พท.ซัดDSIเลือกข้างช่วยคดียุบ ปชป. (ไอเอ็นเอ็น)
น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ ส.ส. กทม. พรรคเพื่อไทย กล่าวถึง การทำงานของกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ โดยเชื่อว่ามีอิทธิพลครอบงำ และมีผลประโยชน์ทับซ้อนแฝงอยู่ เพราะจากการติดตามการพิจารณาคดียุบพรรคประชาธิปัตย์ นับตั้งแต่ที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต. มีมติให้ส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณา หลังจากนั้นไม่นาน ก็มีการดำเนินการอย่างเป็นระบบ ทั้งมีข่าวว่าพนักงานสอบสวนชุดแรกขอถอนตัว หรือ การที่ นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดี ดีเอสไอ ออกมาให้ข่าวด้านเดียวอย่างต่อเนื่อง และการสั่งไม่ฟ้องคดีกล่าวหา นายประชัย เลี่ยวไพรัตน์ รวมทั้งกรณีเอกสารลับที่เกี่ยวข้อง ในการคุ้มครองพยานสำคัญในคดีนี้ ไปตกอยู่ในมือของพรรคประชาธิปัตย์ทั้งหมด
ทั้งนี้ ยังตั้งข้อสังเกตว่า นายธาริต ไม่ได้ทำงานตามหน้าที่ของอธิบดี ดีเอสไอ แต่กลับมีพฤติกรรมคล้ายเป็นทนายให้กับพรรคประชาธิปัตย์ จึงได้เรียกร้องให้ดีเอสไอ ยึดมั่นในเจตนารมณ์ขององค์กร ไม่เช่นนั้น ก็ควรยุบดีเอสไอไปพร้อมกับพรรคประชาธิปัตย์ด้วย
ด้าน นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ รองโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึง กรณีที่ นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีออกมาชี้แจง กรณีที่มีการร้องเรียนเรื่องทรัพย์สินที่เพิ่มขึ้นจำนวน 15 ล้านบาท ว่า ได้มาจากเงินช่วยซองงานแต่งงานของตน เมื่อ 2 ปี ที่ผ่านมา โดยคณะกรรมการติดตามการทุจริตของพรรคเพื่อไทย จะติดตามเรื่องนี้อย่างใกล้ชิดว่า เงิน 15 ล้านบาท เป็นเงินที่ได้มาช่วงก่อน หรือ หลังแต่งงาน และหากเป็นเงินช่วยงานแต่งจริง เป็นการไซฟอนเงิน เพื่ออะไรบางอย่างหรือไม่
นอกจากนี้ นายจิรายุ ยังกล่าวถึง กรณีสภาล่มเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยเชื่อว่าการที่โครงการรถเมล์ NGV 4,000 คัน ถูกที่ประชุมคณะรัฐมนตรีตีกลับ น่าจะทำให้การประชุมสภาเพื่อพิจารณางบประมาณในสัปดาห์นี้ล่มอีกครั้ง เพราะเกิดจากการไม่พอใจของพรรคภูมิใจไทย แต่หากไม่เป็นไปตามนี้ ก็แสดงว่า มีการแบ่งผลประโยชน์กันลงตัว อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่า โครงการดังกล่าวเป็นโครงการที่ไม่ควรทำ เพราะดูแล้วไม่เกิดประโยชน์กับประชาชน และอาจมีการทุจริต รวมทั้ง มีผลประโยชน์ทับซ้อนมากกว่า
