัน ที่ทำตัวเป็นพลเมืองดีของสังคม เพราะเหลือบไปเห็นหญิงชราล้มฟุบอยู่ข้างถนน จึงจอดยานพาหนะคู่ใจโดดลงไปช่วยเหลือทันที แล้วโทรศัพท์เรียกรถพยาบาลให้เสร็จสรรพ แต่สิ่งที่ทำให้ช็อกมากกว่าขณะเดินกลับมาขึ้นรถคือ ตำรวจจราจรหญิงกำลังเขียนใบสั่งยิกๆ ให้เป็นชุดในข้อหาจอดรถผิดที่ แม้จะเห็นคาตาว่าช่วยเหลือคนเป็นโรคหัวใจอยู่ แต่พูดไปก็เท่านั้น สุดท้ายสาวเจ้าก็เดินจากไป เหลือไว้เพียงกระดาษแผ่นน้อยบนหน้ากระจกรถ และความเซ็งที่เกิดขึ้นในใจ
ขณะที่ตำรวจเขตปกครองเดวอน แดนผู้ดีอังกฤษ ต้องปวดขมับกับพฤติกรรมของชายพิเรน ชอบแอบขโมย"สูดดมกลิ่นบั้นท้าย" พนักงานร้านซุปเปอร์มาร์เก็ต มีหลักฐานเป็นภาพจาก กล้องวงจรปิด บันทึกภาพอิริยาบถ ขณะ ก้มๆ เงยๆ สูดดมก้นพนักงานชายที่กำลังจัดวาง สินค้าบนชั้นวางของ ทั้งนี้การสูดกลิ่นอันปุถุชนทั่วไปรังเกียจนั้น บุรุษนิรนามหาใช่กระทำ เพียงครั้งเดียว หากแต่สูดดมซ้ำซากกว่า 20 หน
ยังอยู่ที่ประเทศอังกฤษ และเมืองเดวอน เขตการปกครอง เดียวกับเรื่องข้างต้น จึงหนีไม่พ้นเรื่องพิเรน โดยหนุ่มวัยคะนอง 4 นาย วิ่งล่อนจ้อนโทงโทงท้าลมหนาวเข้ามาใน ร้านมินิมาร์ท ของปั๊มน้ำมันเท็กคาโก จนทำให้พนักงาน แคชเชียร์สาวประจำร้านถึงกับตะลึงงัน ทำอะไรไม่ถูกและหลังจากรวบรวมสติกลับคืนมาได้ จึงตำหนิบรรดาชีเปลือยว่า ให้แต่งกายให้เรียบร้อย มิเช่นนั้นจะไม่ขายสินค้าให้ นอกจากนี้ยังมีชายไม่ทราบชื่อ เดินเข้ามาภายในร้านและพยายามใช้กล้องจากโทรศัพท์มือถือบันทึกภาพ กระทาชายทั้ง 4 รายเก็บไว้เป็นที่ระทึก
หนุ่มวัยฉกรรจ์ถึงคราวซวย โดนลงโทษปรับเงิน 2,520 บาทฐานเสียมารยาทบังอาจ "ผายลม" ขณะตำรวจสอบปากคำ ทำให้เจ้าหน้าที่อับอายขายหน้าขณะปฏิบัติหน้าที่ เรื่องเกิดขึ้นเมื่อ สายตรวจเมืองกราซ ประเทศออสเตรียลาดตระเวนพบ หนุ่มคนดังกล่าว ท่าทางดูมีพิรุธจึงควบคุมตัวไว้สอบสวนท่ามกลาง "ออสเตรียมุง" ระหว่างถูกซักถามนั้นผู้ต้องสงสัยผายลมเสียงดังสนั่นทำเอาเหล่านักสังเกตการณ์ฮาลั่นขำกลิ้ง เลยเป็นมูลเหตุ เข้าข่ายคุกคามเจ้าพนักงานนั่นเอง
แสดงว่าแสบถึงทรวง จนโรงเรียนอนุบาลผู้ดี แจ้งผู้ปกครองหาโรงเรียนใหม่โดยด่วน เหตุลูกชายวัย 4 ขวบ ดื้อซนสุดทนชอบใช้ความรุนแรงกับเพื่อร่วมชั้น นับเป็นนักเรียนอายุน้อย ที่สุดที่ต้องออกจากโรงเรียนเพราะสาเหตุดังกล่าว ครูประจำชั้น กล่าวว่า หนูน้อยไม่ค่อยเชื่อฟัง อีกทั้งพยายามหนี ออกจากห้องเรียนอยู่เสมอ แม้เคยตักเตือนแต่ก็ไม่เป็นผล ทั้งนี้หนูน้อยเคยถูกโรงเรียนส่งตัวกลับบ้านแล้ว 4 ครั้ง หลังจากไม่สามารถควบคุมพฤติกรรมได้ คนขับรถบรรทุกจีน แก้ปัญหาเฉพาะหน้าแปลก กระจกหน้า
รถโดนก้อนหินกระเด็นใส่แตกละเอียด แก้ปัญหาเฉพาะหน้า แบบพิสดารใช้กระดาษลังบังลมหนาว ขับรถไม่เห็นทางกว่า 600 กิโลเมตร โดยใช้วิธีชะโงกมองทางผ่านหน้าต่างแทน เจ้าตัวอ้างไม่มีเวลาซ่อมต้องขับรถให้ทันตามตารางเวลาที่กำหนดไว้ วิธีแก้ปัญหาสุดแสนอันตรายดังกล่าวถูกเจ้าหน้าที่โบกรถเข้าข้างทางสอบถามข้อเท็จจริง แล้วจึงไล่โชเฟอร์ ไปติดกระจกใหม่โดยเร็ว เพื่อความปลอดภัยบนท้องถนน ก่อนกลับไปขับรถตามตารางดังเดิม
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก
