"ชวน" ติวเข้ม ส.ส.ภาคกลาง แนะเป็น ส.ส.ต้องใช้ "ความดี-ขยัน-ไม่โกหก" ย้ำทำงานใกล้ชิดกันมากขึ้น จี้เร่งนำงบประมาณลงพื้นที่
วานนี้ (14 ม.ค.) การประชุมส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ภาคกลาง โดยมีนายอลงกรณ์ พลบุตร รมช.พาณิชย์ และส.ส.เพชรบุรี พรรคประชาธิปัตย์ เป็นประธานในการประชุม โดยที่ประชุมได้เชิญนายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ เข้าร่วมประชุมด้วย
โดยนายอลงกรณ์ กล่าวว่า ได้มาหารือกันในเรื่องของการทำงาน ประสานงานระหว่างรัฐมนตรี สาขาพรรค ส.ส. และผู้สมัคร ส.ส. มาคุยกันเกี่ยวกับเรื่องการทำงานในปีนี้ โดยที่ประชุมเห็นตรงกันว่าจะต้องเสนอแผนกิจกรรม ทั้งในส่วน ส.ส.และสาขาพรรคภายในวันพุธหน้า กลับมาให้ทราบอีกครั้งหนึ่ง
นายชวน ได้เสนอแนะต่อที่ประชุมตอนหนึ่ง ถึงแนวทางในการทำงานของพรรคว่า คำแนะนำของตนอาจจะล้าสมัยไปแล้ว หรือเป็นคำแนะนำของ ส.ส.ยุคเก่า ซึ่งการหาเสียงนั้นต้องใช้ความดี และต้องระลึกอยู่เสมอว่าความดีนั้นจะชนะทุกสิ่งทุกอย่างได้ และในการเลือกตั้งครั้งหน้าหากส.ส.ทุกคนยังอยากเป็น ส.ส.อยู่ ก็เข้ามาศึกษาได้ ซึ่งยินดีคุยเป็นการส่วนตัว เนื่องจากถ้าพูดคุยในที่ประชุม ก็จะไม่รู้ว่าปัญหาของแต่ละคนเป็นอย่างไร เพื่อที่ตนจะได้ชี้แนะวิธีการทำงานในทางการเมืองได้ตรงจุด แต่อย่างไรก็ตาม ที่สำคัญทุกคนต้องมีความขยัน เพราะไม่มีอะไรได้มาฟรี แต่จะขยันอย่างไรนั้นต้องขยันให้ถูกทาง และไม่มีปัจจัยเข้ามาเกี่ยวข้องทั้งสิ้น
รายงานข่าวแจ้งว่า นายชวนมีความเป็นห่วงเรื่องการประชาสัมพันธ์ และการเสนอข่าวผ่านสื่อ โดยเห็นว่า ส.ส.ของพรรคอ่อนในเรื่องการชี้แจงและประชาสัมพันธ์ อาทิ เรื่องการกู้เงินไอเอ็มเอฟ ความจริงแล้วคนที่กู้ก็คือ รัฐบาลพล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตนายกรัฐมนตรี ไม่ใช่รัฐบาลประชาธิปัตย์ แต่เมื่อเราเป็นรัฐบาลในขณะนั้นก็ได้เข้าไปเจรจา เพื่อลดเงื่อนไข และทยอยผ่อนใช้ ไม่ได้ใช้ทีเดียว
แต่เมื่อรัฐบาลพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เข้ามาบริหารประเทศ ก็จุดกระแสว่าเราสร้างหนี้ ส่วนเรื่องสปก.4-01 ก็เช่นเดียวกัน เป็นเรื่องของทางจังหวัดที่เข้ามาดำเนินการ ไม่เกี่ยวกับพรรคประชาธิปัตย์เลย แต่เมื่อเกิดปัญหาขึ้น พรรคประชาธิปัตย์ก็โดนโจมตี และไม่มีการประชาสัมพันธ์แก้ข้อกล่าวหา จึงทำให้เราเป็นจำเลย สิ่งดี ๆ เราทำไว้เป็นจำนวนมาก แต่เราขาดการประชาสัมพันธ์
