สลด พังกาญจนา ถูกคนทารุณ ทั้งที่ตั้งท้อง 15 เดือน (ไทยรัฐ)
เมื่อเวลา 14.30 น. วันที่ 15 ม.ค. นายชัยวัฒน์ ลิมป์วรรณธะ รองผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี พร้อมด้วย นายมาโนชน์ บุณยานันต์ รักษาการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดกาญจนบุรี นายประวุธ เปรมปรีดิ์ ผู้แทนสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ 3 กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช นายสัตวแพทย์พรศักดิ์ ประสมทอง นายสัตวแพทย์ปฏิบัติประจำสำนักงานปศุสัตว์จังหวัดกาญจนบุรี พร้อมคณะ เดินทางมายัง รพ.สัตว์ มหาวิทยาลัยมหิดล หมู่ 9 ต.ลุ่มสุ่ม อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี เพื่อตรวจเยี่ยมอาการของ ช้างพังกาญจนา อายุ 35 ปี น้ำหนัก 1,800 กิโลกรัม ที่เป็นช้างป่าถูกสวมทะเบียนช้างบ้าน และถูกกรมอุทยานฯ อายัดตัวมารักษาอาการที่ รพ.สัตว์แห่งนี้ เนื่องจากพบว่าถูกทรมานด้วยฝีมือมนุษย์จนกระดูกข้อต่อขาหลังซ้ายเคลื่อน ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้
โดยได้เข้าร่วมหารือกับ นายสัตวแพทย์เชาวลิต นาคทอง รองคณะบดีฝ่ายวิทยาเขต ราว 30 นาที เพื่อสอบถามข้อมูลต่างๆ จากนั้นนายสัตวแพทย์เชาวลิต ได้นำตรวจเยี่ยมอาการโดยพบว่าเจ้าหน้าที่ได้รักษาช้างพังกาญจนาที่ศาลาพักช้าง มีเจ้าหน้าที่คอยดูแลอย่างใกล้ชิด
นายชัยวัฒน์ เปิดเผยว่า ปัญหาที่น่าห่วงคือที่ขาหลังซ้ายของช้างพังกาญจนาที่กระดูกข้อต่อเคลื่อน จากการบาดเจ็บอยู่เดิม ทำให้ยังไม่สามารถพยุงตัวเองลุกขึ้นได้ เจ้าหน้าที่ต้องใช้เครื่องมือรอกดึงลวดสลิงพยุงตัวขึ้นอย่างช้าๆ และยังทราบว่าช้างพังกาญจนาตั้งท้องได้ 15 เดือน ซึ่งยังไม่ทราบเพศลูกช้างที่แน่ชัด เมื่อท้องโตขึ้นเรื่อยๆ น้ำหนักของช้างก็มากเพิ่มขึ้น ทำให้การพยุงตัวลุกขึ้นยากลำบากมากขึ้นไปอีก ต้องใช้เครื่องมือช่วยพยุงและต้องระวังไม่ให้เกิดการกระทบต่อลูกในท้องอีกด้วย
ปัญหาที่ตามมาอีกคือเมื่อช้างพังกาญจนานั่งจะใช้ตัวทับขาหลังขวาแทน ทำให้ถูกกดทับเป็นเวลานานเริ่มอักเสบตามไปด้วย โดยกำลังทำเรื่องเชิญอาจารย์หมอผู้เชี่ยวชาญโดยตรงมาช่วยดูแลเพิ่มเติม และทางจังหวัดกาญจนบุรี กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช กรมปศุสัตว์ และมหาวิทยาลัยมหิดล จะร่วมกันดูแลช้างพังกาญจนาอย่างเต็มที่ในเรื่องการตกลูกและการรักษาอาการ โดยจะมีการวางแผนรองรับการตกลูกด้วย
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก
