เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจากyoutube.com , รายการคนค้นฅน
จังหวะชีวิตของคนเรา อาจกำหนดให้เราเลือกเส้นทางเดินที่ผิดพลาดไป โดยที่เราไม่รู้ตัว แต่เมื่อไหร่ที่จังหวะและโอกาสที่ดี ย้อนกลับมาสู่ตัวเรา และเราสามารถไขว่คว้าสิ่งเหล่านั้นไว้ได้ บางทีมันอาจเปลี่ยนแปลงชีวิตจากหน้ามือเป็นหลังมือ และช่วยให้เรามีชีวิตที่ดีขึ้นอย่างไม่เคยคาดคิดมาก่อน เฉกเช่นชีวิตใหม่ของครูเต็กกอ อดีตนักเลง และนักค้ายาเสพติด ที่เคยก้าวเดินในถนนสายมืดมาก่อนหน้า
เป็นเรื่องปกติที่ใคร ๆ มักจะคิดว่า ลูกชายคนสุดท้องน่าจะได้รับความรัก และความอบอุ่นจากครอบครัวเป็นพิเศษ แต่ทว่า เรื่องจริงของ สุพรชัย พลทิพย์ หรือ เต็กกอ ลูกชายคนสุดท้ายในบรรดาพี่น้องทั้งหมด 7 คน ที่สังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี ช่างดูแตกต่างเสียเหลือเกิน เพราะหลังจากแม่ของ เต็กกอ เสียชีวิตไปตั้งแต่เขาอายุได้ 2 ขวบ พ่อก็กลายเป็นคนติดสุราจนมาด่วนจากไปอีกคน ทำให้ภาระหาเลี้ยงครอบครัวตกเป็นของพี่ชายคนโต และพี่คนอื่น ๆ ต่างก็มีงาน มีภาระที่ต้องทำ ส่วนหน้าที่ของเด็กชายเต็กกอในวัยนั้น เพียงแค่ไปเรียนหนังสือ และขอเงินใช้จากพี่ ๆ เท่านั้น
อารมณ์ขาดความรัก ความอบอุ่นในครอบครัว ทำให้ เต็กกอ เริ่มรู้สึกเบื่อครอบครัว และพี่ชายที่มักจะบ่นอยู่เสมอ โดยที่เขาไม่รู้ซึ้งถึงความลำบากของพี่ชาย ที่กว่าจะหาเงินมาได้แต่ละบาท เต็กกอ จึงหันไปหาความรักความอบอุ่นจากเพื่อน จนเที่ยวเล่นด้วยกันถึงค่ำมืด แม้จะมีเสียงบ่นดุด่าจากพี่ชายก็ไม่เคยฟัง
และเพื่อนนี่เองที่นำพาความเปลี่ยนแปลงมาสู่ชีวิตของ เต็กกอ เมื่อเขาต้องการได้รับการยอมรับจากเพื่อน ๆ เขาจึงตัดสินใจลองสูบบุหรี่ ตามคำชักชวนของเพื่อน ๆ อย่างไม่อิดออด ก่อนจะไต่ระดับมาเป็นดมกาว กัญชา จนกระทั่งลองยาบ้า ลามไปจนถึงเฮโรอีน ซึ่งสมัยนั้นเจ้าหน้าที่รัฐเข้ามาควบคุมไม่ทั่วถึง จนกระทั่งที่บ้านเริ่มสงสัยพฤติกรรมการใช้เงินของ เต็กกอ ทำให้เขาตัดสินใจหาเงินใช้เอง ด้วยวิธีการ "ค้ายาบ้า" ตั้งแต่ยังเรียนมัธยม
ช่วงชีวิตวัยรุ่น เป็นช่วงชีวิตที่เต็กกอเกเรมากที่สุด ทั้งติดเพื่อน ไม่เรียนหนังสือ ติดยา ส่งยา เป็นหัวโจกยกพวกไปตีกับคนอื่น มีรอยสักรอบตัว จนคนในครอบครัวเอือมระอา แม้แต่ชาวบ้านก็สาปแช่ง จนกระทั่งเขาถูกตำรวจจับ แต่ด้วยความที่เต็กกอยังเป็นเยาวชน จึงไม่ต้องไปรับโทษในคุก หลังจากนั้น พี่ชายของเขาจึงได้พาเขาไปบวช เพื่อหวังให้ธรรมะกล่อมเกลาจิตใจ และหวังว่าจะช่วยให้เขาเลิกยาได้ แต่นั่นก็ไม่ได้ผล สุดท้ายพี่ชายจึงส่งเต็กกอไปเป็นครูอยู่บนดอยซาลาวะ ใน อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี ที่แทบไร้การติดต่อจากโลกภายนอก เพื่อหวังให้ "เต็กกอ" ได้รู้จักคำว่า "ให้" บ้าง และหวังว่าสิ่งแวดล้อมของที่ดอยซาลาวะ จะช่วยขัดเกลาให้ เต็กกอ เป็นคนอ่อนโยนได้บ้าง แน่นอนว่า ครั้งนี้ก็กลายเป็นจุดเปลี่ยนอีกครั้งในชีวิตของเต็กกอ เพราะในเวลาต่อมาคนที่ดอยซาลาวะต่างเรียกเต็กกอว่า "ครู"
เดิมที เต็กกอ ไม่ได้สมัครใจที่จะขึ้นมาที่ดอยแห่งนี้ แต่ต้องการพิสูจน์ความเป็นลูกผู้ชายให้พี่ชายได้เห็น จึงได้ให้คำมั่นสัญญากับพี่ชาย และเดินทางขึ้นมาบนดอยแห่งนี้ และครั้งนี้ก็กลายเป็นจุดเปลี่ยนอีกครั้งในชีวิตของเต็กกอ เพราะในเวลาต่อมาคนที่ดอยซาลาวะต่างเรียกเต็กกอว่า "ครู"
ที่นี่ ครูเต็กกอ ได้เรียนรู้ความยากลำบาก ทั้งการเดินทางข้ามห้วยที่แสนลำบาก ต้องเดินเท้า กว่า 20 กิโลเมตร รวมทั้งการใช้ชีวิต และภาระที่ต้องรับผิดชอบอย่างหนักอึ้งที่รออยู่เบื้องหน้า ช่วงแรก ๆ ครูเต็กกอ คิดเสมอว่า เหนื่อยขนาดนี้จะขึ้นมาบนดอยเพื่ออะไร เพราะไม่ได้อะไรเลย ทั้งไกล ทั้งไม่มีเพื่อน แต่ก็ต้องจำใจอยู่ เพื่อให้ญาติพี่น้องยอมรับในตัวเขา
ช่วงนั้น ครูเต็กกอ เริ่มต้นที่นี่ด้วยความยากลำบาก เพราะชาวบ้านจะใช้ภาษาเขมรในการติดต่อสื่อสารกัน ทำให้ ครูเต็กกอ แทบสื่อสารกับใครไม่ได้ ขณะที่เขาก็เป็นเพียงครูคนเดียวในหมู่บ้าน ทำให้ชาวบ้านต่างให้เกียรติในความเป็นครู สิ่งเหล่านี้จึงเสริมสร้างกำลังใจให้ครูเต็กกอ จนเขาเริ่มปรับตัวได้ ครูเต็กกอ ได้สอนภาษาไทยให้กับเด็ก ๆ ที่นี่ รวมทั้งสอนการใช้ชีวิต และยังออกไปทำไร่ ทำนา เก็บผัก หาปลา เหมือนชาวบ้านคนอื่น ๆ ตั้งแต่เช้า ชีวิตในแต่ละวันเต็มไปด้วยความช่วยเหลือเกื้อกูลกัน ซึ่งช่างแตกต่างกับชีวิตในเมืองเบื้องล่าง ที่ครูเต็กกอประสบมาอย่างสิ้นเชิง
"เราต้องปรับตัวทุกอย่าง ทั้งการกิน การนอน การพูด วิถีชีวิต ความเป็นอยู่ ต้องออกหาอาหารเอง เพราะที่นี่ไม่มีข้าวของเครื่องใช้ขายเหมือนในตัวเมืองสังขละบุรี นี่เป็นสิ่งที่ยาก เราต้องเปลี่ยนมาเรียนรู้วิถีชีวิตเขา ชาวบ้านจึงคล้าย ๆ กับเป็นครูสอนผมไปในตัว" ครูเต็กกอ เล่าให้ฟัง
เมื่อครูเต็กกอสามารถปรับตัวให้คุ้นชินกับที่นี่ และอาศัยอยู่ได้อย่างมีความสุข ทำให้คนในครอบครัวรู้สึกภูมิใจ ที่ครูเต็กกอสามารถเลิกยา และทนอยู่กับสภาพที่ลำบากได้อย่างไม่น่าเชื่อ ขณะที่ครูเต็กกอ เมื่อได้ฝ่าฟันอุปสรรคนานัปการมาได้ ทำให้เขาเริ่มเห็นคุณค่าในตัวเองมากขึ้น และยังดีใจที่คนในชุมชนแห่งนี้ก็เห็นคุณค่าของตัวเขาเช่นกัน พร้อมกับภาคภูมิใจที่ได้พิสูจน์ "หัวใจ" ตัวเอง ด้วยการเอาชนะความทุกข์ยากมาได้สำเร็จ ทุกวันนี้ ครูเต็กกอ เป็นเพียงครูอาสา เพราะไม่มีวุฒิครู แต่อนาคต เขาตั้งใจที่จะศึกษาเพิ่มเติม เพื่อจะได้เป็นครูอย่างเต็มตัว
ความมีน้ำใจ และความช่วยเหลือเกื้อกูล คือเสน่ห์ที่ยิ่งใหญ่ของชาวหมู่บ้านซาลาวะ และสิ่งเหล่านี้ล้วนช่วยขัดเกลาจิตใจของ ครูเต็กกอ ที่ครั้งหนึ่งเคยเป็น "ผู้ร้าย" ในสายตาคนอื่น เปลี่ยนมาเป็น "ผู้ให้" และค้นพบชีวิตใหม่ที่เต็มไปด้วยความสุขอย่างแท้จริง พร้อมกันทิ้งอดีตอันเลวร้ายไว้ยังเบื้องล่างของดอยซาลาวะแห่งนี้
คลิป เต็กกอ ครูนอกคอก รายการ คนค้นฅน 1/4
คลิป เต็กกอ ครูนอกคอก รายการ คนค้นฅน 2/4
คลิป เต็กกอ ครูนอกคอก รายการ คนค้นฅน 3/4
คลิป เต็กกอ ครูนอกคอก รายการ คนค้นฅน 4/4
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
