x close

สลด! บ้านครูน้อย หนี้ 8 ล้าน นอกระบบ-ไร้บริจาค

ครูน้อย


สลด"บ้านครูน้อย" หนี้8ล้าน นอกระบบ-ไร้บริจาค โดนขู่ระวังตาย! โฮ-ร้องพงศพัศ นัดเจรจาเจ้าหนี้ เผยกู้มาใช้จ่าย (ข่าวสด)

          ช่วยเด็กยากไร้รันทด "บ้านครูน้อย" สถานช่วยเหลือเด็กยากไร้เป็นหนี้นอกระบบ 8 ล้าน "ครูน้อย ทิมกุล" ร่ำไห้โฮร้อง "พงศพัศ พงษ์เจริญ" โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติที่รุดไปสอบถาม เผยสารภาพนำเงินที่ผู้บริจาคไปจ่ายดอกวันละ 5 หมื่น สาเหตุจากยอดบริจาคลดฮวบ แต่ต้องใช้จ่ายตกเดือนละกว่า 2 แสน ด้านผู้ช่วย ผบ.ตร. พร้อมประสานให้เจ้าหนี้มาไกล่เกลี่ย จะมาพบหรือให้ไปพบเพื่อเจรจาก็พร้อม

          เมื่อเวลา 11.00 น.วันที่ 7 ก.พ. พล.ต.ท. พงศพัศ พงษ์เจริญ ผู้ช่วย ผบ.ตร.ในฐานะโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พ.ต.อ.ปิยะ ต๊ะวิชัย รอง ผบก.น.8 พ.ต.อ.ดุสิต สมศักดิ์ ผกก.สน. ราษฎร์บูรณะ พร้อมเจ้าหน้าที่ สน.ราษฎร์บูรณะ ได้เดินทางมาพบครูน้อย หรือ นางนวลน้อย ทิมกุล อายุ 67 ปี ที่สถานรับเลี้ยงเด็กยากจน บ้านครูน้อย เลขที่ 319 หมู่ 1 ซอยราษฎร์บูรณะ 26 แขวงราษฎร์บูรณะ เขตราษฎร์บูรณะ กทม. หลังได้รับการร้องเรียนเรื่องเงินกู้นอกระบบ ที่กู้มาเป็นค่าใช้จ่ายในการเลี้ยงดูเด็กยากไร้ ซึ่งรับมาเลี้ยงภายในบ้านดังกล่าว

          ภายในบ้านเป็นบ้านไม้ มีอาคารอยู่ด้วยกันหลายอาคาร เป็นที่พักอาศัยของเด็กผู้ยากไร้ มีสภาพทรุดโทรมไปตามกาลเวลา เจ้าหน้าที่พบเด็กที่ครูน้อยรับเลี้ยงไว้ทั้งเด็กผู้ชายและเด็กผู้หญิง รวมแล้ว 72 คน ยืนให้การต้อนรับ พร้อมทั้งทักทายกล่าวสวัสดี พล.ต.ท.พงศพัศ และผู้ที่เข้ามาเยี่ยมเยือนอย่างน่าเอ็นดู ระหว่างนั้นมีผู้มีจิตเมตตานำอาหารและขนมมาเลี้ยงเด็กด้วย 

          หลังจากนั้น พล.ต.ท.พงศพัศ จึงได้เข้าพูดคุยถึงปัญหาที่ครูน้อยกำลังประสบอยู่อย่างเป็นกันเอง

 

บ้านครูน้อย



          ครูน้อย กล่าวเปิดเผยทั้งน้ำตาว่า เปิดบ้านเป็นสถานรับเลี้ยงเด็กด้อยโอกาสมาตั้งแต่ปี 2523 เนื่องจากเกิดความสงสารที่เห็นเด็กไร้ที่พึ่ง ไม่ได้เรียนหนังสือและไร้ที่พักพิง จนถึงวันนี้เป็นเวลากว่า 30 ปีแล้ว ระหว่างนั้นมีเด็กด้อยโอกาสเข้ามาอยู่ที่บ้านเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้ค่าใช้จ่ายก็ต้องเพิ่มขึ้นมากกว่าเดิม แม้จะมีเงินบริจาคจากมูลนิธิต่าง ๆ รวมถึงเงินบริจาคจากผู้ที่มีจิตเมตตาเข้ามาเป็นจำนวนมาก และรายได้จากการขายของที่ระลึก แต่ด้วยความมีคนอยู่มาก ค่าใช้จ่ายจึงต้องเพิ่มขึ้นเป็นหลายเท่าตัว จากนั้นตนจึงหันไปกู้เงินนอกระบบมาใช้จ่ายภายในบ้าน เริ่มกู้ครั้งแรกตั้งแต่ปี 2547 บางครั้งก็ต้องกู้มาจ่ายดอกของเจ้าหนี้อีกคน บางรายก็จ่ายจนครบทั้งต้นทั้งดอกไปหมดแล้ว แต่บางรายยังเหลือเงินต้นอยู่เป็นจำนวนมาก จนถึงวันนี้ตนมีเจ้าหนี้ อยู่ประมาณ 20 ราย และติดหนี้อยู่รวมแล้วประมาณ 8 ล้านบาท

          ครูน้อย กล่าวต่อว่า ในแต่ละวันตนต้องนำเงินไปจ่ายดอกเบี้ยให้เจ้าหนี้ทั้ง 20 ราย รวมแล้วประมาณ 5 หมื่นบาทต่อวัน ตนก็รู้ว่าเงินนอกระบบมีการคิดดอกที่แพงกว่าปกติ แต่ก็ต้องกู้เพื่อที่นำเงินมาใช้จ่ายเลี้ยงดูเด็กในบ้าน ที่ปัจจุบันมีทั้งสิ้น 72 คน เป็นเด็กช่วงอายุ 3-14 ปี จำนวน 60 คน และอายุ 14 ปีขึ้นไปจำนวน 12 คน ทั้งส่งเสียให้เรียนตั้งแต่อนุบาลจนจบปริญญาตรี ทุกวันตนต้องจ่ายเงินค่าเรียนหนังสือให้เด็กในบ้านไปเรียนเป็นเงินกว่า 4 พันบาททุกวัน และแต่ละคนจะได้รับเงินไล่เลี่ยกันไป ที่เรียนสูง เช่น ระดับปริญญาตรี ก็ได้เงินมากหน่อย ที่ยังเรียนประถมศึกษาหรือมัธยมศึกษาก็ได้ลดน้อยลงมา รวมค่าใช้จ่ายในแต่ละเดือน ทั้งค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าอาหาร และอื่น ๆ จิปาถะ ประมาณ 2.2 แสนบาท

          ครูน้อย กล่าวเพิ่มเติมว่า เจ้าหนี้บางคนก็เห็นใจตน บางครั้งก็ประนอมหนี้ให้ แต่ก็ต้องจ่ายให้ครบและมีกำหนดเวลาอยู่ดี แต่เจ้าหนี้บางคนก็มีข่มขู่บ้าง แต่ไม่ได้ข่มขู่ตนโดยตรง เพียงพูดจาฝากชาวบ้าน หรือบอกผ่านคนใกล้ชิดประ มาณว่ารู้จักกับตำรวจบ้าง มีปืนบ้าง หรือพูดจาในเชิงที่ว่า ใครที่ติดหนี้ไม่จ่ายมีสิทธิ์ตายได้ทุกคน ตนก็ไม่รู้จะทำยังไงก็ต้องกู้เงินอีกรายมาจ่ายดอกให้อีกราย เพื่อบรรเทาปัญหาไป ในส่วนของเจ้าหนี้ทั้งหมดมีอยู่ 3 ราย ที่หนักกว่าเจ้าอื่น ก็มีรายแรกประมาณ 1.3 ล้านบาท อีก 2 ราย รายละ 5 แสนบาท ทั้ง 3 รายนั้น ตนได้กู้ตั้งแต่ปี 2547 และส่งดอกทุกเดือน บางเดือนก็ส่งทั้งต้นและดอก แต่ทุกวันนี้เงินต้นก็ยังไม่ลดลง 

          "เรื่องนี้ไม่เคยบอกให้ใครทราบมาก่อน เพราะขณะนั้นยังสามารถหาเงินมาใช้หนี้ได้อยู่ แต่ทุกวันนี้ไม่รู้จะนำเงินจากไหนไปจ่ายแล้ว เพราะฐานะที่บ้านก็ยากไร้ เงินสนับสนุนจากมูลนิธิต่าง ๆ และเงินบริจาคก็เริ่มร่อยหรอ ทุกวันนี้เวลาอยู่กับเด็ก ๆ ก็มีความสุข แต่เวลาอยู่คนเดียวก็ต้องคิดเรื่องดังกล่าวจนเครียด ไม่รู้จะหันหน้าไปพึ่งใคร จึงต้องให้ตำรวจเข้าช่วยเหลือ และอยากให้เจ้าหนี้เห็นใจบ้าง เพราะทำงานรับใช้สังคมมาตลอด และเป็นคนซื่อตรงไม่เคยคิดเบี้ยวเจ้าหนี้ซักราย หาเงินจ่ายดอกให้ครบทุกเดือน แต่เงินต้นของบางรายไม่ยอมลดลงเลย" ครูน้อยกล่าว

          ด้าน พล.ต.ท.พงศพัศ กล่าวว่า วันนี้เป็นโอกาสอันดี ที่ครูน้อยได้สารภาพว่ารู้สึกผิดในการที่นำเงินของผู้ที่บริจาคให้กับเด็กไปจ่ายดอกเบี้ยให้เจ้าหนี้ การเปิดเผยข้อมูลในวันนี้เป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องแล้ว เกี่ยวกับภาระหนี้สินดังกล่าว ตนจะเชิญเจ้าหน้าที่ตำรวจท้องที่ กับเจ้าหนี้ที่มีจำนวนวงเงินกู้สูง ประมาณ 3 ราย มาพบปะหารือกันเกี่ยวกับการชำระหนี้ โดยเฉพาะหนี้ที่ครูน้อยจะต้องจ่ายรายวัน จะต้องดำเนินการในเบื้องต้น กำหนดไว้ภายใน 3 วัน เพื่อปลดภาระหนี้สินให้ครูน้อยได้มีโอกาสนำเงินที่ได้รับบริจาคจากประชาชน ไปใช้สำหรับในการเลี้ยงดูเด็กต่อไป ซึ่งหากขณะนี้เจ้าหนี้รายใดได้รับทราบข่าวแล้ว จะเดินทางมาพบตนที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ หรือจะให้ตนไปพบที่ใดก็กรุณาแจ้งให้ทราบด้วย เพื่อให้เรื่องดังกล่าวจบสิ้นโดยเร็ว

          พล.ต.ท.พงศพัศกล่าวต่อว่า ส่วนเรื่องความปลอดภัยของครูน้อย ที่นำเรื่องดังกล่าวเปิดเผยต่อสาธารณชนแล้วครูน้อยจะไม่ได้รับความปลอดภัยนั้น ในส่วนนี้ตนจะจัดเจ้าหน้าที่ตำรวจในท้องที่ให้เข้ามาดูแลและช่วยเหลือ และหากพี่น้องประชาชนที่ประสงค์จะให้การช่วยเหลือสนับสนุนภาระของครูน้อย จะเดินทางมาพบปะครูน้อยด้วยตนเอง หรือหากประสงค์จะบริจาค สามารถติดต่อได้โดยตรงที่บ้านครูน้อย เลขที่ 319 หมู่ 1 ซอยราษฎร์บูรณะ 26 แขวงราษฎร์ บูรณะ เขตราษฎร์บูรณะ กทม. หรือที่โทรศัพท์หมายเลข 0-2871-3083 ได้ทุกวัน



ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก



เรื่องที่คุณอาจสนใจ
สลด! บ้านครูน้อย หนี้ 8 ล้าน นอกระบบ-ไร้บริจาค อัปเดตล่าสุด 8 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา 13:41:05 80,441 อ่าน
TOP