นายชวน กล่าวว่า ขอให้ ส.ส.ทุกคนนำเรื่องดังกล่าวไปประชาสัมพันธ์ สร้างความเข้าใจกับประชาชน โดยที่ไม่ต้องใช้เงินเลยในการหาเสียง ถึงจะยอมรับว่าเงินเป็นสิ่งสำคัญส่วนหนึ่ง ในหลาย ๆ เขตพรรคประชาธิปัตย์ไม่ได้ใช้เงิน แต่เราก็ชนะมาได้ ทั้ง ๆ ที่พรรคคู่แข่งใช้เงินจำนวนมหาศาล ดังนั้น ถ้าทุกคนขยัน และเข้าไปอธิบายให้ประชาชนในพื้นที่ได้ฟังอย่างเข้าใจ ก็จะทำให้เราสามารถได้รับการเลือกตั้งได้
ในที่ประชุมไม่ได้มีการตั้งเป้า ส.ส.ในการเลือกตั้งครั้งหน้า แต่ขอให้ทุกคนขยันทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด โดยทำตามจุดยืนและอุดมการณ์ของพรรค ทำให้พรรคยืนหยัดมาได้กว่า 60 ปี เพราะอุดมการณ์ของพรรค ซึ่งประชาชนชื่นชม แม้บางครั้งกระแส หรือการสร้างความเข้าใจผิดจะทำให้พรรคประชาธิปัตย์ต้องตกต่ำไปบ้าง แต่ในการเลือกตั้งทุกครั้งเมื่อผ่านไประยะหนึ่ง เมื่อพิสูจน์ได้แล้วก็ทำให้ทุกคนเข้าใจ หากอยากเป็นส.ส.หลายสมัยต้องพูดความจริง อย่าโกหก
รายงานข่าวแจ้งต่อว่า นายอลงกรณ์ พูดในที่ประชุมว่า ต่อไปนี้การทำงานในพื้นที่นั้น ส.ส. สาขาพรรค และผู้สมัครของพรรคจะต้องมาช่วยกันทำให้การทำงานในพื้นที่จริงจัง และกระตือรือร้นมากขึ้น และคงต้องให้รัฐมนตรีของพรรคประชาธิปัตย์ แต่ละคนมาช่วยกันแสดงความคิดเห็นว่า จะร่วมกันทำอย่างไรเพื่อให้บทบาทของ ส.ส. อดีตผู้สมัคร ส.ส. และประธานสาขาพรรค มีบทบาทหน้าที่ในการช่วยเหลือประชาชน เพราะสิ่งต่าง ๆ ที่พรรคทำเอาไว้ดีมาก แต่ขาดการประชาสัมพันธ์ ส่วนสาขาพรรคได้สะท้อนปัญหาในพื้นที่ ว่ากิจกรรมการหาเสียงในแต่ละพื้นที่แตกต่างกัน กลยุทธ์แต่ละคนในการลงพื้นที่ใช้ได้เฉพาะพื้นที่เท่านั้น ไม่สามารถลอกเลียนแบบกันได้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในที่ประชุมได้มี ส.ส.ภาคกลางคนหนึ่ง ลุกขึ้นพูดว่า ส.ส.ของพรรค เมื่อเป็นรัฐมนตรีแล้วค่อนข้างจะเพิกเฉยกับ ส.ส.ในพื้นที่ ไม่พยายามหากิจกรรมร่วมกัน นอกจากนี้ เวลาลงพื้นที่ก็ไม่แจ้ง ส.ส.ให้ทราบล่วงหน้า ทำให้ภาพสะท้อนออกมาไม่ดี ว่าทำไมรัฐมนตรีของพรรคมาทั้งที แต่ไม่มี ส.ส.มาต้อนรับ เพราะบางครั้ง ส.ส.ก็ติดภารกิจงานในพื้นที่ จึงไม่ได้มีเวลามาต้อนรับ เนื่องจากกะทันหันและไม่มีการบอกล่วงหน้า นอกจากนี้ ยังได้มีการให้ข้อเสนอแนะว่า รัฐมนตรีควรนำงบประมาณลงไปในพื้นที่ด้วย เพราะทำให้ ส.ส. ก็เท่ากับทำให้ประชาชน
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก
