x close

3 ผู้บริหารปูแดง เข้ามอบตัว ขอสู้คดีฉ้อโกง





3 ผู้บริหารปูแดง เข้ามอบตัว ขอสู้คดีฉ้อโกง (ไทยรัฐ)

          วันที่ 26 มกราคม ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) พ.ต.อ.ณรัชต์ เศวตนันท์ รองอธิบดีดีเอสไอ และ โฆษกดีเอสไอ แถลงข่าวความคืบหน้าการดำเนินคดีกับบริษัท เบสท์ 59 จำกัด ผู้ผลิตสินค้ายี่ห้อปูแดงไคโตซาน ซึ่งถูกจับกุมตรวจค้น ฐานกระทำการเข้าข่ายร่วมกันฉ้อโกงประชาชนและมีลักษณะเป็นแชร์ลูกโซ่ว่า นอกจาก นายเนตินันท์ ประดิษฐ์ชัย ที่ถูกควบคุมตัวไปก่อนหน้านี้ ในวันนี้ ผู้ต้องหาที่ถูกออกหมายจับอีก 3 คน คือ นายสมปอง แซ่ตั้ง ประธานกรรมการบริษัท นายธนาพัทน์ กิจใบ และนายวิชาญ จำปาขาว พร้อมทนายได้เดินทางเข้ามามอบตัว เพื่อขอต่อสู้คดีด้วยตัวเอง ซึ่งสำนักคดีอาญาได้ดำเนินการตามขั้นตอนคือทำประวัติ พิมพ์ลายนิ้วมือ พร้อมทั้งบันทึกการแจ้งข้อกล่าวหาเข้าข่ายเห็นการกระทำผิดฐานฉ้อโกงประชาชน ตามประมวลกฎหมายอาญา ม.343 และ ร่วมกันกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน ตาม พ.ร.ก.การกู้ยืมเงิน ที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน ม. 4 5 12 ประกอบประมวลกฎหมายอาญา ม. 83

          พ.ต.อ.ณรัชต์ กล่าวยืนยันว่า ที่ผ่านมาการดำเนินการตรวจค้นจับกุม ของ พ.อ.ปิยะวัฒก์ กิ่งเกตุ ผบ.สำนักคดีอาญาพิเศษ เป็นไปตามพยานหลักฐาน ซึ่งเพียงพอต่อการแจ้งข้อกล่าวหาได้ โดยเฉพาะกรณีดังกล่าว เมื่อเทียบเคียง กับคดีแชร์ลูกโซ่ ที่เคยดำเนินคดีพบว่า มีลักษณะเช่นเดียวกัน ทั้งนี้ เงื่อนไขการปล่อยตัวชั่วคราวในชั้นนี้ พ.ต.อ. ณรัชต์ กล่าวว่า มี 2 เงื่อนไข คือ ห้ามเข้าไปยุ่งเกี่ยว หรือเคลื่อนย้ายเอกสารหลักฐาน และห้ามอยู่เบื้องหลังการปลุกปั่นยุยงให้สมาชิกเครือข่ายรวมตัวกันเคลื่อนไหว หากผิดเงื่อนไขสามารถถอนการให้ประกันตัวชั่วคราวได้

          พ.ต.อ.ณรัชต์ กล่าวย้ำว่า ด้วยการประสานความร่วมมือในการจับกุม ถึง 4 หน่วยงาน คือ ดีเอสไอ สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) กลุ่มงานป้องปราบการเงินนอกระบบ สำนักงานปลัดกระทรวงการคลัง และ กรมวิชาการเกษตร ทำให้การตรวจสอบเรื่องดังกล่าว มีข้อเท็จจริงที่น่าเชื่อ ถึงการกระทำความผิด แม้ขณะนี้ยอมรับว่า ยังมีผู้เสียหายหลายคน ยังไม่ตระหนักว่า ตัวเองเป็นผู้เสียหาย เพราะถือว่าสายโซ่ของขบวนการยังไม่ขาด สมาชิกบางส่วนยังได้เงินปันผลปกติด้วยการเอาเงินจากสมาชิกรายใหม่ไปจ่ายให้รายเก่า แต่เมื่อใดที่สายโซ่ขาด เมื่อนั้นผู้เสียหายจะรู้ตัว พร้อมชี้แจงข้อแตกต่างระหว่างการขายตรงกับแชร์ลูกโซ่ว่า โดยหลักการขายตรงจะเน้นการขายตัวผลิตภัณฑ์ รายได้หลัก หรือผลประโยชน์ตอบแทน ต้องมาจากการกระจายสินค้าไปสู่ผู้บริโภคอย่างแท้จริง ซึ่งการขายตรงสามารถขยายองค์กรด้วยการหาสมาชิกเครือข่ายในการประกอบธุรกิจขายตรงได้ แต่ต้องไม่กำหนดให้ได้รับผลตอบแทนเป็นรายได้หลักจากการแนะนำผู้จำหน่าย หรือตัวแทนขายตรงเข้าร่วมเป็นเครือข่าย

          ขณะที่แชร์ ลูกโซ่ พ.ต.อ.ณรัชต์ กล่าวว่า มีรายได้หลัก จากการขยายองค์กรด้วยการหาสมาชิกเข้ามาร่วมเครือข่าย โดยเสนอผลประโยชน์ตอบแทนที่สูงมากในระยะสั้น ซึ่ง บริษัท เบสท์ 59 จำกัด เข้าข่ายธุรกิจที่มุ่งเน้นระดมเครือข่ายเป็นหลักและถือเป็นรายได้หลักจากการสร้างเครือข่าย


ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก


เรื่องที่คุณอาจสนใจ
3 ผู้บริหารปูแดง เข้ามอบตัว ขอสู้คดีฉ้อโกง อัปเดตล่าสุด 26 มกราคม 2553 เวลา 15:46:00 8,317 อ่าน
TOP