ครูโหดขว้างแปรงลบกระดานใส่หน้า ดญ.ป.3 จนดั้งหัก (ไทยรัฐ)
พ่อแม่เหลืออด แจ้งความจับ ครูโหด ขว้างแปรงลบกระดานใส่หน้า ลูกสาว ป.3 อายุเพียง 9 ขวบ ในชั้นเรียนจนดั้งหัก
นายสุรชัย ดีชะโชติ อายุ 33 ปี อยู่บ้านเลขที่ 108/2 ม.4 ต.สี่ร้อย อ.วิเศษชัยชาญ จ.อ่างทอง พร้อมด้วย นางปรานอม กล่อมดี ซึ่งเป็นภรรยา เดินทางเข้าแจ้งความกับ ร.ต.ท.ยุคณธร ชูแก้ว ร้อยเวร สภ.บางจัก อ.วิเศษชัยชาญ จ.อ่างทอง ให้ดำเนินคดีกับ ครูสอนวิชาภาษาอังกฤษและการงานอาชีพ คนหนึ่งของโรงเรียนวัดทำนบ ต.สี่ร้อย อ.วิเศษชัยชาญ หลังได้ใช้แปรงลบกระดานดำขว้างใส่หน้าของบุตรสาว อายุ 9 ขวบ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 จนดั้งจมูกหักได้รับบาดเจ็บ เมื่อเย็นวันที่ 29 ม.ค.ที่ผ่านมา
โดยผู้เป็นพ่อและแม่ของนักเรียนเคราะห์ร้ายรายนี้ให้การว่า เมื่อเย็นวันที่ 29 ม.ค. หลังบุตรสาวกลับจากโรงเรียนมาถึงบ้าน ก็พบว่ามีอาการหน้าบวมช้ำและร้องไห้ไม่หยุดด้วยความเจ็บปวด ตนจึงเข้าได้สอบถาม จนทราบว่า ได้ถูกครูสอนวิชาภาษาอังกฤษและการงานอาชีพคนหนึ่ง ใช้แปรงลบกระดานขว้างใส่ ถูกที่บริเวณใบหน้าอย่างจัง จนได้รับบาดเจ็บดังกล่าว
หลังทราบเรื่องจึงรีบนำลูกสาวส่งโรงพยาบาลวิเศษชัยชาญ เบื้องต้นแพทย์เอ็กซเรย์พบว่า กระดูกบริเวณดั้งจมูกหัก จึงส่งตัวมาที่โรงพยาบาลอ่างทอง เพื่อดูอาการ ล่าสุดแพทย์ได้นำลูกสาวของตนเข้าห้องผ่าตัดเพื่อจัดเรียงกระดูกใหม่ จึงได้มาแจ้งความกับพนักงานสอบสวนเพื่อให้ดำเนินคดีกับครูโหดรายนี้
"หลังเกิดเหตุได้ติดต่อไปที่โรงเรียนปรากฏว่า มีครูคนหนึ่งได้นำเงินมาให้ 500 บาท เพื่อใช้พาน้องแอนไปโรงพยาบาล โดยที่ไม่มีครูคนใดแสดงความห่วงใย สอบถามถึงอาการลูกสาวตนแต่อย่างใด ล่าสุดเมื่อรู้ว่าตนเอาเรื่อง จึงมีคณะครูในโรงเรียนได้เดินทางมาพูดคุย เพื่อไม่ให้ตนดำเนินคดี แต่ตนไม่ยอมและจะขอดำเนินคดีจนถึงที่สุด" นายสุรชัยกล่าว
ขณะที่ครูที่ถูกกล่าวหา เปิดเผยว่า ช่วงเกิดเหตุเป็นวิชาการงานอาชีพและอังกฤษ ตนเองกำลังติววิชาภาษาอังกฤษให้กับเด็กในชั้น แต่เด็กหญิงคนดังกล่าวไม่สนใจฟัง ตนจึงพยายามเรียกให้กลับมาสนใจ แต่ก็ยังทำเหม่อลอยอยู่ ตนเองจึงใช้แปรงโยนไปที่โต๊ะเพื่อให้ตกใจ แต่พอดีกับที่เด็กหญิงหันหน้ากลับมาพอดี จึงโดนเข้าอย่างจัง หลังเกิดเหตุตนก็ได้รีบวิ่งเข้าไปดู และนำไปล้างหน้าทำแผลให้ พบว่ามีเพียงรอยถลอกเท่านั้น นอกจากนี้ หลังเกิดเหตุตนได้ไปเยี่ยมเด็กและพูดคุยกับพ่อแม่ของเด็กบ้างแล้ว แต่อย่างไรก็ตามตนยอมรับว่า เสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่มันเป็นเพียงอุบัติเหตุเท่านั้น ตนไม่ได้ตั้งใจที่จะทำร้ายเด็กอย่างแน่นอน
ด้าน นายสมพิศ ศุภพงษ์ ผอ.สพท.อ่างทอง เปิดเผยว่าหลังทราบเรื่องว่า ในเบื้องต้นได้สั่งการให้รอง ผอ.สพท. ไปเยี่ยมดูอาการของเด็กที่โรงพยาบาลอ่างทองแล้ว พบว่าเด็กยังอยู่ในระหว่างการพักฟื้นจากการผ่าตัด และได้พูดคุยกับผู้ปกครองของเด็กจนเข้าใจ ในส่วนการดำเนินการด้านวินัย ได้สั่งให้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง ซึ่งครูที่ก่อเหตุเป็นครูอัตราจ้าง หากพบว่า มีการกระทำผิดจริงโดยเจตนาก็จะพิจารณาโทษขั้นสูงสุด ซึ่งมีถึงไล่ออก แต่ทั้งนี้ต้องรอคณะกรรมการรายงานข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นมาให้ทราบก่อน โดยจะต้องให้ความเป็นธรรมกับทั้งสองฝ่าย
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก
