ชายแดนเงียบสงบ-กะเหรี่ยงยังตรึงกำลังแน่น (ไอเอ็นเอ็น)
สถานการณ์ชายแดนไทย-พม่า เงียบสงบ แต่ผู้อพยพชาวพม่า ยังไม่กล้ากลับบ้าน ขณะทหารกะเหรี่ยงตรึงกำลังด้านหน้าแนว ป้องกันทหารพม่าโจมตีฐาน
ชาวพม่าทั้งผู้ใหญ่เด็กและสตรี จำนวนหลายร้อยคน จากจังหวัดเมียวดี ประเทศพม่า ยังคงอาศัยอยู่บริเวณหน้าบ้านห้วยม่วง ตำบลท่าสายลวด อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก นอกจากไม่ยอมข้ามกลับไปยังพม่า เพราะยังเกิดความกลัว แม้ว่าเหตุการณ์สงบแล้วก็ตาม เช่นเดียวกับชาวพม่า กว่า 200 คน อีกกลุ่มหนึ่ง ที่เดินทางไปจากกองร้อยตำรวจตระเวนชายแดน ที่ 346 แม่สอด เมื่อวันที่ 7 พ.ย. ที่ผ่านมาก็ไม่ยอมกลับไป ยังคงรวมตัวอยู่บริเวณหาดทรายริมแม่น้ำเมย และมีกลุ่มชาวพม่าด้วยกันได้ นำอาหารเครื่องดื่มเข้าไปช่วยเหลือ รวมถึงเจ้าหน้าที่ แพทย์อาสาสมัครชาวกะเหรี่ยงสัญชาติพม่า ก็ได้ส่งทีมแพทย์และพยาบาลไปให้ความช่วยเหลือ เนื่องจากอากาศที่หนาวเย็น ทำให้มีผู้ป่วย
ส่วนการอาศัยอยู่ของชาวพม่า บริเวณบ้านห้วยม่วง ดังกล่าวเจ้าหน้าที่UNHCR หรือ สำนักงานข้าหลวงใหญ่ ผู้ลี้ภัย แห่งสหประชาชาติ ได้ไปตรวจสอบข้อเท็จจริง ทั้งช่วยดูแลการคุ้มครองระหว่างประเทศ ชาวพม่า รายหนึ่งบอกว่า สาเหตุที่ไม่ยอมเดินทางกลับไป เพราะมีบ้านลึกจากชายแดนมาก 3 - 4 ก.ม. หากเกิดเหตุการณ์ขึ้น จะหนีออกมาไม่ทันขอดูสถานการณ์ซัก 2 - 3 วัน จนมั่นใจ และจะกลับไป สำหรับสถานการณ์ทั่วไป ขณะนี้ค่อนข้างสงบเงียบและที่ชายแดนไทยพม่า อำเภอพบพระ มีทหารพม่า ถูกกับระเบิดของกะเหรี่ยง DKBA ที่วางกับดักไว้หลายจุด ซึ่งทหารกะเหรี่ยง DKBA ได้ส่งกำลัง 3 - 4 กองพัน ไปตรึงอยู่ด้านแนวเพื่อป้องกัน ทหารพม่าเข้าโจมตีฐานที่มั่นที่ตั้งอยู่ที่ตำบลวาเล่ย์ อำเภอพบพระ ของจังหวัดตาก
