สมิทธชี้ปีหน้าระวัง ฮีตเวฟ (ไทยโพสต์)
"สมิทธ" เขย่าอีก ไทยเผชิญภาวะโลกร้อน ปีหน้าอุณหภูมิจะสูงกว่าปีนี้ อาจถึงขั้นเกิดคลื่นลมร้อนที่คร่าชีวิตผู้คน ขณะที่สึนามิอาจเกิดซ้ำในทะเลโดยรอบ
ดร.สมิทธ ธรรมสโรช อดีตอธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา ประธานอำนวยการศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ ให้สัมภาษณ์เมื่อวันที่ 27 เมษายนนี้ ที่จังหวัดนครราชสีมา ถึงสถานการณ์โลกร้อนที่ส่งผลกระทบต่อประเทศไทยว่า ทั่วทุกภาคของประเทศอุณหภูมิสูงขึ้นมาก ซึ่งฤดูร้อนปีนี้ในบางจังหวัดอุณหภูมิสูงกว่าสถิติที่เคยตรวจพบ โดยเฉพาะที่จังหวัดลำปางขึ้นไปกว่า 43 องศาเซลเซียส ซึ่งไม่เคยปรากฏมาก่อน และยังมีอีกหลายจังหวัดที่อุณหภูมิสูงมาก
"เราคาดว่าถ้าสภาวะเช่นนี้ยังคงอยู่ต่อไป ในปีหน้า 2554 ก็จะยิ่งร้อนขึ้น ฉะนั้น มันมีผลกระทบต่อภัยธรรมชาติอย่างอื่นตามมาด้วย เพราะเกิดการเคลื่อนตัวของบรรยากาศที่หุ้มห่อโลก คือความร้อนมีการเคลื่อนตัวอยู่ในซีกโลกภาคเหนือ ที่ทำให้เกิดมีอุณหภูมิสูงปกคลุมพื้นที่เกิน 42 องศาเซลเซียสต่อเนื่องกัน 3 วัน เราเรียกว่าเป็นสภาวะคลื่นลมร้อน หรือฮีตเวฟ ทำให้คนเสียชีวิตได้ โดยเฉพาะผู้สูงอายุและเด็ก ๆ" ดร.สมิทธ กล่าว และว่า สำหรับประเทศไทย หากถึงเดือนพฤษภาคมฝนไม่ตกต้องตามฤดูกาล หรือตกล่าช้าไป จะส่งผลให้ภาวะความแห้งแล้งขยายตัวมาก และอาจเกิดภาวะคลื่นลมร้อนที่ทำให้คนเสียชีวิตได้
"ปีนี้อุณหภูมิสูงขึ้นผิดปกติในหลายจังหวัด เช่น อุตรดิตถ์ พิษณุโลก ลำปาง เชียงราย เป็นเรื่องที่น่าเป็นห่วงมาก โดยเฉพาะในปีหน้าจะร้อนขึ้นกว่าปีนี้ การเสียชีวิตจะมากขึ้น เราจะแก้ไขกันอย่างไร"
ดร.สมิทธ กล่าวว่า แม้ไทยจะไม่มีปัญหาภูเขาไฟระเบิด แต่นักวิทยาศาสตร์หลายประเทศก็คาดกันว่าจะเกิดสึนามิขึ้นอีกในทะเลอันดามัน หรือมหาสมุทรอินเดีย รวมทั้งอาจจะเกิดในทะเลจีนใต้ แถวทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของหมู่เกาะฟิลิปปินส์ ถ้ามันเกิดขึ้นจะมีผลกระทบต่ออ่าวไทย ซึ่งเราต้องคอยจับตาดูอย่างใกล้ชิด
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
