x close

พระปราโมทย์ แถลงปมศึก สวนสันติธรรม



เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)

         ตั้งแต่สุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ข่าวคราวความขัดแย้งภายในสวนสันติธรรม ถูกนำเสนอผ่านสื่ออย่างต่อเนื่อง กรณีกลุ่มชาวพุทธรักษ์ศาสนา (พรศ.) ยื่นต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ ให้ตรวจสอบพฤติการณ์ของ พระปราโมทย์ ปาโมชโช(สันตยากร) เจ้าสำนักสวนสันติธรรม อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี โดยตั้งข้อสงสัยเรื่องการยักย้ายถ่ายเททรัพย์สินที่ให้กับ นางอรนุช อดีตภรรยา ซึ่งเป็นแม่ชีอยู่ที่เดียวกัน

         ขณะเดียวกัน ไฮโซคนดัง "ฐิตินาถ ณ พัทลุง" ผู้เขียนหนังสือเข็มทิศชีวิต ก็ได้ทำการยื่นโนติส (คำร้องที่จะขอใช้สิทธิตามกฏหมาย) ขอเงินบริจาคคืนจากพระปราโมทย์ เป็นจำนวนกว่า 4 ล้านบาท รวมถึงกรณีที่ มูลนิธิบ้านอารีย์ ได้ยื่นหนังสือต่อ สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) ขอให้ตรวจสอบพฤติกรรมของพระปราโมทย์ โดยระบุว่า ได้ติดตามพฤติกรรมของพระปราโมทย์มาระยะหนึ่งแล้ว และเห็นว่ามีพฤติกรรมอันอาจเป็นเหตุให้เกิดความเสื่อมเสียต่อพระพุทธศาสนา เนื่องด้วยเหตุผลดังต่อไปนี้

         1. พระปราโมทย์ ทำการอวดอุตริมนุสสธรรม คือ พูด บรรยาย เขียนบทความ สื่อให้ผู้ฟัง ผู้อ่าน เข้าใจได้ว่าสำเร็จเป็นอริยบุคคลขั้นใดขั้นหนึ่งแล้ว อันอาจเป็นเหตุนำมาซึ่งลาภสักการะ

         2. ใช้การแสดงอิทธิฤทธิ์ ปาฏิหาริย์ คือ การดักทายใจของผู้ร่วมอบรมธรรมอย่างจงใจแทบทุกครั้ง อันนำมาซึ่งความเสื่อมถอยในการปฏิบัติธรรมของพุทธศาสนิกชน 

         3. พระปราโมทย์ ได้เทศน์เกี่ยวกับไสยศาสตร์ อันอาจก่อให้เกิดการปิดกั้นทางปัญญาแก่พุทธศาสนิกชน และอาจก่อให้เกิดความหวาดกลัว ความเกลียดชัง ขึ้นในหมู่ชาวพุทธ อันเป็นการกระทำที่ไม่เหมาะสมสำหรับผู้ดำรงอยู่ในสมณเพศ 

         เกี่ยวกับกรณีดังกล่าว นายนพรัตน์ เบญจวัฒนานันท์ รองผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) เปิดเผยว่า เบื้องต้นได้สั่งการไปยังสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดชลบุรี เพื่อตรวจสอบทรัพย์สินที่มีการบริจาคให้กับสวนสันติธรรมแล้ว ส่วนกรณีการโอนที่ดินให้เป็นชื่อของอดีตภรรยานั้น พระปราโมทย์เคยชี้แจงต่อเจ้าคณะจังหวัดชลบุรีแล้ว โดยยอมรับว่าโอนจริง เพราะอยู่ในช่วงการทำเรื่องขอสร้างวัด หากสร้างวัดเสร็จแล้วจะโอนทรัพย์สินทั้งหมดให้เป็นของวัด

         ทางด้านฝ่ายของ พระปราโมทย์ ก็ได้ออกมาชี้แจงถึงประเด็นที่นางสาวฐิตินาถยื่นโนติส ว่า สาเหตุที่นักเขียนชื่อดังออกมาร้องเรียน อาจเกิดจากความผิดหวังและเสียประโยชน์จากการที่ไม่ได้เป็นผู้ใกล้ชิด เนื่องจากในระยะหลังนางสาวฐิตินาถนำชื่อพระปราโมทย์ไปรับบริจาคเงินหลายครั้ง ซึ่งพระปราโมทย์เห็นว่าไม่เหมาะสมจึงกันตัวนางสาวฐิตินาถออกมา นอกจากนี้ นางสาวฐิตินาถ ก็เขียนหนังสือเกี่ยวกับพระปราโมทย์ได้เงินไปกว่า 40 ล้านบาท แต่บริจาคให้วัดเพียงแค่ 4 ล้านบาทเท่านั้น 

         อย่างไรก็ตาม ในวันนี้ (16 ก.ย.53) ทางสวนสันติธรรม ได้มีการจัดแถลงข่าวเกี่ยวกับประเด็นปัญหาต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น โดยระบุว่า การแถลงข่าวในครั้งนี้กระทำโดยตัวแทนของผู้มาปฏิบัติธรรมในสวนสันติธรรม มิใช่เกิดจากเจตนารมย์โดยตรงของหลวงพ่อปราโมทย์ หรือ พระปราโมทย์  ด้วยเหตุว่าปัจจุบันมีกลุ่มของผู้ไม่หวังดีที่ได้กระทำการโดยมีเจตนาจะทำลาย ชื่อเสียงอันดีงามของหลวงพ่อปราโมทย์ และของสวนสันติธรรม ทางสวนสันติธรรมจึงได้มอบหมายให้ตัวแทนดำเนินการจัดให้มีการแถลงข้อเท็จจริง

         วัตถุประสงค์ในการจัดตั้งสวนสันติธรรมนั้น ได้จัดตั้งขึ้นมาตามความประสงค์ของผู้มีจิตศรัทธาต่อหลวงพ่อปราโมทย์ เพื่อใช้เป็นสถานที่ปฏิบัติธรรม และศึกษาธรรมของผู้ที่มีจิตศรัทธา และความประสงค์จะเข้ามาศึกษาธรรมตามแนวทางของหลวงพ่อปราโมทย์ โดยในช่วงแรกได้จัดตั้งขึ้นเป็นศูนย์ศึกษาปฏิบัติธรรม ซึ่งไม่ใช่นิติบุคคล ในการดำเนินการจัดสร้างนั้นเริ่มต้นด้วยการจัดซื้อที่ดิน ในช่วงของการซื้อที่ดินคุณฐิตินาถ ณ พัทลุง ซึ่งเป็นผู้บริจาคเงินบางส่วน ได้ร้องขอเป็นผู้ซื้อที่ดิน แต่ทางหลวงพ่อขอให้ใช้ชื่อของแม่ชีอรนุชเนื่องจากว่าไว้วางใจมากกว่า จึงทำให้มีชื่อของแม่ชีอรนุช เป็นเจ้าของที่ดินมาตั้งแต่เมื่อวันที่ 18 ตุลาคม 2548 มิใช่การโอนถ่ายให้แก่แม่ชีอรนุชในภายหลังแต่อย่างใด

         ในการดำเนินการต่าง ๆ เกี่ยวกับการก่อสร้าง และตลอดจนการดำเนินงานของสวนสันติธรรมได้กระทำอย่างโปร่งใส มีบุคคลต่าง ๆ ที่มีชื่อเสียง ได้เข้ามารับรู้และทราบเรื่องเป็นจำนวนมาก ซึ่งสวนสันติธรรมก็ไม่เคยมีทรัพย์สินเป็นจำนวนมาก หรือไม่เคยมีเรื่องการยักย้ายทรัพย์สินตามที่เป็นข่าวแต่อย่างใด

         และในการบริหารเงินที่ได้รับบริจาคมาของสวนสันติธรรม ท่านแม่ชีอรนุชไม่ใช่ผู้ดูแลบัญชีเงินรับบริจาคแต่เพียงผู้เดียว ยกเว้นในช่วงแรกที่คุณฐิตินาถวางมือก่อนสร้างสวนสันติธรรมเสร็จ โดยบัญชีเงินรับบริจาคของสวนสันติธรรม มีพัฒนาการเป็น 3 ระยะคือ

        1. ระยะก่อสร้างสวนสันติธรรม เบื้องต้นมีการเปิดบัญชีเพื่อสร้างสวนสันติธรรมในนามของท่านแม่ชีอรนุชร่วม กับคุณฐิตินาถ ณ พัทลุง ซึ่งการลงนามเบิกเงินจะต้องลงนามร่วมกัน โดยคุณฐิตินาถจะเป็นผู้ขอเบิกจ่ายเนื่องจากเป็นผู้ดูแลการก่อสร้าง และคุณธนา รุจิพัฒนกุล เป็นผู้ถือสมุดบัญชีเงินฝากและตรวจสอบรายรับรายจ่าย และในช่วงที่สวนสันติธรรมเปิดการแสดงธรรมแล้ว มีการเปิดบัญชีอีกบัญชีหนึ่งในนามของท่านแม่ชีอรนุชและคุณฐิตินาถร่วมกัน เพื่อดูแลเงินที่สาธุชนถวายสงฆ์เพื่อบำรุงสวนสันติธรรม

         2. ระยะหลังการก่อสร้าง ในช่วงท้ายของการก่อสร้างคุณฐิตินาถวางมือเนื่องจากมีภาระส่วนตัว ท่านแม่ชีอรนุชจึงต้องรับภาระดูแลบัญชีตามลำพัง ในช่วงธันวาคม 2549 เป็นต้นมา โดยปิดบัญชีสร้างสวนสันติธรรมเพื่อนำเงินไปชำระหนี้ และปิดบัญชีบำรุงสวนสันติธรรมเดิมโดยถ่ายโอนเงินไปเปิดบัญชีใหม่ในนามของท่านแม่ชีอรนุชตามลำพัง เนื่องจากคุณฐิตินาถไม่ได้อยู่ในสวนสันติธรรมแล้ว แต่การใช้จ่ายทุกอย่างมีหลักฐานการเบิกจ่ายทั้งสิ้น และต่อมาเมื่อมีเงินในบัญชีมากขึ้น สวนสันติธรรมจึงได้เปิดบัญชีธนาคารใหม่เมื่อ 22 สิงหาคม 2551 ในนามของท่านแม่ชีอรนุช คุณอภิชาติ อัศวเรืองชัย และคุณชยาทร เตชะไพบูลย์ และทุกสิ้นเดือน ท่านแม่ชีอรนุชจะทำบัญชีส่งให้คุณอภิชาติเป็นหลักฐานด้วย อย่างไรก็ตามตั้งแต่คุณอภิชาติลาออกจากการเป็นประธานกรรมการสวนสันติธรรม เมื่อ 15 มกราคม 2553 ก็ไม่มีการเบิกเงินจากบัญชีนี้แต่อย่างใด

         3. ระยะปัจจุบัน เมื่อ 18 กุมภาพันธ์ 2553 มีการเปิดบัญชีใหม่ ในนามของคุณสุรพล สายพานิช คุณธนา รุจิพัฒนกุล และคุณกนิษฐวิริยา ต.สุวรรณ ทั้งนี้ท่านแม่ชีอรนุชทำหน้าที่เพียงการควบคุมการเบิกจ่ายเงินสดย่อย และสรุปยอดบัญชีรายเดือนส่งให้คุณสุรพล ซึ่งได้จ้างนักบัญชีตรวจสอบบัญชีอีกชั้นหนึ่งด้วย

         ทั้งนี้ เงินบริจาคของสวนสันติธรรมจะมาจาก 2 ทาง คือ ส่วนที่มีผู้บริจาคเข้าบัญชีโดยตรง และจากญาติโยมที่เข้ามาฟังธรรมและได้บริจาคแด่สงฆ์ที่อยู่ในสวนสันติธรรม เพื่อบำรุงสวนสันติธรรม ซึ่งเงินในส่วนที่สองนี้จะมีอาสาสมัครคอยดูแล และตรวจนับ มีการลงรายการรับไว้ครบถ้วน และทางสวนสันติธรรมจะมีการใช้เงินอย่างมีระบบเอกสารการเบิกจ่ายครบถ้วนตาม ที่ได้กล่าวมาข้างต้น 
 
         อนึ่ง การที่หลวงพ่อปราโมทย์ได้มอบหมายให้ ท่านแม่ชี อรนุช รับมอบอำนาจดำเนินการควบคุมการเบิกจ่ายเงินของสวนสันติธรรมแทนหลวงพ่อปราโมทย์ และดูแลบัญชีเป็นบางคราวนั้น เนื่องจากท่านหลวงพ่อปราโมทย์ ท่านเป็นพระในสายของธรรมยุตินิกาย ซึ่งจะไม่มีสามารถจับต้องหรือเก็บเงินทอง หรือซื้อทรัพย์สินใด ๆ เองได้ ทั้งสิ้น และในสวนสันติธรรมไม่มีอุบาสกอยู่ประจำ จึงจำเป็นที่จะต้องให้ท่านแม่ชีอรนุช ดูแลแทน และที่ผ่านมาท่านแม่ชีก็ได้ร้องขอต่อหลวงพ่อปราโมทย์บ่อยครั้ง ที่จะให้หาคนมาทำงานแทน เพื่อท่านแม่ชีจะได้บำเพ็ญภาวนาได้เต็มที่ต่อไป

 

         นอกจากนี้ เกี่ยวกับที่ดินของสวนสันติธรรมตามที่เป็นข่าว ภายหลังจากที่จัดสร้างสวนสันติธรรมแล้วเสร็จ ในช่วงแรกมีผู้เห็นว่าการตั้งเป็นวัดนั้นค่อนข้างจะยุ่งยาก  และในตอนนั้นยังไม่เหมาะสมจึงยังไม่ดำเนินการ และต่อมาในเดือนมกราคม 2553 เมื่อเห็นว่าทุกอย่างลงตัวและพร้อมแล้ว  หลวงพ่อปราโมทย์ก็ได้ให้ท่านแม่ชีอรนุช  ยื่นเรื่องขอยกที่ดินแปลงที่เป็นที่ตั้งของสวนสันติธรรมให้มีการจัดตั้งเป็น วัดแล้ว ตั้งแต่เมื่อวันที่ 23 มีนาคม 2553 โดยทำสัญญากับท่านนายอำเภอศรีราชา และ ขณะนี้อยู่ระหว่างการดำเนินการอนุญาตต่อสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้สวนสันติธรรมมีฐานะเป็นวัดต่อไป




อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
 , @can_nw

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
พระปราโมทย์ แถลงปมศึก สวนสันติธรรม อัปเดตล่าสุด 17 กันยายน 2553 เวลา 15:09:07 62,474 อ่าน
TOP