เชือดโหด 2 แม่ลูกเด็ก 4 ขวบก็ไม่เว้น (เดลินิวส์)
ฆาตกรรมสยองร้านอาหารตามสั่ง มือมีดอำมหิต บุกเชือดคอสาวใหญ่เจ้าของร้าน แล้วปาดคอฆ่าปิดปากลูกสาววัย 4 ขวบซ้ำ ดับสยองนองเลือด 2 ศพ ขณะที่ ตร. เต้น พลิกแผ่นดินล่าฆาตกรใจโหด เรียกสอบกราวรูดแต่ยังไม่พบฆาตกร มุ่งสอบคลี่คลายทุกประเด็น ทั้งเรื่องพยายามข่มขืน ชู้สาว แค้นส่วนตัว และที่สำคัญฆ่า ล้างหนี้
เมื่อเวลา 08.30 น. วันที่ 18 ม.ค. พ.ต.ท.ไพศาล สังข์เทพ สารวัตรเวร สภ. เมืองสมุทรสาคร รับแจ้งมีผู้ถูกทำร้ายเสียชีวิต ที่ร้านอาหารตามสั่ง ตรงข้ามทางเข้าวัดป่าท่าทราย หมู่ 5 ต.ท่าทราย อ.เมือง จ.สมุทรสาคร จึงนำกำลังไปตรวจสอบพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่มูลนิธิการกุศลสมุทรสาคร ที่เกิดเหตุเป็นบ้านไม้ชั้นเดียวตั้งอยู่ริมถนน เปิดเป็นร้านขายอาหารตามสั่ง พบว่าบริเวณหน้าร้านมีคนมุงดูเป็นจำนวนมาก
จากการตรวจสอบภายในร้าน เจ้าหน้าที่ต้องตกตะลึง เนื่องจากพบศพผู้เสียชีวิตอยู่ภายในห้องนอน 2 ราย ทราบชื่อนางพัชรียา ทองยอดย้อย อายุ 46 ปี อยู่บ้านเลขที่ 17 หมู่ 2 ต.บ้านมุง อ.เนินมะปราง จ.พิษณุโลก สภาพศพเสียชีวิตอยู่ข้างเตียงนอน ใบหน้าเปื้อนเต็มไปด้วยเลือด มีบาดแผลถูกฟันด้วยของมีคมที่บริเวณลำคอเป็นแผลฉกรรจ์ บาดลึกไปถึงด้านหลังจนหวิดขาด ส่วนบนเตียงนอนพบศพ ด.ญ. ปราณี ทองยอดย้อย อายุ 4 ขวบ ลูกสาวนางพัชรียา มีบาดแผลถูกของมีคมปาดที่ลำคอเกือบขาดเช่นกัน ข้างศพมีขวดนมตกอยู่ส่วนที่พื้นห้องมีเลือดไหลนอง ส่งกลิ่นคาว คละคลุ้งอย่างสยดสยอง
สอบสวนนางนิภา ร้อยเขียว พี่สาวผู้ตาย ให้การว่า นางพัชรียา น้องสาวมีอาชีพเป็นแม่ค้าขายอาหารตามสั่ง และปกติจะปิดร้านช่วงเวลา 17.00 น. ของทุกวัน แต่ในช่วงเย็นวันที่ 17 ม.ค. ที่ผ่านมา มีช่างทาสี 3-4 คน ทำงานอยู่ในสถานที่รับเหมาก่อสร้างใกล้ร้าน และมีบ้านพักอยู่ในวัดป่าท่าทราย ได้ชักชวนกันมานั่งดื่มเหล้าอยู่ในร้าน ทำให้น้องสาวปิดร้านไม่ได้ ทั้ง ๆ ที่ตนพยายามบอกน้องสาวให้รีบปิดร้าน เนื่องจากวันรุ่งขึ้นจะต้องส่งลูกไปโรงเรียน ก่อนที่ตนจะไปทำงานที่โรงกระดาษ ตั้งอยู่ใกล้ ๆ ร้านขายอาหารตามสั่งน้องสาว
นางนิภา ให้การต่อว่า จนกระทั่งเวลา 04.00 น. วันเดียวกันนี้ หลังจากตนเลิกงาน แล้วเดินทางกลับมาที่ร้าน และพบว่าร้านปิด และไฟดับหมด ทั้ง ๆ ที่ตามปกติจะเปิดไฟไว้ทุกวัน จึงเกิดความสงสัย และเดินเข้าไปดูในร้าน และพบว่าประตูห้อง นอนเปิดแง้มไว้ จึงเปิดประตูเข้าไป และพบน้องกับหลานสาวถูกทำร้ายเสียชีวิตแล้ว จึงรีบแจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจมาตรวจสอบ
ในเบื้องต้นสันนิษฐานว่า สาเหตุน่าจะเกิดจากฝีมือของคนงานช่างทาสี ที่มานั่งดื่มเหล้าแล้วเกิดอารมณ์ทางเพศ แล้วพยายาม จะลงมือข่มขืนผู้ตาย แต่ผู้ตายไม่ยินยอมต่อ สู้ขัดขืน จึงถูกคนร้ายทำร้ายจนเสียชีวิต ส่วนลูกสาวที่นอนดูดนมอยู่บนเตียงน่าจะเห็นเหตุการณ์และร้องไห้ส่งเสียงดัง จึงถูกคนร้ายปาดคอฆ่าปิดปากไปด้วยอีกคน อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่กำลังเร่งสอบสวนติดตามคนร้าย เพื่อคลี่คลายคดีอย่างเร่งด่วนแล้ว
ต่อมาเวลา 12.00 น. พล.ต.ต. โสภณ พิสุทธิวงศ์ รอง ผบช.ภ.7 ได้เดินทางมาตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมสั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งติดตามหาตัวคนร้ายมาดำเนินคดีให้ได้โดยเร็ว โดยให้ตรวจสอบทุกประเด็น ทั้งเรื่องชู้สาว ความแค้นส่วนตัว และกำชับให้รวบรวมหลักฐานอย่างละเอียด เพื่อไว้ใช้ดำเนินคดีกับผู้ต้องหา อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่พบรองเท้าแตะ 1 คู่ และรถจักรยานอีก 1 คัน จึงรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน
ด้าน พ.ต.อ.พงษ์ศักดิ์ ชูนาค ผกก. สภ.เมืองสมุทรสาคร เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้นำผู้ต้องสงสัยมาสอบปากคำแล้วหลายคน ทั้ง รปภ.ของโรงงานใกล้ที่เกิดเหตุ ช่างทาสี แต่ยังไม่พบพิรุธ และยังไม่มีหลักฐานเพียงพอ จึงปล่อยตัวไป
ขณะที่ พ.ต.ต.นิยม สุ่ยวงศ์ สว.กก. สส.ภ.จว.สมุทรสาคร กล่าวว่า นอกจาก สาเหตุข้างต้นแล้ว จากแนวทางการสืบสวนพบว่า มีประเด็นที่น่าสงสัยอีก 1 ประเด็นคือ ผู้ตายได้กู้เงินนอกระบบมาลงทุนค้าขาย และก่อนหน้านี้ เคยมีปากเสียงกับแก๊งทวงหนี้เงินกู้นอกระบบ แต่ตอนนี้ยังไม่ทราบว่า เจ้าหนี้รายนี้เป็นใคร และอยู่ระหว่างการสืบหาตัวมาสอบสวนอย่างเร่งด่วนแล้วว่า จะมีส่วนเกี่ยวข้องด้วยหรือไม่ เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
