ทักษิณ ชินวัตร
แม้วระทึก! นัดตัดสินคดียึดทรัพย์7.6หมื่นล. 26 ก.พ. (ข่าวสด)
เมื่อวันที่ 12 ม.ค. ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง นัดฟังคำตัดสินในคดีที่อัยการสูงสุด (อสส.) ขอให้ศาลพิจารณาให้ทรัพย์สินมูลค่า 7.6 หมื่นล้านบาท ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ตกเป็นของแผ่นดิน จากข้อกล่าวหาอาจเข้าข่ายร่ำรวยผิดปกติ ในวันที่ 26 ก.พ. เวลา 13.00 น.
โดยหลังจากวันนี้ได้ไต่สวนพยานเพิ่มเติมอีก 4 ปาก และได้ให้คู่ความแถลงปิดคดีเป็นลายลักษณ์อักษรภายใน 30 วัน หากไม่แถลง แสดงว่าไม่ติดใจ และศาลนัดฟังคำพิพากษา ในวันที่ 26 ก.พ. 2553 เวลา 13.00 น.
สำหรับคดีดังกล่าว สืบเนื่องจากคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำ ที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) ได้ส่งสำนวนดังกล่าวถึงอสส.เมื่อปลายเดือน พ.ค.51 เพื่อขอให้อสส.ยื่นคำร้องต่อศาลฎีกาฯ ให้มีคำสั่งอายัดทรัพย์ดังกล่าวตกเป็นของแผ่นดิน ขณะที่ตั้งแต่ช่วงเดือน มิ.ย.50 คตส.มีมติอายัดบัญชีเงินฝากของ พ.ต.ท.ทักษิณและภริยา เนื่องจากถูกกล่าวหาว่า อาจมีการกระทำที่เข้าข่ายร่ำรวยผิดปกติ และศาลมีคำสั่งรับฟ้องคดีดังกล่าว เมื่อวันที่ 16 ต.ค. 51
จากนั้นจึงเริ่มไต่สวนพยานฝ่ายผู้ถูกกล่าวหาในคดีนี้ นัดแรกเมื่อวันที่ 16 ก.ค. 52 โดยมีพยานสำคัญ อาทิ คุณหญิงพจมาน ณ ป้อมเพชร หรือดามาพงศ์ อดีตภริยา พ.ต.ท.ทักษิณ,นายพานทองแท้ ชินวัตร บุตรชาย,นางสาวพิณทองทา ชินวัตร บุตรสาว เป็นต้น ขณะที่ฝ่ายอัยการ หรือฝ่ายผู้ร้อง เริ่มไต่สวนพยานเมื่อวันที่ 12 พ.ย. 52 โดยมีนายแก้วสรร อติโพธิ อดีตคตส.ขึ้นเบิกความปากแรก และมีพยานสำคัญอาทิ คุณหญิงจารุวรรณ เมณฑกา ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน และอดีต คตส. เป็นต้น
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก ไทยรัฐ
