x close

ยึด-ไม่ยึด ทรัพย์ทักษิณ ชนวนก็ถูกจุดไปแล้ว

ทักษิณ ชินวัตร

พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร



ยึด-ไม่ยึด ทรัพย์ทักษิณ ชนวนก็ถูกจุดไปแล้ว (ไทยรัฐ)

          งวดเข้ามาทุกขณะ เหลือเพียง 3 วัน เท่านั้นที่จะถึงวันตัดสินคดีประวัติศาสตร์ ยึดทรัพย์อดีตผู้นำประเทศ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี 7.6 หมื่นล้านบาท หลายภาคส่วนได้แสดงทัศนะในแง่มุมต่าง ๆ ซึ่ง "ไทยรัฐออนไลน์" ได้นำเสนอมาอย่างต่อเนื่อง วันนี้ถึงคิวนักวิชาการผู้ที่มีบทบาท ติดตาม วิเคราะห์ พร้อมเสนอทางออกสังคมไทยมาโดยตลอด จะเสนอทางออก สถานการณ์นี้อย่างไร น่าสนใจอย่างยิ่ง



 
"อธิการนิด้า" ชี้ไม่มีเหตุรุนแรง 

          ศ.สมบัติ ธำรงธัญวงศ์ อธิการบดีสถาบันพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) ให้ทัศนะกับ "ไทยรัฐออนไลน์" ว่า วันนี้ สำหรับคำขู่ต่าง ๆ นั้น คิดว่าผู้พิพากษาไม่ได้หวาดกลัว หวั่นไหว ยังคงทำหน้าที่ด้วยความสุจริต ตรงไปตรงมา ตามวิชาชีพ ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงดุลยพินิจได้ ส่วนคนที่ขู่นั้นถือว่าเป็นคนที่ทำลายระบบยุติธรรม ทำลายระบบประชาธิปไตย เพราะตุลาการถือว่าเป็นอำนาจอธิปไตย ในการดำรงรักษาประชาธิปไตย 

          ทั้งนี้ ตามหลักการแล้วการตัดสินของศาลไม่ว่าจะออกมาอย่างไร จะยึดทรัพย์ หรือยกฟ้อง จะยึดทั้งหมดหรือยึดบางส่วน ประชาชนทุกกลุ่มต้องให้ความเคารพศาล ไม่ว่าจะพอใจหรือไม่ ก็ต้องยอมรับ ซึ่งถ้าใครเห็นว่ายังไม่ได้รับความเป็นธรรมก็สามารถเข้าสู่กระบวนการอุทธรณ์ เป็นสิทธิทางกฎหมาย และตามรัฐธรรมนูญ ปี 50 ให้อำนาจไว้ ส่วนการเคลื่อนไหวนอกกฎหมายนั้น ไม่มีผลต่อการเปลี่ยนแปลงคำตัดสินได้ ประชาชนไม่ควรทำในสิ่งที่ส่งผลต่อความสงบเรียบร้อย ทำลายระบบประชาธิปไตย 

          "ผลจะออกมาอย่างไร ผมเชื่อว่าไม่มีวิกฤติอะไรที่จะรุนแรงเท่ากับช่วงปลายปี 51 ทั้งเรื่องปิดสนามบิน ขัดขวางการประชุม และสงกรานต์เลือด ช่วงนั้นรุนแรงที่สุด ครั้งนี้หากคนไทยไม่ยอมรับอำนาจตุลาการ ไม่ยอมรับกฎกติกา กฎหมาย สังคมก็จะอยู่ไม่ได้" 

          อธิการบดีนิด้ายังเชื่อว่าจะไม่มีเหตุความรุนแรงเกิดขึ้น ถึงแม้จะมีความพยายามปลุกระดมจาก พ.ต.ท.ทักษิณ หรือ กลุ่มคนเสื้อแดง ใครก็ตามที่จะสร้างความรุนแรง สังคมไม่สนับสนุน ประชาชนเบื่อหน่ายไม่เห็นด้วย จะออกมาคัดค้าน 

          "ทุกคนต้องเคารพหากคราวหลังมีการตัดสินแล้วไม่ถูกใจ แล้วยกพวกมาขู่ และกล่าวหาไม่ถูกใจก็บอกว่า สองมาตรฐานอย่างนี้สังคมก็อยู่ไม่ได้ และหากมีความรุนแรงเกิดขึ้น รัฐบาลก็น่าจะสามารถรับมือได้ดีกว่าที่ผ่านมา"

