เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
บรรดาหนุ่ม ๆ สาว ๆ ที่เจ้าชู้ประตูดิน แล้วเผยแพร่เรื่องส่วนตัวบนโลกออนไลน์ ฟังข่าวนี้แล้วต้องระวังให้ดี
โดย ยูเอสเอ ทูเดย์ รายงานว่า พบผลการศึกษาหลายชิ้น ที่ระบุว่า รูปภาพ และเนื้อหาที่ปรากฎอยู่ในเว็บไซต์เครือข่ายสังคมออนไลน์ ถูกนำมาเป็นหลักฐานชิ้นเด็ดมัดตัวคู่สามีภรรยาจอมกะล่อนในการขึ้นศาลเพื่อขอหย่ามากที่สุดในเวลานี้ และสิ่งเหล่านี้ได้สะท้อนให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงของสังคม ที่คนนิยมหันไปเผยแพร่บอกกล่าวเรื่องราวทางสังคมออนไลน์มากขึ้น จนบางครั้งดูจะมากเกินไป
สอดคล้องกับที่นางลินดา ลีอา ไลเคน ประธานของสถาบันทนายความอเมริกันด้านการสมรส (The American Academy of Matrimonial Lawyers ) หรือ AAM ที่ออกมาเปิดเผยว่า ในช่วง 5 ปีหลังมานี้ ทนายความประจำสถาบันถึง 81% ใช้เนื้อหา รูปภาพที่นำมาจากเครือข่ายสังคมออนไลน์ต่าง ๆ เพื่อนำมาเป็นหลักฐานในการฟ้องหย่าให้คู่สามีภรรยา โดยนำมาจากเฟซบุ๊กถึง 66% ขณะที่มายสเปซ 15% ทวิตเตอร์ 5% และที่เหลือมาจากแหล่งอื่น ๆ เช่นยูทิวป์ ฯลฯ ซึ่งก่อนหน้านี้ไม่เคยมีการนำเอาหลักฐานจากสังคมออนไลน์มาใช้เลย
โดยนางลินดา ระบุว่า บริษัท Pew Internet and American Life Project เคยทำการสำรวจพบว่า ชาวอเมริกันราว 20% จะใช้เฟซบุ๊กในการจีบสาว ก่อนจะมีความสัมพันธ์ฉันชู้สาวเกิดขึ้น ดังนั้น หลักฐานเหล่านี้จึงกลายมาเป็นหลักฐานชิ้นเด็ด ที่ทำให้ศาลและจำเลยที่ถูกฟ้องหย่ายอมรับได้ง่าย และยังสะดวกรวดเร็วกว่าหลักฐานอื่น ๆ อีกด้วย
แน่นอนว่า ไม่ใช่แค่รูปภาพและเนื้อหาที่ปรากฎในหน้าเฟซบุ๊กของเหล่าบรรดาสามี ภรรยาหลวง และภรรยาน้อยเท่านั้น แต่บางกรณีเพราะการบล็อกเฟซบุ๊ค ยังทำให้ลูก ๆ ต้องกลายมาเป็นพยานสำคัญที่จะฟ้องหย่ากันอีกด้วย หรือแม้กระทั่งการเรียกร้องสิทธิเลี้ยงดูบุตร ข้อมูลในเฟซบุ๊คก็ยังนำมาเป็นหลักฐานได้เช่นกัน
ที่สำคัญสังคมออนไลน์ ยังทำให้ผู้โพสต์เนื้อหาไม่ระวังตัว จึงป็นสาเหตุให้คนทะเลาะกันเอาง่าย ๆ จนเกิดการฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายมาแล้วมากมาย ซึ่งนางลินดา บอกว่า คดีลักษณะนี้พบได้บ่อยเอามาก ๆ ในช่วงเวลานี้
