อธิบดี ปภ. เผย 2 วันแรก 7 วันอันตราย มีผู้บาดเจ็บ จากอุบัติเหตุนับพันราย เสียชีวิตอีกเกือบร้อย สาเหตุหลักเหมือนเดิมคือ เมาสุรา ขับรถเร็ว ตัวการยังเป็นรถจักรยานยนต์ ตามด้วยรถปิกอัพ เวลาสยองช่วงตั้งแต่ 16-20.00 น. จี้เข้มงวดตรวจจับเมาแล้วขับ คุมเข้มร้านค้าขายเหล้าเกินเวลา สถานบันเทิงห้ามจุดพลุ ประทัด ดอกไม้เพลิง หวั่นถูกเผาโศกซ้ำรอย
นายวิบูลย์ สงวนพงศ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เปิดเผยถึง สถิติอุบัติเหตุทางถนน ตั้งแต่วันที่ 19-20 ธ.ค. ซึ่งเป็น 2 วันแรกของช่วง 7 วันอันตราย โดยพบว่า เกิดอุบัติเหตุใน 2 วัน แรก รวมทั้งสิ้น 1,012 ครั้ง มีผู้เสียชีวิตรวม 79 คน และมีผู้บาดเจ็บรวมทั้งสิ้น 1,095 ราย โดยสาเหตุหลักที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ เมาสุรา ซึ่งรถจักรยานยนต์เป็นยานพาหนะที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ในช่วงเวลาที่จะเกิด 16.00-20.00 น. ขณะเดียวกัน จังหวัดที่จะเกิดอุบัติเหตุสะสมสูงสุด ในช่วง 2 วัน คือ เชียงราย ทั้งหมด 37 ครั้ง ส่วนจังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสะสมสูงสุด ได้แก่ จ.เพชรบุรี ร้อยเอ็ด สระแก้ว และ พังงา จังหวัดละ 4 คน ส่วน จังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บสะสมสูงสุด ได้แก่ เชียงราย มีทั้งสิ้น 40 คน
สาเหตุที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ เมาสุรา รองลงมา ขับรถเร็วเกินกำหนด ยานพาหนะที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ รถจักรยานยนต์ ส่วนใหญ่เกิดในเส้นทางตรงบนถนนทางหลวงแผ่นดิน ส่วนช่วงเวลาที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุดได้แก่ช่วงกลางคืน โดยเฉพาะช่วงเวลา 16.01-20.00 น. จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสูงสุด ได้แก่ กระบี่ พังงา พัทลุง เพชรบุรี ลพบุรีและสระแก้ว จังหวัดละ 2 ราย จังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บสูงสุด ได้แก่ เชียงราย 23 คน รองลงมาเชียงใหม่ 15 คน และขอนแก่น 14 คน โดยผู้บาดเจ็บและผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่อยู่ในกลุ่มวัยแรงงาน อายุระหว่าง 30-39 ปี
นายวิบูลย์ สงวนพงศ์ อธิบดีกรม ปภ. ในฐานะเลขานุการ ศปถ. กล่าวว่าในช่วงนี้พื้นที่ภาคเหนือจะมีอากาศหนาวและมีหมอกหนาในตอนเช้า ทำให้ทัศนวิสัยในการมองเห็นเส้นทางไม่ดี เสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุทางถนน จึงขอเตือนผู้ที่ใช้รถใช้ถนนเพิ่มความระมัดระวังเป็นพิเศษหากขับผ่านบริเวณที่หมอกลงจัดให้เปิดไฟตัดหมอกหรือหยุดรถในบริเวณที่ ปลอดภัย นอกจากนี้ในพื้นที่ภาคใต้ ตั้งแต่ จ.พัทลุงลงไป ในช่วงนี้จะมีฝนตกหนักบางแห่ง อาจทำให้ถนนลื่นและเกิดอุบัติเหตุได้ง่าย ขอให้ผู้ใช้รถใช้ถนนเพิ่มความระมัดระวังในการขับรถผ่านเส้นทางดังกล่าว
ด้าน นายสรยุทธ เพ็ชรตระกูล กรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า ในวันที่ 31 ธ.ค. ซึ่งเป็นวันส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ สถานที่แต่ละแห่งมักจัดงานเฉลิมฉลอง จึงมีความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุทาง ถนนสูง ศปถ.จึงกำชับให้เจ้าหน้าที่ประจำจุดตรวจเข้มงวดการตรวจจับการเมาแล้ว ขับ รวมถึงกวดขันให้ร้านค้าและผู้ประกอบการจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ให้อยู่ ในช่วงเวลาที่กฎหมายกำหนด งดจำหน่ายแก่ผู้ที่มีอายุต่ำกว่า 20 ปี นอกจากนี้ ให้เน้นการตรวจความปลอดภัยสถานบันเทิง โดยเฉพาะการควบคุมมิให้มีการจุด พลุ ประทัด และดอกไม้เพลิงภายในสถานบันเทิงโดยเด็ดขาด เพื่อป้องกันอุบัติเหตุจากอัคคีภัย
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