          ทั้งนี้ ยังไม่มีสัญญาณว่าจะเลื่อนการตัดสินออกไป เพราะศาลได้ข้อมูลครบถ้วนแล้วแถลงปิดคดีไปเรียบร้อยหมดแล้ว ไม่น่ามีเหตุที่จะเลื่อน แต่หากเลื่อนไปก็แค่เลื่อนระยะเวลาเลื่อนทราบผลช้าขึ้นเท่านั้น บรรยากาศอึมครึมเหมือนเดิม



อ.นิติศาสตร์ มธ.เชื่อชุมนุมต่อ ดักคอ รัฐบาล อย่ารุนแรง 

          รศ.ดร.ปริญญา เทวานฤมิตรกุล อาจารย์ประจำภาควิชากฎหมายมหาชน คณะนิติศาสตร์ และรองอธิการบดีฝ่ายกิจการนักศึกษา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ให้ทัศนะว่า การตัดสินของศาลนั้น ต้องอธิบายได้ มีเหตุผลทางกฎหมายรองรับ และยึดเฉพาะเงินที่เป็นส่วนของ พ.ต.ท.ทักษิณ ซึ่งถ้าหากเป็นทรัพย์สินของคนอื่นจะไปยึดไม่ได้ อันนี้ก็ต้องพิสูจน์กันและ พ.ต.ท.ทักษิณ ก็ต้องหักล้าง พิสูจน์กันในชั้นศาล แต่ถ้าหักล้างไม่ได้ ก็แน่นอนว่าสินทรัพย์เหล่านั้นอาจเกิดจากการใช้อำนาจจากตำแหน่ง ตอนสมัยดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี เช่น กรณีเงินในบริษัทของตัวเองเพิ่มขึ้น ตรงนี้ก็ผิดกฎหมาย หรือไม่ชอบด้วยกฎหมาย และเข้าข่ายตามที่คณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) กล่าวหา แต่ทั้งหมดก็ขึ้นอยู่กับการพิจารณาจากข้อมูล หลักฐาน และวินิจฉัยของศาล 

          "ไม่ว่าผลจะออกมาอย่างไร ยึด ไม่ยึด ยึดบางส่วน อาจจะมีความเคลื่อนไหวชุมนุม แต่ทั้งนี้การชุมนุม เคลื่อนไหวทุกคนสามารถทำได้ เพราะเราอยู่ในระบอบประชาธิปไตย ใครจะมาห้ามไม่ได้ สิทธิเสรีภาพมีเท่ากัน แต่ทุกคนก็ต้องอยู่ภายใต้กฎหมาย ซึ่งหากเกิดความรุนแรง หน่วยราชการ เจ้าหน้าที่ตำรวจ รัฐบาลก็ต้องใช้กฎหมายในการควบคุมดำเนินการ ไม่ใช่ใช้ความรุนแรงในการตอบโต้ ปราบปราม ไม่งั้นจะกลายเป็นไฟลามทุ่ง บ้านเมืองก็จะลุกเป็นไฟ ไม่ได้แก้ปัญหาอะไร  เป็นการถอยหลังลงคูไปเลย"    

          รองอธิการบดี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กล่าวด้วยว่า แน่นอนการตัดสินครั้งนี้มีทั้งผู้เสียผลประโยชน์และผู้ได้ประโยชน์ พอใจและไม่พอใจ แต่ทั้งสองฝ่ายต้องยอมรับคำตัดสิน ในเมื่อระบอบประชาธิปไตย และสังคมไทยให้อำนาจตุลาการ ในการดำรงไว้ซึ่งความถูกผิด ถ้าคนไหนไม่ยอมรับคำตัดสิน สังคมก็จะไปไม่ได้ ระบอบประชาธิปไตยก็พังทลาย แต่ศาลก็ต้องให้ความยุติธรรมกับทุกฝ่าย คิดว่าทุกคนไม่อยากเห็นความรุนแรง เพราะมีแต่จะทำให้แย่ ไม่ใช่ทางออกของการแก้ปัญหา เพราะคนที่ได้รับผลกระทบคือคนไทยทุกคน ประเทศชาติล่มจม



อ.รัฐศาสตร์ชื่อดังจากจุฬาฯ  ชี้ 7.6 หมื่นล้านไม่ใช่ไพ่ใบสุดท้าย   

          รศ.ดร.ไชยันต์ ไชยพร อาจารย์ประจำภาควิชาการปกครอง คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย วิเคราะห์ว่า การยึดทรัพย์นั้นต้องโดนอยู่แล้วแต่จะยึดทั้งหมดหรือยึดบางส่วนนั้นตอบไม่ได้ ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของศาล อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้จะเป็นการวางมาตรฐานทางด้านจริยธรรมของนักการเมืองไทย ถึงแม้ว่าในทางกฎหมายดูเหมือนว่าจะไม่ผิด หมายความว่า ฝ่าย พ.ต.ท.ทักษิณ ได้ปรึกษานักกฎหมายมาอย่างดีแล้ว แต่เนื่องจากรัฐบาลในสมัยนั้นตั้ง คตส. มาดูเรื่องความเสียหายต่อรัฐ สามารถชี้ชัดความผิด ทำให้นักการเมืองที่พยายามซิกแซกทางด้านกฎหมายหลายเรื่อง รู้จักหวาดกลัว เพราะแม้ขนาดอดีตนายกรัฐมนตรี ยังถูกยึดทรัพย์จากการกระทำส่ิงที่ตัวเองคิดว่าจะรอดพ้นกฎหมายได้ คิดว่ามีผลกระทบต่อสังคมไทย เพราะที่ผ่านมามีการเล่นงานเฉพาะตัวเล็กตัวน้อย แต่กรณีนี้ตัวใหญ่ที่สุดโดน เมื่อหัวส่าย ทั้งคอ ลำตัว จนถึงระดับล่าง พฤติกรรม ทัศนคติของคนจะเปลี่ยนไป ใครก็ตามที่ใช้อำนาจ ตำแหน่งเอื้อประโยชน์ส่วนตัวและพวกพ้อง ทับซ้อนก็จะต้องโดนต่อไปด้วย ไม่ใช่แค่ พ.ต.ท.ทักษิณ 

          "หากมีการยึดหมด แน่นอนฝ่ายแกนนำกลุ่มคนเสื้อแดงจำนวนหนึ่งก็จะลุกเคลื่อนไหว ขึ้นอยู่กับพี่น้องประชาชนเสื้อแดงว่าจะรับฟังเหตุผลในการตัดสินมากน้อยแค่ไหน ประเด็นไม่ได้อยู่ที่ยึดทั้งหมด ยึดบางส่วน ย่อมมีคนเห็นด้วยและไม่เห็นด้วย ดังนั้นการให้เหตุผลการการสื่อสารกับสังคม และต้องยอมรับผลการตัดสิน เพราะถ้าไม่ยอมรับ มันก็จะไม่มีอะไรที่จะทำให้ความขัดแย้งสิ้นสุด ขณะเดียวกันก่อนที่จะดีใจหรือเสียใจกับผลการตัดสิน ประชาชนควรให้ความสำคัญกับเหตุผลและคำอธิบายในการตัดสินเสียก่อน โดยทำความเข้าใจด้วยการฟังหรืออ่านอย่างตั้งใจ พ.ต.ท.ทักษิณ เองก็ต้องยอมรับให้ได้"

          สำหรับประเด็นการเคลื่อนไหวนั้น รศ.ดร.ไชยันต์  เชื่อว่ายังคงมีต่อไปและประเด็นความเคลื่อนไหวเช่น อำมาตยาธิปไตย สองมาตรฐาน การรัฐประหารและประเด็นที่สำคัญคือการติดตามเรื่องฎีกาขอพระราชทานอภัยโทษ เพราะแม้ศาลตัดสินไปแล้ว และหากพรรคเพื่อไทยได้รับการเลือกตั้งเข้ามาเป็นรัฐบาล ก็จะรับลูกกลุ่มคนเสื้อแดง ติดตามเรื่องนี้แน่นอน ถึงตรงนั้นกลุ่มคนเสื้อเหลืองจะออกมาแน่นอน หลีกเลี่ยงไม่ได้ และหากเหลืองแดงมาเจอกันรัฐบาลก็ควบคุมไม่ได้ จะร้อนแรงกว่าคดียึดทรัพย์ 7.6 หมื่นล้านบาท เพราะนั่นคือไม้ตายจริง ๆ วันที่ 26 ก.พ.นี้ยังไม่ใช่

อ.นิติศาสตร์ มสธ. แนะ "นิรโทษกรรม"ตั้งแต่ 49 ทุกอย่างจะจบ

          ผศ.ธวัชชัย สุวรรณพาณิช อาจารย์ประจำคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช (มสธ.) กล่าวว่า ไม่ว่าจะออกทางหนึ่งทางใด ศาลต้องยึดหลักกฎหมาย จะตัดสินตามอำเภอใจ ตามธงไม่ได้แน่ ถ้าทำอย่างนั้น ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดก็ตาม ไม่ยึดเลย แต่เป็นเพราะตามใบสั่ง ตรงนี้วุ่นวายทั้งนั้น ต้องทำทุกอย่างบนพื้นฐานหลักกฎหมาย เหตุผลในคำพิพากษานั่นเอง ถ้าเหตุผล มีเหตุ มีทั้งผล อธิบายปรากฏการณ์ทุกอย่าง โดยกฎหมาย เชื่อว่าเหตุการณ์จะไม่รุนแรง เพราะในที่สุดแล้วมนุษย์ก็มีเหตุผล ทาง พ.ต.ท.ทักษิณ เองถ้ายึดแล้วมีเหตุผลอธิบาย เป็นเหตุผลที่คนยอมรับกัน ก็โวยวายไม่ได้ หรือจะไม่ยึดเลย แต่มีเหตุผลที่อธิบายได้ตามหลักที่เขายอมรับกัน อีกซีกหนึ่งก็รับได้ จะถูกปิดปากโดยเหตุผล แต่ทุกอย่างก็อยู่ในมือของตุลาการทั้ง 5 คน ซึ่งจะต้องอธิบายปรากฏการณ์ให้ได้ สมมติว่ามีการยึดหมดหรือยึดบางส่วน เมื่อคนอ่านแล้วเคลียร์ ก็เงียบ 

          อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าเสื้อแดงเองก็ไม่หยุดเคลื่อนไหว แต่จะรุนแรงหรือไม่ อาจจะไม่เป็นอย่างนั้น เพราะว่าธงในการต่อสู้ของคนเสื้้อแดงวันนี้ก้าวพ้นเงินจำนวน 7.6 หมื่นล้านบาท ไปเป็นประชาธิปไตย ซึ่งต้องการนำรัฐธรรมนูญปี 40 มาใช้ คิดว่า พ.ต.ท.ทักษิณ เองก็คิดว่าเงินที่โดนยึดนั้น เป็นการยึดโดยการเมือง การต่อสู้เพื่อเอาคืนมานั้นสามารถทำได้ โดยใช้วิธีทางการเมือง ซึ่งเป็นอะไรที่น่าคิดว่าจะใช้กระบวนการวิธีใด ส่วนการที่จะไม่ยึดเลยและเสื้อแดงเองยังเดินหน้าเรียกร้องรัฐธรรมนูญปี 40 นั้น ฝั่งของเสื้อเหลืองก็ไม่ยอม ทั้งนี้ มีความเป็นไปได้ที่ศาลจะเลื่อนเพราะเหตุผลเพื่อประโยชน์ความยุติธรรม เอกสารมายังตรวจไม่แล้วเสร็จ หากผลออกมาเช่นนี้บรรยากาศทุกอย่างอึมครึม ชะลออาการปวด แต่อาการเจ็บยังมีอยู่ เลื่อนวันระเบิดแค่นั้นเอง



          "เมืองไทย 3 ปีที่ผ่านมาเปลี่ยนจากความขัดแย้งมาเป็นความเกลียดชัง ซึ่งไม่นานก็จะเกิดการนองเลือดและตัวยึดทรัพย์นี้ก็เป็นตัวเร่งตัวหนึ่งที่จะให้เกิดแบบนั้น ต่างฝ่ายต่างมีอารมณ์ แต่หลังจากวันที่ 26 ก.พ.นี้ จะออกมาในรูปแบบใด ความเคลื่อนไหวของคนเสื้อแดงก็ยังไม่จบ และอาจมีแนวโน้มรุนแรงมากกว่าเดิม"

          ผศ.ธวัชชัย  เสนอว่า วิธีการเดียวที่จะทำให้สถานการณ์ความเกลียดชัง ทำให้ประเทศชาติกลับเข้าสู่ภาวะปกติ คือ การ "นิรโทษกรรม" ตั้งแต่ปี 2549 เป็นต้นมา เพราะอย่าลืมว่า เสื้อเหลืองเองยังมีชนักติดหลัง ที่ไม่มีทางหลุดได้ คือ กรณียึดสนามบินสุวรรณภูมิ มีโทษประหารชีวิต พ.ต.ท.ทักษิณ ก็มีเรื่อง 7.6 หมื่นล้านบาท และ คมช. เองก็มีความผิดอยู่มาก แต่ทุกวันนี้ทุกฝ่ายต่างตึง แข็งข้อกัน แสดงความอ่อนแอออกมาไม่ได้ ความขัดแย้งมันจึงไม่จบ หาก "นิรโทษกรรม"อย่างเดียว ทุกอย่างก็จะจบ



ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
ยึด-ไม่ยึด ทรัพย์ทักษิณ ชนวนก็ถูกจุดไปแล้ว อัปเดตล่าสุด 24 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา 08:03:22 12,325 อ่าน
TOP