x close

จับแท็กซี่ ทำร้าย-ชิงทรัพย์นักศึกษาเวียดนาม

แทกซี่




เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม

             จับแท็กซี่ชิงทรัพย์สาวเวียดนาม ก่อนมัดมือซุกท้ายกระโปรงรถ โชคดีฝากระโปรงเปิด เหยื่อสาวตะโกนร้องขอความช่วยเหลือ ก่อนทิ้งตัวลงมาจากรถ ชาวบ้านเห็นช่วยสกัดจับได้ทัน

             วานนี้ ( 30 กันยายน) เวลา 19.00 น. พนักงานสอบสวน สน.จรเข้น้อย รับแจ้งเหตุคนขับแท็กซี่จี้ชิงทรัพย์ผู้โดยสาร และจับผู้โดยสารมัดมือก่อนนำตัวไปซุกใส่ท้ายกระโปรงรถ และหลบหนีไป จึงรีบรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ

             โดยที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่พบรถแท็กซี่ ยี่ห้อโตโยต้า โคโรล่า สีแดง ทะเบียน ทร-8453 กทม. ของสหกรณ์ภูมิพลังแท็กซี่ และพบคนขับแท็กซี่นั่งอยู่ภายในรถ ทราบชื่อคือ จ.ส.อ.สุวัฒน์ สุขใจ อายุ 39 ปี ทหารนอกราชการ บ้านเกิดอยู่ที่ อ.เด่นชัย จ.แพร่ ส่วนผู้บาดเจ็บคือ นางสาวเหงียน งิว เย็น อายุ 21 ปี เป็นชาวเวียดนาม เข้ามาศึกษาโครงการแลกเปลี่ยนนักศึกษานานาชาติ เพื่อการฝึกงานด้านเทคนิค มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ

             ทั้งนี้ พลเมืองดีให้การว่า เห็นรถแท็กซี่คันดังกล่าวขับเข้ามาภายในซอยลาดกระบัง 15 ด้วยความเร็วผิดปกติ และเห็นผู้เสียหายพยายามเปิดกระโปรงท้ายรถขอความช่วยเหลือ ก่อนทิ้งตัวลงมาที่พื้นถนน คนในซอยเห็นเข้าจึงพยายามล้อมแท็กซี่คันดังกล่าวไว้ และพยายามนำตัวคนขับลงมา แต่คนขับไม่ยอมลงมาจากรถ จึงได้แจ้งตำรวจจราจรซึ่งปฏิบัติงานอยู่ละแวกนั้น ให้เข้ามาช่วยจับกุม

             โดยนางสาวเหงียน งิว เย็น ซึ่งอยู่ในสภาพบอบช้ำ มีรอยฟกช้ำทั่วร่างกาย และศีรษะแตก ได้ให้การเบื้องต้นว่า เดินทางมาจาก จ.มหาสารคาม เพื่อเตรียมเดินทางกลับประเทศเวียดนามในวันที่ 1 ตุลาคม จึงได้เรียกรถแท็กซี่จากสถานีขนส่งหมอชิต ให้มาส่งที่โรงแรมคอนเวเนียน ในซอยลาดกระบัง 54 แต่ระหว่างที่รถเข้าไปในซอย คนขับได้จอดรถแล้วลงมือทำร้าย บีบคอ จากนั้นจึงใช้สายวิทยุสื่อสารภายในรถมัดมือ พยายามลากตนออกมาจากรถ แล้วอุ้มตนใส่ไว้ในกระโปรงท้ายรถ ต่อมาเมื่อรถแท็กซี่ขับไปเรื่อย ๆ ฝากระโปรงรถก็เปิดออก ตนจึงร้องให้คนช่วย แต่คนขับรถก็ยิ่งเร่งความเร็ว ก่อนที่ตนจะตกลงมาจากรถ แล้วมีคนเข้ามาช่วยเหลือ

             ด้าน พ.ต.อ.อัศวยุทธ นุชพุ่ม ผกก.สน.จรเข้น้อย กล่าวว่า จากการสอบสวนคนร้ายเคยเป็นทหารที่ จ.แพร่ แต่ได้ถูกให้ออกจากราชการ จึงมาขับแท็กซี่ได้ 2 ปี ก่อนจะมาก่อเหตุชิงทรัพย์ดังกล่าว โดยคนร้ายอ้างว่าต้องการหาเงินไปรักษาแม่ที่ป่วยอยู่ ซึ่งนับว่าโชคดีที่ผู้เสียหายสามารถเปิดท้ายกระโปรงรถแท็กซี่ และหนีออกมาได้ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหาชิงทรัพย์ โดยใช้กำลังประทุษร้ายต่อเจ้าทรัพย์ ซึ่งมีโทษจำคุกไม่เกิน 20 ปี และจะดูว่าหากคนร้ายกระทำความผิดข้อหาใดอีก ก็จะแจ้งข้อหาเพิ่มเติมอีก เพราะถือว่าทำให้ภาพลักษณ์ของประเทศเสียหาย

             ต่อมา ผศ.ทองดี ชีวพฤกษ์ เลขาธิการสำนักงานแลกเปลี่ยนนักศึกษานานาชาติ เพื่อการฝึกงานด้านเทคนิค มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ ได้เดินทางมาที่ สน.เพื่อเข้าพบ พ.ต.อ.อัศวยุทธ นุชพุ่ม โดย ผศ.ทองดี กล่าวว่า รู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะไม่เคยขึ้นกับนักศึกษาในโครงการแลกเปลี่ยนดังกล่าว ถือเป็นการเสื่อมเสียชื่อเสียงของประเทศไทย เนื่องจากนักศึกษาเป็นชาวต่างชาติ หากเสียชีวิตไม่รู้ใครจะรับผิดชอบ และสงสารนักศึกษาที่ตกเป็นเหยื่อ

             ผศ.ทองดี กล่าวอีกว่า ก่อนเดินทางมา สน. ได้เดินทางเข้าเยี่ยม น.ส.เหงียน โดยนักศึกษาคนดังกล่าว เล่าให้ฟังว่า ถูกโชเฟอร์แท็กซี่บีบคออย่างแรงแทบหายใจไม่ออก ตอนนั้นหมดสติไป รู้สึกตัวอีกทีก็รู้ว่าอยู่ท้ายกระโปรงรถยนต์แล้ว หลังจากฟื้นขึ้นมา จึงได้สวดมนต์ภาวนา ขอให้วิญญาณตากับยายที่อยู่ประเทศเวียดนามให้ช่วยตนได้กลับประเทศ ขออย่าได้เป็นอะไร ขณะนั้นก็สังเกตเห็นมีแสงเล็ดลอดเข้ามาในกระโปรงรถ จู่ ๆ ฝากระโปรงรถก็เปิดขึ้นมา เธอจึงตัดสินใจทิ้งตัวลงจากรถ เพื่อให้ตัวเองรอดตาย


 

 

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
จับแท็กซี่ ทำร้าย-ชิงทรัพย์นักศึกษาเวียดนาม อัปเดตล่าสุด 1 ตุลาคม 2553 เวลา 17:20:15 5,479 อ่าน
TOP