x close

แฟนบอลนัดประท้วง กดดันนายกสมาคมฟุตบอลไทย





แฟนบอลนัดประท้วง กดดันนายกสมาคมฟุตบอลไทย




เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก เรื่องเล่าเช้านี้ ทางช่อง 3, เฟซบุ๊ก
มั่นใจว่าคนไทยเกิน 1 ล้านคน ไม่เอาสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยชุดนี้ 



        วิจารณ์ผลงานฟุตบอลไทยตกต่ำ แฟนบอลนัดตัวตัวประท้วงนายกสมาคมฟุตบอลไทย 11 ธ.ค. - 19 ธ.ค. กดดันนายกสมาคมลาออก  

        กลายเป็นทอล์ค ออฟ เดอะ ทาวน์ อีกเรื่อง หลังฟุตบอลไทยตกรอบแรกการแข่งขันฟุตบอลเอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2010 โดยไทยที่อยู่ในสายเอลงสนามไป 3 นัดด้วยการเสมอลาว 2-2 , เสมอมาเลเซีย 0-0 และนัดสุดท้ายพ่ายอินโดนีเซีย 1-2 และก่อนหน้านี้ ฟุตบอลไทยยังตกรอบแรกฟุตบอลซีเกมส์ ที่ลาว ตกรอบสองเอเชียนเกมส์ ที่ กวางโจว โดยเสมอกับมัลดีฟส์

        อย่างไรก็ตาม ด้วยผลงานอันน่าผิดหวังดังกล่าว ทำให้แฟนบอลโดยเฉพาะในเว็บไซต์ต่าง ๆ ตั้งกระทู้แสดงความคิดเห็นต่อผลงานฟุตบอลไทยเป็นอย่างมาก หลายคนบอกว่าความผิดทั้งหมดอยู่ที่ผู้บริหารสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย โดยเฉพาะนายกสมาคมฟุตบอลไทยอย่าง นายวรวีร์ มะกูดี และ ไบรอัน ร็อบสัน กุนซือใหญ่ทีมชาติไทย ที่ทำผลงานได้น่าผิดหวัง ติดต่อกันมาหลายรายการ

        ซึ่งใน เว็บไซต์เฟซบุ๊กดอทคอม ใช้ชื่อว่า "มั่นใจว่าคนไทยเกิน 1 ล้านคน ไม่เอาสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยชุดนี้" แฟนบอลต่างแสดงความเห็นที่ไม่พึงพอใจต่อผลงานของทีมชาติไทยที่ผ่านมา และอยากให้ผู้บริหารสมาคมฯ และหัวหน้าสต๊าฟฟ์โค้ช ออกมารับผิดชอบต่อผลงานที่น่าผิดหวังครั้งนี้ พรัอมกับมีการนัดชุมนุมกันที่อาคารมาลีนนท์ หรือว่าช่อง 3 ในวันเสาร์ที่ 11 ธันวาคม เวลา 09.00 น. ซึ่งเป็นการร้องขอความรับผิดชอบของสมาคมฟุตบอลต่อหน้าสื่อ

        ทางด้าน เว็บไซต์พันทิปดอทคอม ในห้องศุภชลาศัย กระแสวิจารณ์ฟุตบอลไทยก็เป็นไปอย่างดุเดือด โดยในเว็บไซต์มีการนัดแฟนบอลรวมตัวกันในวันอาทิตย์ที่ 19 ธันวาคมนี้ เวลาประมาณ 10.00 น. ที่สนามศุภชลาศัย โดยให้แฟนบอลสวมเสื้อสโมสรต่าง ๆ ของไทยแลนด์ พรีเมียร์ลีก, ดิวิชั่น 1, ดิวิชั่น 2  ทั้งนี้เพื่อกดดันนายกสมาคมฟุตบอลไทยให้รับผิดชอบหลังผลงานฟุตบอลไทยตกต่ำ 

        โดยได้โพสต์ข้อความเชิญชวนนัดรวมตัวประท้วงว่า "หากคุณรักบอลไทย หากคุณอยากให้บอลไทยไม่เลวร้ายไปกว่านี้ มารวมตัวกันเถอะครับเพื่อฟุตบอลของเรา ด้วยการประท้วงและกดดันต่อนายกสมาคม สมาคมและโค้ช ให้พ้นจากตำแหน่ง" 

        ขณะที่เมื่อวันที่ 8 ธันวาคม ที่ผ่านมา ทัพนักฟุตบอลทีมชาติไทย เดินทางกลับถึงไทยแล้ว โดยไม่มีแฟนบอล หรือผู้บริการสมาคมไปต้อนรับ ทำให้บรรยากาศเป็นไปอย่างเงียบเหงา

 



ฟุตบอล

 

ฟุตบอล



         การแข่งขันฟุตบอล เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ ทีมไทยเสีย 2 จุดโทษ 10 นาทีสุดท้าย แถมเหลือ 10 คน พ่ายอินโดฯ 2-1 ทั้งที่นำก่อน ตกรอบแรกฟุตบอลซูซูกิ คัพ

          การแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์อาเซียน 2010 หรือ เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ ( ชื่อเดิมไทเกอร์คัพ) นัดสุดท้ายของรอบแบ่งกลุ่ม ที่ประเทศอินโดนีเซีย ทีมชาติไทยซึ่งอยู่กลุ่มเอ ผลงาน 2 นัดแรกเสมอมาทั้ง 2 นัด มี 2 แต้ม ต้องลงทำศึกหนักกับทีมชาติอินโดนีเซีย ซึ่งชนะมาแล้ว 2 นัดรวด มี 6 คะแนนเต็ม ผ่านเข้ารอบเป็นที่ 1 ของกลุ่มเอแน่นอนแล้ว โดยหากนัดนี้ ทีมชาติไทยชนะจะผ่านเข้ารอบเป็นที่ 2 ของกลุ่มอย่างแน่นอน โดยไม่ต้องลุ้นผลการแข่งขันระหว่างมาเลเซีย และลาว แต่หากทีมชาติไทยทำได้แค่เสมอ ก็ต้องลุ้นให้มาเลเซียและลาวเสมอเช่นกัน

          โดยเกมการแข่งขันนัดนี้ ทีมชาติไทย ลงสนามด้วยการส่ง กีรติ เขียวสมบัติ ลงสนามร่วมกับ ธีรศิลป์ แดงดา เป็นคู่กองหน้า ส่วนกองกลางใช้ ดัสกร ทองเหลา เป็นกำลังในการลงสนาม ส่วนกองหลังใช้ ณัฐพร พันฤทธิ์ เป็นกัปตันทีม และ เซ็นเตอร์ฮาล์ฟ ขณะที่ผู้รักษาประตูเป็น สินทวีชัย หทัยรัตนกุล

          เกมการแข่งขันเริ่มขึ้น โดยทีมชาติไทยครองเกมบุกได้อย่างต่อเนื่อง โดยเล่นได้ดีกว่าอินโดนีเซียอย่างเห็นได้ชัด และมีโอกาสเฉียดฉิวจะเป็นประตูหลายครั้ง แต่ทำได้แค่หวาดเสียว จนจบครึ่งแรกเสมอกันอยู่ 0-0 มาครึ่งหลัง ทีมชาติไทยยังเปิดเกมบุกและครองบอลได้มากกว่า โดยมีจังหวะที่น่าจะได้ประตูอีกหลายครั้งจาก กีรติ เขียวสมบัติรวมทั้งอีกหลายลูกที่นักเตะอินโดนีเซียสกัดจากหน้าเส้นประตูได้เส้นยาแดงผ่าแปด จนกระทั่งในนาทีที่ 68 สุรีย์ สุขะ ซัดวอลเลย์สุดสวยให้ทีมชาติไทยขึ้นนำทีมชาติอินโดนีเซียได้สำเร็จ 1 ประตูต่อ 0

          หลังจากทีมชาติไทยขึ้นนำ อินโดนีเซียกลับมาครองเกมบุกได้มากกว่า และเกือบทำประตูได้ จนกระทั่งในนาทีที่ 81 อินโดนีเซียได้ลูกจุดโทษ จากการที่ ภานุพงศ์ วงศ์ษา ไปทำฟาวล์ ก่อนที่ บำบัง กัปตันทีมอินโดนีเซีย จะยิงตีเสมอทีมไทย 1-1 ได้สำเร็จ ทำให้ทีมชาติไทยต้องบุกหนัก เพื่อเอาชนะอินโดนีเซียให้ได้ เนื่องจากอีกสนามมาเลเซียนำลาวอยู่

          แต่ทว่า สถานการณ์ของไทยกลับย่ำแย่หนัก เมื่อภานุพงศ์ วงศ์ษา ไปทำแฮนด์บอลในเขตโทษ โดนใบเหลืองที่ 2 เป็นใบแดงถูกไล่ออกจากสนามไป ทีมชาติไทยเหลือ 10 คนและอินโดนีเซียได้จุดโทษ บำบัง กัปตันทีมคนเดิมสังหารไม่พลาด ทำให้อินโดนีเซียขึ้นนำทีมชาติไทย 2-1 ในนาทีที่ 88 และถือเป็นประตูส่งทีมชาติไทยตกรอบแรกฟุตบอลเอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ เป็นครั้งแรกในรอบหลายปี ด้วยสถิติเสมอ 2 นัด แพ้ 1 นัด ตกรอบแรกไปพร้อมกับ ลาว ที่เสมอ 1 นัด แพ้ 2 นัด รั้งอันดับบ๊วยของกลุ่ม ส่วนอินโดนีเซียได้เข้ารอบรองชนะเลิศในฐานะที่ 1 ของกลุ่มเอ ไปรอพบกับที่ 2 ของกลุ่มบี ขณะที่มาเลเซียที่เอาชนะลาว 5-1 ได้เข้ารอบเป็นที่ 2 ของกลุ่มเอ ไปรอพบที่ 1 ของกลุ่มบีต่อไป



อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก

 

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
แฟนบอลนัดประท้วง กดดันนายกสมาคมฟุตบอลไทย อัปเดตล่าสุด 9 ธันวาคม 2553 เวลา 17:40:15 109,656 อ่าน
TOP