เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก youtube.com
คู่แต่งงานหลาย ๆ คู่ ต่างก็มีความปรารถนาที่จะมี "โซ่ทองคล้องใจ" ไว้เติมเต็มคำว่า "ครอบครัว" ให้สมบูรณ์แบบ และหากครอบครัวไหนรู้ว่า กำลังจะได้พยานรักสักคน นั่นคงเป็นเรื่องหนึ่งที่ทำให้มีความสุขที่สุดในชีวิต แต่ถ้าหากว่า "โชคชะตา" กลับกลายมาเป็นอุปสรรคของหนึ่งชีวิตที่กำลังจะเกิดมา อย่างครอบครัวของคุณปลา จิตรลดา และ คุณฮิเดะ ซากาโมโตะ คุณจะตัดสินใจอย่างไร?
อาการ "ครรภ์เป็นพิษ" เป็นอาการที่ไม่มีว่าที่คุณแม่คนไหนอยากประสบพบเจอ แต่กับคุณปลา จิตรลดา เธอประสบกับอาการ "ครรภ์เป็นพิษ" เมื่อกำลังตั้งครรภ์ลูกคนแรกได้ 6 เดือน โดยเธอมีอาการบวมไปทั้งตัว จนต้องไปพบแพทย์ เพราะคิดว่าไม่น่าเป็นอาการแพ้ท้องธรรมดา ก่อนที่คุณหมอจะตรวจพบว่า เธอเป็น "ครรภ์เป็นพิษ" และความดันขึ้นสูงถึง 240 ซึ่งถือว่าสูงมาก เพราะความดันปกติของผู้หญิงจะอยู่ที่ 110/70 ซึ่งคุณหมอสันนิษฐานว่า เกิดจากอาการช็อกน้ำเกลือที่ได้รับมากเกินไป
แต่แล้ว...ข่าวร้ายที่ครอบครัวของคุณปลา และคุณฮิเดะ ไม่อยากได้ยินมากที่สุดก็คือ ต้องรีบผ่าตัดนำลูกในครรภ์ออกมาให้เร็วที่สุด เพื่อรักษาชีวิตแม่ที่ตอนนั้นมีโอกาสรอดเพียงแค่ 30% เท่านั้น ส่วนลูกน้อยนั้นแทบจะเรียกได้ว่า ไม่มีโอกาสที่จะออกมาลืมตาดูโลกเลย จนในที่สุด การผ่าคลอดผ่านพ้นไป ทุกอย่างเหมือนเกือบจะเป็นไปได้ด้วยดี แต่แล้ว...ก็มีเคราะห์ซ้ำกรรมซัดอีกครั้ง เมื่อคุณปลาที่เพิ่งฟื้นจากการผ่าคลอด กลับมองอะไรไม่เห็นเลย จนเธอก็ได้รู้ข่าวร้ายอีกครั้งว่า การผ่าคลอดครั้งนี้ ทำให้น้ำขึ้นไปท่วมจอประสาทตา ส่งผลให้ดวงตาของเธอมองไม่เห็นอะไรเลย
และแม้คุณปลาจะรู้ว่า ดวงตาของเธอต้องบอด และอาการยังไม่หายดี จนต้องนอนอยู่ใน ICU นานถึงหนึ่งเดือนเต็ม ๆ แต่เธอกลับไม่ได้คิดถึงอาการป่วยของเธอแต่อย่างใด เฝ้าแต่ถามหาลูกน้อยอันเป็นดวงใจของครอบครัวว่าเป็นอย่างไรบ้าง เพื่อหวังจะได้พบและกอดลูกสักครั้ง ซึ่งแม้แต่คุณหมอก็ยังไม่ระบุชัดเจนว่า ลูกน้อยของเธอจะรอดหรือไม่ เพราะลูกนั้นตัวเล็กมาก น้ำหนักเพียง 1 กิโลกรัม และระบบต่าง ๆ ในร่างกายก็ยังทำงานไม่เป็นปกติ
ขณะที่คุณฮิเดะ สามีของคุณปลา กลับรู้สึกผิดและโทษตัวเอง จนต้องเข้าไปกราบเท้าภรรยาขอโทษที่หน้าเตียง ว่าเป็นเพราะตัวเองอยากมีลูก และทำให้ภรรยาตั้งครรภ์ ถึงทำให้เกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้น อย่างไรก็ตาม ระหว่างที่ครอบครัวซากาโมโตะกำลังลุ้นอย่างใจจดใจจ่อว่า ลูกน้อยจะมีชีวิตรอดหรือไม่ เช่นเดียวกับดวงตาของคุณปลาที่จะหายเป็นปกติหรือไม่ คุณฮิเดะได้ทำหน้าที่สามีที่ดี คอยทำงานบ้านแทนคุณปลา ดูแลและให้กำลังใจมาโดยตลอด โดยไม่มีความรู้สึกเหน็ดเหนื่อยแต่อย่างใด จนทำให้คุณปลาซาบซึ้งใจเป็นอย่างมาก ขณะเดียวกันก็เฝ้าดูแลเอาใจช่วยลูกน้อยให้มีชีวิตรอดเช่นกัน โดยเขาเชื่อว่า "ถ้าเราเชื่อมั่น เราก็จะผ่านมันมาได้" อีกด้านหนึ่งคุณฮิเดะ ก็ทำใจไว้ว่า หากลูกและภรรยาต้องจากไป เขาก็จะตัดสินใจบวชเข้าพระพุทธศาสนา เพราะเชื่อว่า เป็นวิถีทางที่จะได้อยู่ใกล้กับภรรยาและลูกสาว มากกว่าการเป็นฆราวาส
จากนั้น เมื่อเวลาผ่านไป 3 เดือน... 6 เดือน... ดวงตาของคุณปลา ค่อย ๆ เริ่มดีขึ้น แต่ชีวิตของลูกน้อยที่คุณพ่อคุณแม่ตั้งชื่อให้ว่า "ซายูริ" ยังคงโคม่า เกิดอาการสายรกหลุด ปอดอักเสบ หยุดหายใจชั่วขณะ ซ้ำยังติดเชื้อเยื่อหุ้มสมองอักเสบ คุณหมอได้ให้การรักษา พร้อม ๆ กับขอให้คุณพ่อและคุณแม่ทำใจไว้ก่อนว่าอาจจะต้องสูญเสียลูกคนนี้ไป
แต่แล้ว "โชคชะตา" ก็ไม่ได้เล่นตลกกับครอบครัวซากาโมโตะเป็นครั้งที่ 3 เมื่อคุณหมอได้นัดสองสามีภรรยาไปฟังผลการตรวจของลูกน้อย และนับว่าเป็นข่าวดีที่สุดของครอบครัวซากาโมโตะ ที่ "น้องซายูริ" ลูกน้อยของพวกเขาสามารถต่อสู้กับเชื้อโรคได้ จนรอดชีวิตมาได้ราวกับเป็นปาฏิหาริย์ และปัจจุบัน "น้องซายูริ" ที่มีอายุเกือบ 3 ปีเป็นเด็กที่มีดวงตากลมโต หน้าตาสดใสน่ารัก และมีสุขภาพแข็งแรงอย่างที่คุณพ่อคุณแม่ปรารถนา
ในที่สุด ณ วันนี้มรสุมลูกใหญ่ได้พัดพาเอาพายุ และอุปสรรคต่าง ๆ นานาไปจากครอบครัวซากาโมโตะแล้ว หลาย ๆ คนจึงได้เห็นภาพความงดงามของฟ้าหลังฝนที่เกิดขึ้นกับครอบครัวนี้ เพราะมันเต็มไปด้วยกำลังใจ ความรักและความอบอุ่น จนแอบอมยิ้มตามไปกับพวกเขาด้วยความสุขใจ
ตี10 ขอโทษที่ผมอยากมีลูก (ครรภ์เป็นพิษ ภรรยาหวิดดับ) Part 1/4
ตี10 ขอโทษที่ผมอยากมีลูก (ครรภ์เป็นพิษ ภรรยาหวิดดับ) Part 2/4
ตี10 ขอโทษที่ผมอยากมีลูก (ครรภ์เป็นพิษ ภรรยาหวิดดับ) Part 3/4
ตี10 ขอโทษที่ผมอยากมีลูก (ครรภ์เป็นพิษ ภรรยาหวิดดับ) Part 4/4
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
