x close

แม่สู้ชีวิต เลี้ยงลูกพิการ รับรางวัลจากมหิดล





แม่สู้ชีวิตเลี้ยงลูกพิการรับรางวัลจากมหิดล (มหาวิทยาลัยมหิดล)

          มหิดลประกาศรายชื่อ แม่สู้ชีวิต 2 ประเภท ได้แก่ แม่ของลูกพิการ-แม่ของลูกที่มีความปกติ  โดยแม่สู้ชีวิตเลี้ยงลูกพิการ 4 คนรับรางวัลด้วย

          เมื่อวันที่ 10 ส.ค. ที่มหาวิทยาลัยมหิดล มีการประกาศผลรางวัล "แม่สู้ชีวิต" ประจำปี 2553 ซึ่งปีนี้จัดเป็นปีที่ 13 โดยมีการการเสนอชื่อมี 2 ประเภท ได้แก่ ประเภทแม่ของลูกพิการ และประเภทแม่ของลูกที่มีความปกติ สำหรับการคัดเลือกจะมีการคัดรายชื่อแม่แต่ภาค และในปีนี้มีผู้เสนอชื่อคัดเลือกจำนวน 65 คน จากทั่วประเทศ ได้รับคัดเลือก จำนวน 7 คน ดังนี้

1. รางวัลแม่สู้ชีวิตประเภทแม่ของลูกพิการ ทั้งหมดจำนวน 4 คน

          ภาคอีสาน ได้แก่
 นางโฮม ภูแข็ง จากจังหวัดอุดรธานี ซึ่งมีลูกทั้งหมด 4 คน พิการ 3 คน คนแรกเป็นผู้หญิง มีอาการกล้ามเนื้ออ่อนแรงลงเรื่อย ๆ จนไม่สามารถช่วยเหลือตนเองได้ตั้งแต่เด็ก ต้องนั่งนอนอยู่กับที่ให้แม่ป้อนข้าว ป้อนน้ำ ช่วยทำกิจวัตรประจำวันให้ และลูกชายคนสุดท้องที่มีอาการดาวน์ซินโดรมตั้งแต่เกิด ตนเลี้ยงลูกพิการมากว่า 20 ปีแล้ว และจะต้องต่อสู้ต่อไปจนกว่าตนเอง หรือคนใดคนหนึ่งจะจากโลกนี้ไป 

          นางไหว จูมแพง จากจังหวัดมุกดาหาร มีลูก 9 คน แยกครอบครัวออกไปแล้ว 6 คน ยังมีลูกพิการ 3 คน คนแรกเป็นหญิง พิการทางสมอง คนที่ 2 เป็นชาย พิการทางสมอง แขน ขาลีบ คนที่ 3 เป็นลูกชายคนสุดท้อง  พิการทางสมอง แขนลี และขาขาด ทุกวันนี้แม่ไหวต้องทำใจให้แข็งแกร่ง ทำร่างกายให้แข็งแรง แม้จะอายุได้ 61 ปีแล้ว แต่ต้องทำนาหาข้าวมาเลี้ยงครอบครัว และรับจ้างทุกอย่างที่จะได้เงินมาเลี้ยงลูกพิการทั้ง ๓ คน รวมทั้งหลานอีก 1 คน ที่ลูกสาวคนที่ 4 เอามาให้เลี้ยงดู ถึงอย่างไรแม่ไหวก็ยังขยันทำงานอย่างไม่ย่อท้อ ไม่สิ้นหวัง ตั้งใจต่อสู้กับภาระของชีวิตที่หนักด้วยทุกข์อย่างยิ่ง

          ภาคกลาง ได้แก่ นางทองอยู่ วงกลม จากจังหวัดกาญจนบุรี พนักงานกวาดขยะประจำเทศบาล อ.ท่ามะกา จ.กาญจนบุรี มีลูก 3 คน ลูกชายคนเล็กเป็นดาวน์ซินโดรม เคยมีคนมาเสนอขอซื้อลูกในราคา 50,000 บาท แต่ไม่ขาย แม้จะมีภาระในการเลี้ยงดูเพราะฐานะยากจน เนื่องจากกลัวจะพาลูกไปขอทานตามที่เห็นในข่าว และแม้ไม่ยากจนก็ไม่ขายลูก ลูกจะเกิดมาเป็นอย่างไรก็ต้องรักลูก และเลี้ยงลูกให้ดีที่สุด รางวัลที่ได้รับหวังจะเป็นตัวอย่างความรักที่มีต่อลูกได้

          ภาคเหนือ ได้แก่ นางศรีนวล นิลรัตน์ อายุ 67 ปี จากจังหวัดแม่ฮ่องสอน มีลูก 6 คน บุตรสาวคนสุดท้องพิการทางสมอง สายตาเลือนราง หูไม่ได้ยิน แม่ศรีนวลมีอาชีพทำนา เป็นผู้มีความขยันมานะอดทนอย่างมาก ทำงานโดยไม่มีวันหยุด แม้ขณะท้องแก่ ก็ไม่เคยหยุดทำงาน ทำให้ลูก 5 ใน 6 คนคลอดขณะทำนา โดยมีสามีเป็นผู้ทำคลอดให้ นอกจากจะทำนาในที่ดินของตนเองแล้ว ยังรับจ้างทำนาให้คนอื่นอีกด้วย ส่วนลูกสาวที่พิการ แม่ศรีนวลก็เลี้ยงดูให้สามารถดูแลช่วยเหลือตนเอง เช่น อาบน้ำแต่งตัว และซักเสื้อผ้าของตนเองได้ นอกจากนี้ยังสามารถช่วยแบ่งเบาภาระ โดยช่วยถูบ้านได้อีกด้วย

2. รางวัลแม่สู้ชีวิตประเภทแม่ของลูกปกติ จำนวน 3 คน

          ภาคกลาง ได้แก่ นางสาลี่ อารีย์ จังหวัดชลบุรี มีลูก 5 คน หญิง 4 คน ชาย 1 คน ตนต้องขยันหมั่นเพียร สู้ชีวิตอดทนทำงานสารพัดอย่าง ทั้งปลูกผัก ทำนา เลี้ยงเป็ด ทำขนม ทำไร่มันสำปะหลัง เพื่อให้มีรายได้เลี้ยงลูกทั้ง 5 คน เพราะสามีเสียชีวิตตั้งแต่ลูกยังเล็ก ๆ และสิ่งที่ตนจะพร่ำสอนลูกเป็นประจำ คือ ขอให้ลูกเป็นคนดี ขยัน ซื่อสัตย์ ให้รู้จักทำมาหากินโดยช่วยแม่ทำงาน โดยเห็นว่าหากสอนให้ลูกช่วยตัวเองให้ได้ ในอนาคตลูกจะได้ไม่ลำบาก ส่งผลให้ลูกมีชีวิตที่ดีในทุกวันนี้

          ภาคเหนือ ได้แก่ นางพิมพา เอกจันทร์ อายุ 43 ปี จากจังหวัดแม่ฮ่องสอน เป็นแม่ที่ขยันขันแข็ง หนักเอาเบาสู้ ทำงานทุกอย่าง ทั้งรับจ้างซักผ้า ทำความสะอาดบ้าน หาบน้ำ ทำขนมเร่ขาย เก็บเห็ดขาย เช่าที่ทำนาปลูกข้าว ปลูกข้าวโพด เพื่อให้ได้เงินมาเลี้ยงดูลูก 2 คน โดยหวังเพียงให้ลูกเป็นคนดี มีความรู้ แม้จะต้องทนลำบากเดินทางไกล นับ 10กิโลเมตรเพื่อเข้าป่าเก็บหน่อไม้มาต้มเดินเร่ขายในหมู่บ้านเป็นช่องทางที่ทำให้มีรายได้เพิ่มขึ้นก็ตาม ทำให้ปัจจุบันสามารถส่งเสียลูกจนสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรี

          ภาคใต้ ได้แก่ นางบุญติ้น มงคลนิสภกุล อายุ 82 ปี จากจังหวัดสงขลา เป็นคุณแม่ที่มีลูกถึง 15 คน เป็นลูกผู้หญิง 10 คน  ลูกชาย 5 คน คุณแม่บุญติ้นเป็นผู้มีความขยันหมั่นเพียรหนักเอาเบาสู้ ทำทุกอย่างเพื่อลูก ทำงานสารพัดอย่างทั้งตระเวนรับซื้อยางพารา นวดข้าว รับจ้างถางป่า ต่อยหิน ขายของในโรงเรียน เป็นต้น จนกระทั่งสามารถคิดสูตรทำไก่ย่างเครื่องแกงซึ่งได้ตั้งชื่อว่า "ไก่ย่างบ้านน้ำน้อย" ทำออกจำหน่าย โดยให้ลูก ๆ ช่วยกันนำไปเดินขาย ผลปรากฏว่าได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากลูกค้า ทำให้ฐานะทางครอบครัวดีขึ้นเป็นลำดับ

          ส่วนรางวัล แม่ 100 ปี คัดเลือกจากเกณฑ์แม่ที่มีสุขภาพแข็งแรงและมีอายุมาก มี 5 คน ได้แก่ นางเสงี่ยม ศรีรักษา อายุ 103 ปี จ.กรุงเทพฯ, นางอ่อม ทรงธนะ อายุ 104 ปี จ.จันทบุรี, นางเขียว ลาพิงค์ อายุ 104 ปี จ.ลำพูน, นางบุผา ปัททุบ อายุ 100 ปี จ.มุกดาหาร และนางพิน นากนิยม อายุ 105 ปี จ.ชุมพร

          
ขณะที่รางวัลแม่อนุรักษ์สิ่งแวดล้อม มี 3 คน ได้แก่นางคำ หลงลืม จ.ลำปาง, นางนัทนวัน เขียวงามดี จ.สมุทรสาคร และนางกานดาภร ไชยปากดี จ.หนองคาย






ขอขอบคุณข้อมูลจาก
มหาวิทยาลัยมหิดล
ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับข้อมูล

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
แม่สู้ชีวิต เลี้ยงลูกพิการ รับรางวัลจากมหิดล อัปเดตล่าสุด 11 สิงหาคม 2553 เวลา 15:54:35 11,100 อ่าน
TOP