อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ
มาร์ค รับจัดรายการไม่ถนัดพูดกับกล้อง ชู สมัคร มีพรสวรรค์ (มติชนออนไลน์)
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวในรายการ "เชื่อมั่นประเทศไทยกับนายกฯอภิสิทธิ์" ทางสถานีโทรทัศน์ช่องสทท. เมื่อวันที่ 3 มกราคม ว่า สวัสดีปีใหม่ครับ วันนี้เป็นการจัดรายงานครั้งแรกในปีพ.ศ.2553 จจะลองมองกลับไปดูปี 2552 ได้มีรายการรวม 50 ตอน และมีพิธีกรรับเชิญ 73 คน
หลังจากนั้นเป็นการประมวลภาพรายการในปีที่ผ่านมา ประกอบกับการสัมภาษณ์เบื้องหลังรายการดังกล่าว โดย นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ตอนที่เริ่มทำรายการเกิดจากบ้านเมืองอยู่ในภาวะสับสน จึงอยากสื่อสารกับประชาชน ยอมรับอยากให้ข่าว จึงเกิดช่องทางสื่อสารกับประชาชนขึ้นมาพูดให้ฟังว่าตลอดรอบสัปดาห์ที่ผ่าน มาได้ทำงานอะไรบ้าง ซึ่งตนไม่ใช่คนแรกที่จัดรายการแบบนี้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ก็เคยจัดรายการมาแล้ว เพียงแต่เป็นสื่อสารทางวิทยุ ขณะที่ พล.อ.สุรยุทธ จุลานนท์ อดีตนายกรัฐมนตรี และนายสมัคร สุนทรเวช อดีตนายกรัฐมนตรี ก็เคยจัดรายการทางโทรทัศน์เช่นกัน
"ในช่วงที่ต้องนั่งพูดคนเดียว จะได้ยินเสียงสะท้อนมาเยอะ ทั้งไฟมืด หน้าดำหรือหน้าหมดแรง แต่ตนคิดว่าคนน่าจะติดตามประเด็นสาระเป็นหลัก แต่ในแง่อารมณ์การสื่อสาร ยอมรับว่าไม่ถนัดพูดกับกล้อง เพราะเหมือนพูดกับคนที่มองไม่เห็น จะหาคนมีพรสวรรค์อย่างนายสมัครได้ยาก การพูดคนเดียวคงได้สาระ แต่ด้านอารมณ์ความรู้สึกไม่แน่ใจ" นายอภิสิทธิ์ กล่าว
นายอภิสิทธิ์ กล่าวต่อว่า ส่วนการลงพื้นที่ไปพูดคุยกับชาวบ้านก็สนุก เป็นธรรมชาติ ยอมรับว่าตอนแรกมีเขินอยู่บ้าง เพราะต้องติดไมค์ แต่พอเดินไปสักพักก็เป็นธรรมชาติ ได้พูดคุยกับชาวบ้านตามปกติ อย่างการลงพื้นที่ภาคอีสาน ดูงานสนามบินสุวรรณภูมิ หรือเดินตลาดสามชุก จ.สุพรรณบุรี ชณะที่ช่วงการสัมภาษณ์มีพิธีกรเข้ามาเพิ่มเติมได้ช่วยคลายความรู้สึกต้อง พูดคนเดียว ที่ผ่านมาพอใจพิธีกรทุกคน เพราะต่างคนก็ต่างมีประสบการณ์ที่ดี
"เวลาไปต่างประเทศจะปรับเวลาตอนอยู่บนเครื่องบิน จะอ่านหนังสือพิมพ์ และชอบเล่นเกมซุโดกุ (Sudoku) เพื่อทดสอบว่าวันนี้สมองเราเร็วแค่ไหน ถ้าเล่นได้เร็วก็เริ่มมั่นใจว่าวันนี้คิดได้เร็ว ถ้าทำได้ช้าก็เริ่มกังวลแล้ว" นายอภิสิทธิ์ กล่าว
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี กล่าวทิ้งท้ายว่า เพิ่มเติมว่า ปีนี้เป็นปี 2553 ที่ประชาชนต่างตั้งความหวัง รัฐบาลจึงอยากเชิญชวนประชาชนให้ร่วมกันทำให้ปีนี้มีความสุขกันถ้วนหน้า
สาทิตย์ วงศ์หนองเตย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายในรายการยังมีภาพ นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ประชุมร่วมกับทีมโปรดิวเซอร์และทีมงานผลิตรายการ พูดคุยเกี่ยวกับการจัดรายการเชื่อมั่นประเทศไทยฯ ในรอบ 1 ปีที่ผ่านมา
นายสาทิตย์ กล่าวว่า อยากให้นายกรัฐมนตรีลงไปในพื้นที่ เมื่อพูดเรื่องสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ นายกรัฐมนตรีก็ลงไปพบชาวนราธิวาสเลย คุยเกี่ยวกับปัญหาชาวเขา ทำไมนายกรัฐมนตรีไม่ไปคุยที่เชียงราย คุยเรื่องชาวนาก็ต้องไปนั่งในนา ทั้งหมดมาจากวาระประชาชนของพรรค ผู้นำต้องไปสัมผัสกับชีวิตชาวบ้าน การสื่อสารในรายการของนายกรัฐมนตรี เป็นรูปแบบตาต่อตา นายกรัฐมนตรีมองประชาชนผ่านกล้อง รวมทั้งได้รับความร่วมมือจากพิธีกรทั่วฟ้าเมืองไทยมากที่สุด ไม่มีรายการไหนได้รับโอกาสนี้มาก่อน ซึ่งนายกรัฐมนตรีเองก็ไม่ได้เตรียมคำถามกับพิธีกรมาก่อนและไม่เคยห้ามคำถาม
"สื่อมวลชนเป็นตัวแทนประชาชน ก็เลยใช้วิธีการเชิญสื่อมาทำรายการร่วมกับเรา อย่างไม่มีสีเสื้อด้วย มีคนเรียกร้องทั้งสีเหลืองและแดง เราก็เชิญ สโรชา (พรอุดมศักดิ์ แนวร่วมพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย) และก็พร้อมจะเชิญพิธีกรจากรายการความจริงวันนี้ นายวีระ มุสิกพงศ์ แต่ฝ่ายโน้นปฏิเสธ" นายสาทิตย์ กล่าว และว่า ในอนาคตอยากให้นายกรัฐมนตรีลงพื้นที่ทุกจังหวัด โดยเฉพาะจังหวัดเชียงใหม่ อย่างไรก็ตาม ไม่มีเจตนาท้าทาย
ปณิธาน วัฒนายากร
นายปณิธาน วัฒนายากร รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เมื่อนายกรัฐมนตรีประชุมต่างประเทศ จะเอาทีมงานเข้าไปถ่ายทำรายการได้ยาก พวกตนและผู้ติดตามจึงอาสาเก็บภาพแทน ยอมรับว่ายากและฝีมือคงไม่ดีเทียบช่างภาพมืออาชีพไม่ได้
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก ไทยรัฐ
