สรุปประเด็นข่าวโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก ไทยโพสต์
วันนี้ (23 พฤศจิกายน) กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) ได้นัดรวมตัวชุมนุมบริเวณหน้ารัฐสภา เพื่อแสดงการคัดค้านการเตรียมพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ 2 มาตรา ที่จะเข้าสู่กระบวนการพิจารณาในสภา
สำหรับบรรยากาศขณะนี้ มีผู้ชุมนุมยอยมาเดินมาเรื่อย ๆ ตั้งแต่เวลา 07.00 น. ขณะที่ พล.ต.จำลอง ศรีเมือง และ นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำกลุ่มพันธมิตร ได้เดินทางมาเมื่อเวลาประมาณ 08.00 น. ทางด้านมีเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เตรียมพื้นที่ และกั้นบริเวณทางเท้าด้านหน้าสวนสัตว์ดุสิตไว้เป็นที่ชุมนุม ส่วนหน้าอาคารรัฐสภา ได้นำแผงเหล็กมากั้นเพื่อป้องกัน ไม่ให้ผู้ชุมุนมล่วงล้ำเข้ามา ขณะที่การจราจรบริเวณถนนอู่ทองในยังเปิดให้สัญจรได้ตามปกติได้
ทั้งนี้ พล.ต.จำลอง ศรีเมือง แกนนำกลุ่มพันธมิตร เปิดเผยในระหว่างการร่วมชุมนุมว่า ไม่เห็นด้วยที่จะมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญทุกฉบับ แต่หากรัฐบาลจะแก้ไข ก็ต้องมีการจัดทำประชามติ ซึ่งหากเสียงส่วนใหญ่เห็นด้วย ทางกลุ่มก็ไม่มีการคัดค้าน ซึ่งตนเห็นว่ารัฐบาลนั้นไม่เคยใส่ใจอย่างแท้จริง เพราะตลอด 9 เดือนที่ผ่านมา ไม่ดำเนินการทำประชามติตามที่เคยรับปากไว้ ขณะที่การชุมนุมในวันนี้ยืนยันว่าทางกลุ่มจะชุมนุมอย่างสงบ และจะดำเนินการตามกรอบของกฎหมาย โดยจะไม่มีการปักหลักค้างคืนอย่างแน่นอน และในการชุมนุมนั้นจะทำเวที 3 เวทีด้วยกัน ที่บริเวณกลางซ้ายและขวา โดยใช้เครื่องโทรโข่ง ซึ่งแม้จะติดขัดบ้าง แต่ก็จะพยายาม ส่วนผู้ชุมนุมจะมามากน้อยเท่าใดตนไม่สามารถตอบได้ เพราะไม่ได้จ้างใครมา ขณะเดียวกัน จะมีเพียงไม่กี่คนนั้น ก็ยืนยันว่าต้องต่อสู้ต่อไป
ด้าน นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำกลุ่มพันธมิตร ยืนยันว่ากลุ่มพันธมิตรไม่ได้มีเจตตนาคัดค้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญ แต่แก้ได้ก็ต้องมีการทำประชามติเช่นกัน พร้อมกันนี้ ยังระบุด้วยว่า นายอิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี นั้น กำลังจะทำให้พรรคประชาธิปัตย์ใกล้แตกเต็มที เพราะความทะเยอทะยาน ที่จะแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพราะจะเห็นได้ว่า สียงส่วนใหญ่ของ ส.ส.นั้น จะไม่เห็นด้วย ให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ นอกจากนี้ ตนยังเห็นด้วยที่จะให้รัฐสภารับร่างรัฐธรรมนูญชุดที่ นายแพทย์เหวง โตจิราการ เป็นคนเสนอด้วย เพราะนายกรัฐมนตรีจะได้ถือว่า เป็นบุคคลที่ต้องการทำลายสถาบันชาติและประชาธิปไตย
ขณะที่ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีด้านความมั่นคง เชื่อว่าประชาชนส่วนใหญ่ต้องการเห็นบ้านเมืองมีความสงบสุข ไม่อยากเห็นความวุ่นวายเกิดขึ้น ดังนั้น จึงไม่คิดว่าการชุมนุมประท้วงจะกลายเป็นปัญหาอะไรของบ้านเมือง
อย่างไรก็ตาม ล่าสุดทางตำรวจนครบาลได้ประสานขอความร่วมมือในการชุมนุม โดยมีการชี้แจงถึงข้อบังคับตามสิทธิที่กฎหมายรัฐธรรมนูญกำหนดไว้ เนื่องจากเป็นห่วงเรื่องมือที่ 3 เข้ามาสร้างสถานการณ์ ซึ่งทางพันธมิตรฯ พร้อมที่จะให้ความร่วมมือ โดยมีการจัดเวรยามร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อร่วมระวังป้องกันมือที่สามและจะไม่ปิดทางเข้าออกรัฐสภา
ขณะเดียวกัน ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ต.ปิยะ อุทาโย โฆษกกองบัญชาการตำรวจนครบาล แถลงข่าวการเตรียมความพร้อมว่า ได้เน้นย้ำการจัดวางกำลังตำรวจคุมเข้มทางเข้าออกทุกจุด และพื้นที่โดยรอบบริเวณ รวมถึงวางแนวกั้นพื้นที่ ไม่ให้ผู้ชุมนุมรุกล้ำเข้ามาบนพื้นถนนเพื่อปิดการจราจร พร้อมทั้งขอความร่วมมือผู้ชุมนุมให้อยู่ในกรอบของกฎหมายที่กำหนดไว้ ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ขอย้ำถึงกรอบกฎหมายตามแนวทางที่ ศอฉ.กำหนดไว้ โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจจะเป็นผู้ปฏิบัติหลัก ซึ่งจะเข้าควบคุมพื้นที่ตั้งแต่ค่ำวันนี้ โดยยึดตามประกาศของ ศอฉ.5 ข้อ คือ
1. ห้ามไม่ให้มีการปิดการจราจร2. ห้ามไม่ให้มีการขวางทางเข้าออกบริเวณโดยรอบรัฐสภา3. ห้ามไม่ให้มีการโชว์ป้ายที่มีข้อความข่มขู่ และแสดงความอาฆาตมาดร้ายต่อผู้อื่น4. ห้ามไม่ให้มีการใช้เครื่องขยายเสียง หรือการพูดเพื่อยั่วยุให้เกิดการแตกแยก5. ห้ามไม่ให้มีการล่วงละเมิดสถาบันพระมหากษัตริย์
ทั้งนี้ ได้สั่งห้ามกลุ่มพันธมิตรปิดทางเข้าออกรัฐสภา รวมทั้งห้ามไม่ให้มีการปิดถนนบริเวณถนนอู่ทองในและถนนราชวิถี โดยมีการเตรียมกำลังเจ้าหน้าที่คอยสแตนด์บาย เตรียมพร้อมอยู่ในที่ตั้ง เพื่อเป็นกำลังเสริมในระลอกที่ 2 อีกจำนวน 6 กองร้อย และระลอกที่ 3 อีกจำนวน 10 กองร้อย รวมทั้งสิ้นประมาณเกือบ 2,000 นาย ซึ่งกำลังตำรวจทั้งหมดจะคอยดูแลทางเข้าออกของรัฐสภาทุกด้าน บริเวณถนนโดยรอบรัฐสภาทั้งหมด รวมทั้งตามรั้วต่าง ๆ เพื่อป้องกันมือที่ 3 เข้ามาปั่นป่วนสร้างสถานการณ์
ขณะที่เจ้าหน้าที่จากหน่วยความมั่นคงของรัฐบาล อาทิ ศอฉ. เข้ามาสำรวจพื้นที่บริเวณรัฐสภา เพื่อวางมาตรการรักษาความปลอดภัย และมีการเชื่อมต่อสัญญาณของกล้องโทรทัศน์วงจรปิด (ซีซีทีวี) รอบรัฐสภาไปยังหน่วยความมั่นคงอีกด้วย
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
