เสธ.แดง ซัด ผบ.ทบ.แต๋วแตก-กลัวตาย

สรุปประเด็นข่าวโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก คมชัดลึก , ไทยรัฐ 

          เมื่อวันที่ 22 ม.ค. พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล ผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบก กล่าวถึงกรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจออกหมายจับ กรณีมีอาวุธสงครามไว้ในครอบครองว่า ขณะนี้ยังอยู่ที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา เดินสายหาสมาชิกพรรคขัตติยะธรรม ไม่ได้หลบหนี แต่หากมีการอนุมัติออกหมายจับ ก็จะส่งทนายไปร้องต่อศาลให้ไต่สวนฉุกเฉิน เพื่อยกเลิกหมายจับ เนื่องจากตามกฎหมายระบุว่า การจะขออนุมัติออกหมายจับทำได้ต่อเมื่อเป็นการกระทำความผิดซึ่งหน้า ทำในที่สาธารณะ และตนก็ไม่อยู่ในที่เกิดเหตุของการจับอาวุธสงคราม รถยนต์ก็อยู่ในบ้านพักไม่ได้อยู่ในที่สาธารณะ ดังนั้นการกระทำดังกล่าวถือว่าผิดขั้นตอน เพราะความเป็นจริงน่าจะต้องออกหมายเรียกก่อน หากออกหมายเรียกสองครั้งแล้วยังไม่ไปพบ พนักงานสอบสวนจึงจะขออนุมัติออกหมายจับ อีกทั้งตนไม่ได้เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ยิงในกองทัพบก แต่เป็นการโมเมและอคติของคนบางคน  อาวุธที่ยึดจากบ้านมีเพียงปืนพกขนาด .32 มม.เท่านั้นที่เป็นของตัวเอง แต่มีทะเบียนถูกต้อง ส่วนระเบิดไม่ใช่ของตน น่าจะเป็นเจ้าหน้าที่ที่เข้าไปตรวจยึดของกลาง

          พล.ต.ขัตติยะ กล่าวต่อถึง จ.ส.อ.ณัฎฐ์สิทธิ์ สุวรรณราช  ถูกจับกุมตัวพร้อมอาวุธสงครามจำนวนมาก ว่า ไม่เคยเกี่ยวข้องกันไม่ได้เจอกันมา 4-5 ปี เคยทำงานสมัยที่ตามนายไตรรงค์ สุวรรณคีรี เมื่อครั้งดำรงตำแหน่ง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน โดยตนได้รับการแต่งตั้งให้อยู่ในชุดเฉพาะกิจปราบปรามแรงงานผิดกฎหมาย โดย ม.พัน 3 ส่ง จ.ส.อ.ณัฎฐ์สิทธิ์ ไปร่วมคณะทำงานด้วย จากนั้นก็ไม่ได้เกี่ยวข้องกัน สำหรับพลทหารที่ถูกจับใส่กุญแจมือนั้น กลายเป็นภาพที่ทำลายขวัญกำลังใจของทหารด้วยกัน เพราะในประวัติศาสตร์ไม่เคยมีตำรวจบุกเข้าไปค่ายทหารจับกุมทหารที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่ แล้วใส่กุญแจมือ

          "เหตุการณ์ทั้งหมดเกิดจากอคติของผู้นำทหาร ที่พอมีการยิงกองบัญชาการกองทัพบก ก็เข้าใจว่าเป็นฝีมือ เสธ.แดง เป็นอาการของพวกแต๋วแตก กลัวตาย เลยเอาตำรวจเข้ามาจัดการทหาร เสื่อมเสียศักดิ์ศรีกองทัพ  เริ่มจากการที่ผู้นำทหารคนนี้เข้าไปร่วมปฏิวัติไปร่วมกับระบบอำมาตย์ ไม่ปฏิบัติตามคำสั่ง นายสมัคร สุนทรเวช อดีตนายกรัฐมนตรี ในการสั่งการให้ปราบม็อบ แต่ดันไปจัดกำลังอารักขาพันธมิตรฯ" นายทหารคนดัง กล่าวในที่สุด

         ก่อนหน้านี้ เมื่อเวลา 22 ม.ค. พล.ต.ท.สัณฐาน ชยนนท์ ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล กล่าวถึงการอออกหมายจับ  สวัสดิผล หรือ เสธ.แดง ผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบก ว่า ทางกองบัญชาการตำรวจนครบาลได้รวบรวมหลักฐานเสนอขออำนาจศาลออกหมายจับ พล.ต.ขัตติยะ แล้วตามหลักฐานที่ปรากฎ ส่วนจะอนุมัติหรือไม่เป็นดุลยพินิจของศาล เมื่อวานพวกสื่อก็เห็นหลักฐานที่ไปตรวจค้นบ้าน เสธ.แดง มันมีมากพอที่จะขอหมายจับได้ไหม เราก็ขอศาลไปแล้ว อยู่ระหว่างการพิจารณาของศาล เพราะอัตราโทษสูง

          ทั้งนี้สืบเนื่องมาจาก เมื่อวันที่ 21 มกราคม พล.ต.ท.สัณฐาน ชยนนท์ ผบช.น. พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ ผบก.น.1 พ.ต.อ.สุพิศาล ภักดีนฤนาถ ผบก.ป. พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจนครบาล กองปราบปราม สันติบาล และ พ.ต.ประเสริฐ พิศมัย นายทหารพระธรรมนูญ พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่สารวัตรทหาร (สห.) เข้าตรวจค้นบ้านพักของ พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล หรือ เสธ.แดง ผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบก ภายใน ม.พัน 4 รอ. พบระเบิด สังหารชนิดเอ็ม 26 จำนวน 1 ลูก อาวุธปืนพกสั้นขนาด .380 พร้อมกระสุนปืน คอมพิวเตอร์ 1 ชุด ส่วนตรวจค้นภายในรถเบนซ์ตู้ บริเวณเบาะหลังพบระเบิดชนิดเอ็ม 26 และอาวุธปืนขนาด .32 จำนวน 1 กระบอก และเครื่องกระสุน กระสุน .22 หลายร้อยนัด จึงควบคุมตัว พลทหารมนัสชัย คำพร ทหารที่ดูแลบ้าน และนายเอกลักษณ์ วิเศษวงศ์ษา คนรับใช้ในบ้านมาสอบปากคำ

          ขณะเดียวกัน กำลังทหารอีกชุดหนึ่งได้เข้าตรวจค้นบ้านพักแฟลตชุมชนทหาร ห้องที่ 9 ชั้นล่าง ภายใน ม.พัน 3 รอ. ซึ่งตั้งอยู่ใกล้กัน ควบคุมตัว จ.ส.อ.ณัฎฐ์สิทธิ์ สุวรรณราช อายุ 50 ปี สังกัด ม.พัน 3 รอ. อดีตพลขับให้กับ พล.ต.ขัตติยะ นอกจากนี้ ยังค้นในรถกระบะพบลูกกระสุนขนาดเอ็ม 79 รวม 22 นัด กระสุนปืนเอ็ม 16 ประมาณ 300 นัด ระเบิดซีโฟร์ 3 แพค ระเบิดทีเอ็นที 3 ขนาด รวม 13 แท่ง ส่วนภายในบ้านพักพบลูกระเบิดเอ็ม 79 รวม 10 ลูก ระเบิดเคโม 3 ลูก กระสุนปืนเอ็ม 16 ประมาณ 400 นัด กระสุนปืนอาก้าอีกหลายร้อยนัด ปลอกกระสุนปืนเอ็ม 79 ที่ใช้แล้ว 2 ปลอก กระสุนปืน ปตอ. ขนาด 50 มม. ประมาณ 60 นัด เสื้อเกราะ 2 ตัว แผงวงจรพร้อมเชื้อปะทุฝักแค เครื่องยิง 2 ชุด

          โดย จ.ส. อ.ณัฎฐ์สิทธิ์ ให้การว่า เคยเป็นลูกน้องของ พล.ต.ขัตติยะ เมื่อหลายปีก่อน รวมทั้งเคยร่วมงานเป็นคณะทำงานติดตาม นายไตรรงค์ สุวรรณคีรี รองนายกรัฐมนตรี แต่เมื่อประมาณ 4 ปีที่ผ่านมาก็แยกตัวออกมา และไม่ได้ติดต่อกันอีกเลย ส่วนอาวุธสงครามเป็นของตนจริง เพราะเป็นคนชอบสะสมอาวุธสงครามมาได้ประมาณ 20 ปี ส่วนใหญ่ซื้อมาจากชายแดนเขมร อย่างไรก็ตาม อาวุธดังกล่าวไม่เคยมีใครมาขอดู หรือหยิบยืมไปใช้ ส่วนกรณีปลอกกระสุนปืนเอ็ม 79 ที่ถูกใช้ไป 2 ปลอกนั้น เก็บมาจากการฝึกที่ จ.ลพบุรี ขอยืนยันว่าอาวุธทั้งหมดเป็นของตนไม่เกี่ยวข้องกับ พล.ต.ขัตติยะ แต่อย่างใด



          
          อย่างไรก็ตาม ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะบุกค้นบ้าน พล.ต.ขัตติยะ ได้ออกมาปฏิเสธแล้วว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ที่กองทัพบกถูกคนร้ายยิงด้วยลูกระเบิดเอ็ม 79 พร้อมกับกล่าวว่า ไม่ควรนำผมเข้ามาเกี่ยวข้องกับการยิงครั้งนี้ และผมไม่ทราบว่าใครเป็นผู้ก่อเหตุ แต่อาจจะเป็นกลุ่มนักรบศรีวิชัยที่ต้องการมาล้างแค้น พล.อ.อนุพงษ์ ก็ได้ การที่กองทัพบกถูกคนร้ายยิงถือว่าเป็นความอับอายที่สุด เพราะตั้งแต่ตั้งมาในสมัยรัชกาลที่ 5 ปัจจุบัน 122 ปี ไม่เคยถูกใครยิงมาก่อน การโดนยิงครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ ซึ่ง พล.อ.ประวิตร และ พล.อ.อนุพงษ์ ต้องแสดงความรับผิดชอบด้วยการลาออกจากตำแหน่ง

          ทั้งนี้ พ.ต.อ.พรศักดิ์ กล่าวว่า เบื้องต้นเจ้าหน้าที่จะดำเนินการสอบปากคำผู้ต้องหาทั้งหมด ว่าจะสามารถเชื่อมโยงไปถึง พล.ต.ขัตติยะ ได้หรือไม่ พร้อมกับแจ้งข้อกล่าวหามีและครอบครองอาวุธปืน และเครื่องกระสุนปืนที่นายทะเบียนไม่สามารถออกให้ได้ ไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมาย ซึ่งขอยืนยันว่าจะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง หากพบว่ามีหลักฐานใด ๆ ที่เกี่ยวพันกับบุคคลใดก็จะดำเนินการตามกฎหมายต่อไป ส่วนของกลางทั้งหมดที่ยึดมาได้ เบื้องต้นจะนำมาเก็บไว้ที่กองปราบปราม

          ขณะที่ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า ทุกอย่างต้องรักษากฎหมาย เบื้องต้นมีการตั้งข้อหาเพียงพกพาอาวุธสงคราม ส่วนจะทำให้คนเสื้อแดงไม่พอใจหรือไม่นั้น ผมว่าเขาจะไม่พอใจเพราะเราปฏิบัติตามกฎหมายน่ะเหรอครับ ก็ต้องถามล่ะครับว่า ทำไมถึงจะไม่พอใจกับการรักษากฎหมาย



ขอขอบคุณข้อมูลจาก