เขาพระวิหาร
เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
การประชุมคณะกรรมการมรดกโลก สมัยสามัญครั้งที่ 34 ระหว่างวันที่ 25 ก.ค.- 3 ส.ค. ที่ประเทศบราซิล ทางยูเนสโกเตรียมหารือ เกี่ยวกับสถานะ 3 เรื่องใหญ่ ที่อยู่ในพื้นที่ความขัดแย้ง โดยมีพื้นที่ปัญหาระหว่าง ปาเลสไตน์ - อิสราเอล , โคโซโว-เซอร์เบีย และพื้นที่พิพาทระหว่างไทยกับกัมพูชา
ทั้งนี้ กรณีพื้นที่พิพาทระหว่างไทยกับกัมพูชา ที่กัมพูชาจะเสนอเรื่องการบริหารจัดการเขาพระวิหาร จะเข้าที่ประชุมในวันที่ 29 กรกฎาคม ซึ่งหากยูเนสโกมีมติให้ขึ้นทะเบียนเขาพระวิหาร จะทำให้ไทยสูญเสียพื้นที่ประมาณ 3,000 ไร่ และสูญเสียทรัพยากรทางทะเลบนพื้นที่ทับซ้อนถึง 1.8 ล้านไร่เลยทีเดียว ขณะที่ผู้แทนฝ่ายไทยยืนยันจุดยืนว่า การขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารมรดกโลกไม่ถูกต้องตั้งแต่เริ่ม และพร้อมจะโต้แย้งในทุกประเด็น หากมีเรื่องใดทำให้เสียประโยชน์ของชาติ และล่วงล้ำประชาธิปไตย
อย่างไรก็ตาม ในวันนี้ (27 ก.ค.) พล.ต.จำลอง ศรีเมือง แกนนำพันธมิตรฯ พร้อมกลุ่มผู้ชุมนุมสันติอโศก ประมาณ 500 คน ในฐานะตัวแทนภาคประชาชนไทย เครือข่ายทั่วประเทศ เดินทางมาที่ทำการองค์การยูเนสโก ฝั่งตรงข้ามซอยสุขุมวิท 59 และได้ยื่นหนังสือคัดค้านการขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลก โดยเนื้อหาในหนังสือ เรียกร้องให้องค์การยูเนสโก ทบทวนการพิจารณาขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลก ซึ่งผู้อำนวยการยูเนสโก ภาคพื้นเอเซียแปซิฟิค ได้ออกมารับหนังสือดังกล่าวแล้ว
ทางด้าน เว็บไซต์สำนักข่าวดึมอัมปึลของกัมพูชา รายงานข่าว จากการให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ของ พลเอกเจีย ดารา รองผู้บัญชาการทหารกัมพูชา ว่า ทางรัฐบาลกัมพูชา ไม่เคยกลัวการวิพากษ์วิจารณ์จากฝ่ายค้านและไม่เคยกลัวท่าทีของไทยที่คัดค้านการขึ้นปราสาทเขาพระวิหารเป็นมรดกโลก
พลเอกเจีย ดารา ยังกล่าวอีกว่า ประเทศไทยใช้แผนที่ข้างเดียวที่วาดด้วยตนเอง แอบนำพื้นที่กัมพูชาและไทย อ้างว่าเป็นพื้นที่กันชน ซึ่งทางกัมพูชายืนยันไม่เคยมีพื้นที่กันชนกับไทย ทั้งนี้ไทยควรยอมรับกฎหมายสนธิสัญญาระหว่างประเทศฝรั่งเศสในสยาม เช่น 1904-1907 บนแผนที่ชายแดน และคำตัดสินของศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ ที่ปกครองใน 1962 เขาพระวิหารที่เป็นของกัมพูชาด้วย
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
