x close

พท.ชี้ ญี่ปุ่นย้ายฐานลุงทุน เหตุมาบตาพุดพ่นพิษ

สุชาติ ธาดาธำรงเวช

สุชาติ ธาดาธำรงเวช อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง



พท.ชี้ ญี่ปุ่นย้ายฐานลุงทุน เหตุมาบตาพุดพ่นพิษ (กรุงเทพธุรกิจ)

          อดีตรมว.คลัง ประเมิน "เจโทร" ส่อแจ้งย้ายฐานการลงทุน หลังประเมินปัจจัยกฎหมายไทยไม่แน่นอนจากกรณีมาบตาพุด


          นายสุชาติ ธาดาธำรงเวช อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง คณะทำงานเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทยกล่าวถึงปัญหาการลงทุนในนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด จ. ระยองว่า แม้รัฐบาลจะเข้ามาแก้ปัญหามาบตาพุด ทั้งการประสานให้ทุกฝ่ายยอมรับได้ในการปฏิบัติการตามมาตรา 67 วรรคสองและตั้งคณะกรรมการสี่ฝ่ายเข้ามาเร่งแก้ไขปัญหาโครงการที่ถูกศาลปกครองสั่งระงับโครงการไว้ รวมทั้งมีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบผลกระทบด้านสุขภาพ (เอชไอเอ) และผลกระทบเรื่องสิ่งแวดล้อม (อีไอเอ)ในนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุดเพื่อหาแนวทางแก้ไขปัญหามลพิษในพื้นที่มาบตาพุดทั้งหมดนั้น ถือเป็นเวลาที่นานเกินไป  อย่างกรณีของ เอชไอเอหรืออีไอเอก็คาดว่าคาดว่าจะใช้เวลาเกิน 6 เดือนนั้น ก็เป็นเพียงการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า 

          นายสุชาติ กล่าวว่า แม้นายอานันท์ ปันยารชุน ประธานคณะกรรมการแก้ไขปัญหาการปฏิบัติตามมาตรา 67 วรรค 2 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (คณะกรรมการ 4 ฝ่าย) ออกมาบอกว่า ควรแก้ปัญหาทั้งระบบให้สมบูรณ์ซึ่งก็คงต้องใช้เวลานานมากและอาจมีผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนจนทำให้ไทยต้องเกิดความสูญเสียทางเศรษฐกิจมหาศาล เพราะปัญหาใหญ่คือ เรื่องความไม่แน่นอนของของกฎหมายในประเทศไทยที่ไม่ได้สนับสนุนการลงทุนของต่างประเทศ 

          "หากจะถามว่าการที่รัฐบาลเข้าแก้ปัญหามาบตาพุดในขณะนี้ได้ผลหรือไม่ ต้องบอกว่า คงยาก เพราะเมื่อความเชื่อมั่นต่อนักลงทุนต่างชาติเสียไปแล้ว ก็อาจทำให้เกิดการเปลี่ยนใจย้ายฐานลงทุน เพราะล่าสุดทราบว่า ประธานองค์การส่งเสริมการค้าต่างประเทศของญี่ปุ่น (เจโทร) เขาส่งสัญณาณด้านลบมาว่า ประเทศไทยไม่น่าลงทุนอีกต่อไป นี่เป็นเรื่องใหญ่เพราะเป็นนักลงทุนรายใหญ่ที่สุดของไทย อีกทั้งก่อนหน้านี้ปัญหาการเมืองก็เป็นปัจจัยหนึ่งที่เขาประเมิน และเมื่อมามีกรณีของมาบตาพุดอีกก็ยิ่งทำให้เขามีแนวโน้มจะย้ายฐานการลงทุนไปที่อื่น ขนาดตอนที่มีเรื่องกฎหมายการลงทุนต่างด้าวเขาก็ยังไม่แรงเท่านี้ ดังนั้น แนวโน้มที่ทำให้มีคนตกงานนับหมื่นคน เงินหายไป 2 แสนล้านบาท รวมทั้งจีดีพีของประเทศก็จะหายไป 0.5 เปอร์เซ็นต์" อดีตรมว.คลังกล่าว 

          นายสุชาติ กล่าวว่า สำหรับกรณีที่ประธานองค์การส่งเสริมการค้าต่างประเทศของญี่ปุ่น (เจโทร) จะเข้าพบอดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งจะใช้โอกาสนี้ในการชี้แจงและทำความเข้าใจกับนักลงทุนญี่ปุ่นถึงแนว นโยบายและขั้นตอนการแก้ไขปัญหาการลงทุนในนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด เพื่อหารือเรื่องการลงทุนในนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุดนั้น ตนไม่แน่ใจว่าถึงวันนี้ รัฐบาลจะสามารถเรียกความเชื่อมั่นกลับมาได้หรือไม่ เพราะที่ผ่านกรณีมาบตาพุดทำให้สถาบันการเงินในญี่ปุ่นที่ปล่อยกู้ให้กับนักธุรกิจนักลงทุนญี่ปุ่นที่เข้าลงทำธุรกิจโครงการในไทย ออกมาแสดงความเห็นไม่มั่นใจในเรื่องของกฎหมายและสถานการ์มาบตาพุด เพราะทำให้เกิดความไม่แน่นอนในตลาดเงิน เรื่องนี้ ถือเป็นความล้มเหลวความเชื่อมั่นต่อกฎหมายไทย อย่างมาก ฉะนั้นทางแก้ปัญหาในระยะยาวคือรัฐบาลต้องมองแนวทางต้องกระจายลักษณะอุตสาหกรรม แต่ก็คงต้องไปทำผลศึกษาด้านสิ่งแวดล้อมสุขภาพประชาชนในสถานที่อื่นเช่นกัน 

          "รัฐบาลจะต้องทำให้เหมือนคนทั้งโลก เขาทำกัน เมื่อมีนักลงทุนมาลงทุนก็ต้องซัพพอตความเชื่อมั่น เช่น ภาษี กฎหมาย นโยบายของรัฐบาล ไม่ใช่อยู่ดีก็มีเรื่องเซอร์ไพส์ทั้ง ๆ ที่เขาทำตามกฎหมาย แต่เรื่องมาบตาพุด มันเลยมาแล้ว จริง ๆ ถ้าจะไปเรียกเขามาคุยก็เป็นเรื่องที่ทำได้ยากเพราะไม่รู้ว่าเขาจะเชื่อเราเหมือนเดิมแค่ไหน ถ้าภาคประชาชนย้อนไปได้เป็นผม ผมก็คงต้องเรียกเอ็นจีโอมาคุยอย่าให้เรื่องไปถึงศาล แต่ผมยังไม่เห็นว่ารัฐบาลดึงฝ่ายประชาชนมาคุยจริง ๆ จัง" นายสุชาติ กล่าว


ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก
 

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
พท.ชี้ ญี่ปุ่นย้ายฐานลุงทุน เหตุมาบตาพุดพ่นพิษ อัปเดตล่าสุด 19 มกราคม 2553 เวลา 15:47:52 4,211 อ่าน
TOP