x close

เผยสถิติไทยฆ่าตัว ชายตายกว่าหญิง


เผยสถิติไทยฆ่าตัว ชายตายกว่าหญิง (ข่าวสด)

          สาธารณสุขเผยสถิติคนไทยฆ่าตัวตาย เป็นผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย แต่ที่ฆ่าตัวสำเร็จเป็นชายมากกว่าหญิง ส่วนใหญ่เป็นผู้ใช้แรงงานวัยตั้งแต่ 20-24 ปีมากสุด นิยมดื่มกินสารพิษมากที่สุด แต่แนวโน้มเริ่มใช้ของมีคมทำร้ายตัวเองเพิ่มขึ้น แนะออกกำลังกายให้หลั่งสารเอ็นดอร์ฟินจะปลอดโปร่งหลับสบายมีความสุข

          วันที่ 2 ม.ค. น.พ.ไพจิตร์ วราชิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยถึงสถานการณ์การฆ่าตัวตายของคนไทยว่า มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น จากการเฝ้าระวังการบาดเจ็บระดับชาติของสำนักระบาดวิทยา ซึ่งเก็บข้อมูลในกลุ่มบาดเจ็บรุนแรง ผู้บาดเจ็บที่เสียชีวิตก่อนถึงโรงพยาบาล และเสียชีวิตที่ห้องฉุกเฉิน รวมทั้งที่รับไว้สังเกตอาการ หรือรับไว้รักษาที่ห้องฉุกเฉินของโรงพยาบาลขนาดใหญ่รวม 30 แห่งทั่วประเทศ พบว่าในปี 2551 มีผู้บาดเจ็บจากการตั้งใจทำร้ายตนเองเพื่อฆ่าตัวตายรวม 7,237 ราย หรือร้อยละ 2 ของผู้บาดเจ็บทุกสาเหตุที่มีจำนวน 366,396 ราย และเสียชีวิตจากการฆ่าตัวตาย 439 ราย หรือร้อยละ 7 ของผู้เสียชีวิตทุกสาเหตุจำนวน 6,369 ราย สำหรับการเสียชีวิตจากฆ่าตัวตายสำเร็จ สูงเป็นอันดับ 4 ของผู้เสียชีวิตจากการบาดเจ็บทุกสาเหตุ

          น.พ.ไพจิตร์ กล่าวว่า จากการวิเคราะห์รายละเอียด พบว่าผู้ทำร้ายตนเองเป็นผู้หญิงมากกว่าชาย ส่วนใหญ่อยู่ในวัยรุ่นและหนุ่มสาว มากที่สุดในกลุ่มอายุ 20-24 ปีร้อยละ 22 รองลงมาเป็นกลุ่มอายุ 15-19 ปี ร้อยละ 20 และอายุ 25-29 ปี ร้อยละ 17 ในจำนวนนี้ร้อยละ 38 เป็นผู้ใช้แรงงาน รองลงมาเป็นนักเรียนนักศึกษาร้อยละ 17 และไม่มีอาชีพร้อยละ 12 สถานที่ก่อเหตุทำร้ายตนเองส่วนใหญ่ร้อยละ 82 อยู่ที่บ้านและบริเวณบ้าน รองลงมาคือหอพัก เรือนจำร้อยละ 9 มักกระทำในช่วง 18.00-22.00 น. วิธีการที่ใช้มากที่สุด ได้แก่ กินสารเคมีหรือสารพิษที่ไม่ทราบชนิดร้อยละ 23 รองลงมาคือกินยาแก้ปวดลดไข้ร้อยละ 16 และกินยาฆ่าหญ้ายาฆ่าแมลงร้อยละ 15 ผู้ที่ฆ่าตัวตายสำเร็จเป็นผู้ชายมากกว่าผู้หญิงกว่า 2 เท่าตัว ร้อยละ 36 เป็นผู้ใช้แรงงาน รองลงมาเป็นเกษตรกร ร้อยละ 16 และไม่มีงานทำร้อยละ 15

          น.พ.ไพจิตร์กล่าวต่อว่า สาเหตุการฆ่าตัวตายพบว่ามีหลายสาเหตุ เช่น การเผชิญกับปัญหาทางเศรษฐกิจและสังคมในปัจจุบัน ทำให้เกิดความเครียด คับข้องใจ อีกทั้งการเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารการฆ่าตัวตายผ่านสื่อต่างๆ ก็มีผลให้เกิดการเลียนแบบการทำร้ายตนเองมากขึ้น เมื่อเปรียบเทียบข้อมูลย้อนหลังตั้งแต่ปี 2547-2551 พบว่า แนวโน้มผู้ที่บาดเจ็บจากการทำร้ายตนเองสูงขึ้นในปี 2551 เป็นหญิงมากกว่าชาย แต่ผู้ที่ฆ่าตัวตายสำเร็จเป็นชายมากกว่าหญิง แนวโน้มเกิดในกลุ่มอายุ 20-39 ปีสูงขึ้นทุกปี และสูงขึ้นในกลุ่มผู้ใช้แรงงาน นักเรียนนักศึกษา และผู้ไม่มีงานทำ ส่วนวิธีการทำร้ายตนเองนั้น กินยาลดไข้ยาแก้ปวด พิษจากยาและสารเคมีที่ไม่ทราบรายละเอียด และวัตถุมีคมมีแนวโน้มสูงขึ้น การกินยาฆ่าหญ้า ยาฆ่าแมลงมีแนวโน้มลดลง ผู้ตายจะใช้บ้านและบริเวณบ้านเป็นสถานที่ทำร้ายตนเองมากที่สุดทุกปี

          น.พ.ไพจิตร์ กล่าวว่า การฆ่าตัวตายไม่ใช่วิธีการแก้ไขปัญหาที่ถูกต้อง วิธีการป้องกันขอให้พ่อแม่ผู้ปกครอง และสมาชิกในครอบครัวเอาใจใส่ดูแลกันและกัน แสดงออกถึงความรักความห่วงใย ไต่ถามทุกข์สุขพูดคุยใกล้ชิดกันให้มากขึ้น เพื่อให้วัยรุ่นวัยเรียนได้มีโอกาสพูดคุย ปรึกษาหาทางออกในการแก้ไขปัญหาคับข้องใจ ป้องกันไม่ให้คิดหรือมีโอกาสทำร้ายตนเอง และควรออกกำลังกายเพื่อลดความเครียด ซึ่งจะทำให้สมองหลั่งสารเอ็นดอร์ฟิน (Endorphin) หรือสารแห่งความสุข ทำให้หลับสบายขึ้น สมองปลอดโปร่ง นอกจากนี้ กระทรวงสาธารณสุข มีนโยบายให้สถานบริการทุกจังหวัด จัดมุมให้คำปรึกษาแก่วัยรุ่น และเปิดสายด่วนสุขภาพจิตระบบตอบรับอัตโนมัติ ให้คำปรึกษาแก่ผู้มีปัญหาด้านจิตใจ หมายเลข 1667 โดยโทรศัพท์มือถือกด 1667 ได้โดยตรง ทางไกลให้กดรหัส 02 แล้วตามด้วย 1667 ส่วนโทรศัพท์สาธารณะให้หยอดเหรียญก่อนกด 1667 โทร.ฟรีทั่วประเทศ ตลอด 24 ชั่วโมง


ขอขอบคุณข้อมูลจาก



เรื่องที่คุณอาจสนใจ
เผยสถิติไทยฆ่าตัว ชายตายกว่าหญิง อัปเดตล่าสุด 6 มกราคม 2553 เวลา 09:41:22 5,860 อ่าน
TOP