"ทีวี 3 มิติ" ของเล่นใหม่คนรวย? (ข่าวสด)
คอลัมน์ หมุนก่อนโลก
โดย วิทยา ผาสุก
ว่ากันว่า "เทคโนโลยีโทรทัศน์" หรือทีวี ณ ปัจจุบัน เดินมาถึงจุดอิ่มตัวแล้ว ทั้งเรื่อง "คุณภาพ" และ "ราคา" ซึ่งอยู่ในเกณฑ์ที่คนธรรมดาสามัญพอซื้อหากันได้ ไม่ว่าจะเลือกซื้อจอแอลซีดี หรือพลาสม่า
เพื่อก้าวข้ามจุดอิ่มตัวดังกล่าว กลุ่มบริษัทผู้ผลิตทีวีรายใหญ่ จึงต้องพยายามเข็นนวัตกรรมใหม่ๆ ออกมากระตุ้น "ความอยาก" ของลูกค้า
และนับตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา หนึ่งในผลิตภัณฑ์อิเล็กทรอนิกส์ ที่มีข่าวปรากฏตามสื่อตะวันตกมากที่สุด ก็คือ นวัตกรรม "ทีวี 3 มิติ" (3DTV)
ข่าวจากหนังสือพิมพ์เดอะไทมส์ แจ้งว่า ในมหกรรมแสดงสินค้าเทคโนโลยี "CES 2010" นครลาสเวกัสปีนี้ ยักษ์ใหญ่หลายเจ้า เช่น ซัมซุง แอลจี โซนี่ โตชิบา พานาโซนิค ต่างขนทีวี 3 มิติมาประชันกันเต็มที่
ขณะเดียวกัน สถานีโทรทัศน์ชั้นนำในสหรัฐอเมริกาและอังกฤษ ก็พร้อมปรับเปลี่ยนรูปแบบการออกอากาศภายใต้ระบบ 3 มิติเช่นกัน
โดยเบื้องต้นคาดว่า "รายการ" ที่เตรียมฉายแบบ 3 มิติ จะทดลองกับกลุ่ม "กีฬา" เป็นหลัก อาทิ การแข่งขันฟุตบอลโลกแอฟริกาใต้ 2553
สำหรับเทคโนโลยีการชมภาพเคลื่อนไหวแบบ 3 มิติ เริ่มต้นเปิดตัวสู่สังคมโลกครั้งแรกเมื่อปีพ.ศ.2495 ผ่านภาพยนตร์อเมริกันเรื่อง Bwana Evil
แม้เวลาจะผ่านมาหลายหลายสิบปี แต่กล่าวได้ว่า ธุรกิจหนัง-ทีวี 3 มิติยังไม่ประสบความสำเร็จมากเท่าไหร่
กระทั่งล่าสุดเมื่อหนัง "อวตาร" ของผู้กำกับฯ "เจมส์ คาเมรอน" ทำรายได้ถล่มทลายเกินพันล้านเหรียญดอลลาร์ และมีคนตีตั๋วเข้าชมในระบบ 3 มิติสูงเป็นประวัติการณ์ กลุ่มบริษัทผู้พัฒนาเทคโนโลยี 3 มิติเลยเกิดเชื่อมั่นแรงกล้ามากขึ้นว่า ผู้บริโภคยุคดิจิตอลมีความพร้อมตอบรับตลาด 3 มิติอย่างแน่นอน
อย่างไรก็ตาม จุดอ่อนสำคัญของระบบ 3 มิติ ยังคงมีอยู่ 2 ประการใหญ่ ๆ ด้วยกัน นั่นคือ
1. ดูไม่สะดวก เพราะต้องสวมแว่น
และ 2. ในส่วนของทีวี 3 มิติทุกวันนี้ มีราคาแพงมโหฬารเกินหลัก 3 แสนบาทขึ้นไปทั้งสิ้น
ราคาปวดใจขนาดนั้น..เรียกว่าเพิ่มอีกนิดนำไปซื้อรถ หรือคอนโดฯ มือสองในบ้านเราได้เลยทีเดียว!
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก