มทภ.2 รับ กัมพูชา บุกปราสาทตาควาย แค่เข้าใจผิด

มทภ.2 ย้ำชัด ปราสาทตาควาย เป็นของไทย (ไทยรัฐ)

          ยอมรับมีกำลังทหารเขมรติดอาวุธเข้ามาฝั่งไทยจริง แต่มาถามความชัดเจนในการเปิดให้ขึ้นชมปราสาทตาเมือนธม เผยเตรียมประชุม อาร์บีซี.ร่วมกัมพูชา ในเดือน มี.ค.นี้...

          เมื่อวันที่ 12 ก.พ. พล.ท.วีร์วลิต จรสัมฤทธิ์ แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าวถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชาด้านปราสาทตาควาย อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ หลังมีข่าวว่า กัมพูชาได้เข้ายึดพื้นที่ดังกล่าวว่า ไม่เป็นความจริง เพราะพื้นที่ปราสาทตาควาย หากหันหน้าไปทางฝั่งกัมพูชาจะอยู่ด้านซ้ายมือของปราสาทตาเมือน ขึ้นมาทางด้านทิศตะวันออกประมาณ 10-12 กิโลเมตร จุดนี้ไม่มีถนนที่รถยนต์จะเข้าไปได้ ต้องใช้การเดินเพียงอย่างเดียว จึงได้กำหนดให้เป็นจุดประสานงานร่วมกันของทหารทั้ง 2 ประเทศเท่านั้น โดยจะมีการนัดพบตามเวลาที่ได้ตกลงกันไว้ และไม่มีการพกพาอาวุธเข้าไปแต่อย่างใด

          แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าวต่อว่า สำหรับกรณีที่เมื่อวันที่ 11 ก.พ. มีกำลังของกัมพูชาส่วนหนึ่งติดอาวุธเข้ามาในฝั่งของเขา ไม่ได้เข้ามาในพื้นที่ของไทยแต่อย่างใด ลักษณะเหมือนว่าเข้ามาสอบถามว่าปัญหาที่เกิดขึ้นที่ปราสาทตาเมือน ได้มีการปิดไม่ให้นักท่องเที่ยวขึ้นไปชมจริงหรือไม่ โดยคิดว่าอาจจะเกิดจากการเข้าใจผิดกัน เพราะฝ่ายไทยในฐานะแม่ทัพภาคที่ 2 ได้ขอให้ฝ่ายกัมพูชาอย่าพานักท่องเที่ยวขึ้นมาเฉพาะในวันที่ 8 ก.พ. เท่านั้น เพราะในวันดังกล่าวมีกลุ่มมวลชนของเราขึ้นมาชุมนุม ฉะนั้นผู้ที่เข้ามาในวันนั้นจึงได้บอกไปว่า ของดไว้ก่อนเพราะไม่สะดวกที่จะให้ขึ้นชมและขอให้ขึ้นมาในวันหลัง

          พล.ท.วีร์วลิต กล่าวอีกว่า อย่างไรก็ตามกำลังของฝ่ายไทยเรา ที่อยู่ในพื้นที่ก็ยังไม่ได้รับคำสั่งให้ยกเลิกจนกระทั่งเมื่อวันที่ 11 ก.พ. ฝ่ายกัมพูชาจึงได้มาประสาน และทางฝ่ายไทยก็ยืนยันว่า ไทยพร้อมที่จะเปิดให้ขึ้นชมได้ตามข้อตกลงร่วมกัน ตั้งแต่เมื่อวันที่ 11 ก.พ.จึงเปิดให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวของทั้ง 2 ฝ่ายเข้าชมได้ตามปกติ ฝ่ายกัมพูชาจึงได้ถอนกำลังและกลับออกจากพื้นที่ไปแล้ว ไม่ได้มีปัญหาหรือเงื่อนไขอะไรเช่นที่เป็นข่าวเลย

          แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าวถึงปราสาทตาควายว่า ปราสาทแห่งนี้ตั้งอยู่ในแนวเส้นเขตแดนที่ยังไม่ได้เจรจากัน จึงเป็นปัญหาการแบ่งเส้นเขตแดนเกิดขึ้นตลอด ในจุดที่ตกลงกันยังไม่ได้แต่ละฝ่าย ก็มีการอ้างสิทธิ์ของตัวเอง ที่เป็นผลกระทบไปหมด แต่ในส่วนของปราสาทตาควายฝ่ายไทย ก็ยืนยันว่าเป็นของไทย แต่ไม่ได้หยิบยกขึ้นมาพูดหรือเรียกร้องเหมือนปราสาทพระวิหาร เป็นเพียงแค่ว่าปราสาทหลังหนึ่งอยู่ใกล้กับแนวพรมแดนของทั้ง 2 ประเทศ และยังไม่มีการเจรจาในคณะกรรมการปักปันเขตแดน ฉะนั้น จึงมีการตกลงร่วมกันเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาขึ้นของทั้ง 2 ฝ่ายคือใช้เป็นจุดประสานงานร่วมกัน

          "กรณีที่ระบุว่ามีการทำกระเช้าเพื่อลำเลียงอาวุธขึ้นมาว่า ก็ไม่เป็นความจริง หากจะมีการก่อสร้างใด ๆ ก็จะทำการประท้วงหรือผลักดันไม่ให้ทำ และจุดดังกล่าวก็ไม่ได้สูงชันมากไม่มีความจำเป็น แต่ที่มีกระเช้าก็จะเป็นบริเวณภูมะเขือ ที่ฝ่ายกัมพูชาสร้างขึ้นมา และทำในเขตแดนของเขา เช่นเดียวกันกับถนนก็ไม่มีการก่อสร้างขึ้นมาที่ปราสาทตาควายเช่นกัน มีเพียงการก่อสร้างถนนจากบ้านกู่ ของกัมพูชาขึ้นมาที่ปราสาทตาเมือน ขอยืนยันว่า ไม่มีกำลังของกัมพูชาเข้ามายึดที่ปราสาทตาควาย ขณะนี้การเจรจาความสัมพันธ์ระหว่างกองทัพทั้ง 2 ยังมีการพูดคุยกันได้ดีอยู่" พล.ท.วีร์วลิต กล่าว

          แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าวถึงการเคลื่อนไหวของฝ่ายกัมพูชาจนถึงขณะนี้ว่า จากรายงานทราบว่า มีการเคลื่อนกำลังกลับหลังจากขึ้นไปปฏิบัติหน้าที่อารักขาสมเด็จ ฮุน เซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชาเสร็จสิ้นแล้วในช่วงวันที่ 5-10 ก.พ. ขณะนี้ได้มีการกลับเข้ามาในพื้นที่ที่เคยมีการวางกำลังกันอยู่ ไม่มีการขนอาวุธหนักเข้ามาเพิ่มเติมแต่อย่างใด ส่วนของไทยก็ไม่ได้มีการเพิ่มเติมกำลังเข้าไป เพียงแต่ได้รับนโยบายว่า ให้ดูแลความสงบเรียบร้อยตามแนวชายแดน ฉะนั้นการเคลื่อนย้ายกำลังหรือเสริมกำลังแต่อย่างใด เพราะกำลังที่มีอยู่เพียงพอตามภารกิจที่ได้รับมอบหมายอยู่แล้ว

          พล.ท.วีร์วลิต กล่าวด้วยว่า จากการได้พบปะพูดคุยกับผู้บัญชาการภูมิภาคทหารที่ 4 ของฝ่ายกัมพูชาเมื่อวันที่ 22 ม.ค. ได้มอบหมายให้กองเลขานุการของทั้ง 2 ฝ่ายมีการนัดพบพูดคุยระดับอาร์บีซีร่วมกัน คาดว่าจะมีการประชุมในเดือน มี.ค.นี้ ส่วนรายละเอียดในการประชุม วัน เวลาและสถานที่อยู่ระหว่างการเจรจากันอยู่  สาระสำคัญที่จะพูดคุยกันในการประชุมอาร์บีซีครั้งนี้ จะพูดคุยถึงการจัดระเบียบที่บริเวณช่องสะงำ ที่เป็นช่องทางที่มีการค้าขายและประชาชนไปมาหาสู่กันจำนวนมาก แต่ยังขาดความสะดวก เช่น ศุลกากร และตรวจคนเข้าเมือง ที่มีความเห็นตรงกันว่า จะทำให้บริเวณนี้มีความสะดวกมากขึ้น โดยมีการจัดระเบียบกันใหม่ทั้งหมด แต่การจัดระเบียบจะพยายามไม่ให้มีผลกระทบต่อเส้นเขตแดน ทั้งนี้เป็นเรื่องของคณะกรรมการปักปันเขตแดน

ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก