x close

ปีเสือบอลลีกอาชีพไทยบูม

ฟุตบอล

ปีเสือบอลลีกอาชีพไทยบูม (ไทยโพสต์)

          ต้องยอมรับว่าในปีเสือที่ผ่านมา วงการฟุตบอลบ้านเราตื่นตัวมากที่สุด และฟุตบอลลีกอาชีพที่หลายคนคาดหวังกันมานาน ก็ได้รับความนิยมจากบรรดาแฟนบอลและสโมสร ที่มีการทุ่มเม็ดเงินในการทำทีมกันอย่างมากมาย ชนิดที่นักเตะไทยต่างอยู่เล่นในบ้านมากกว่าจะออกไปเล่นต่างประเทศ เพราะได้เงินไม่แตกต่างกัน ส่วนบางคนที่ไปเล่นอาชีพต่างประเทศก็กลับมาเล่นในบ้าน

          นอกจากนี้ ยังมีการเพิ่มทัวร์นาเมนต์ขึ้นมาอีกด้วย จากปีที่ผ่าน ๆ มานอกจาก "ฟุตบอลไทยพรีเมียร์ลีก" ที่ถือว่าเป็นการแข่งขันลีกสูงสุดแล้ว การแข่งขันฟุตบอลมูลนิธิไทยคม เอฟเอคัพ ซึ่งเป็นรายการน็อกเอาต์ก็ได้รับความนิยม แต่ปีที่ผ่านมาล่าสุดสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยจัด ฟุตบอลโตโยต้าลีก คัพ แม้จะโดนจัดอันดับให้เป็นลีกน้องสุด แต่ก็ได้รับความสนใจไม่น้อยเช่นกัน

          การแข่งขันฟุตบอลไทยพรีเมียร์ลีก ซึ่งเป็นลีกสูงสุดได้รับความสนใจแฟนบอล ติดตามความเคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่อง เพราะเป็นการแย่งแชมป์กันระหว่างสโมสรเมืองทองฯ ยูไนเต็ด ในฐานะแชมป์เก่า ตามด้วยสโมสรฟุตบอลชลบุรี เอฟซี รองแชมป์ปี 52 พร้อมกับสโมสรบุรีรัมย์ พีอีเอ ที่ได้นักการเมืองอย่าง นายเนวิน ชิดชอบ มาทำทีมพร้อมทุ่มเงินมหาศาลเพื่อล่าแชมป์ โดยมีสโมสรบางกอกกล๊าส ที่ก่อนเปิดฤดูกาลเป็นทีมหนึ่งในการจะคว้าแชมป์ แต่พอแข่งขันไประยะหนึ่งกลับหลุดวงโคจรไป

          ซึ่งทั้ง 3 ทีมได้รับความสนใจจากแฟนบอลทั่วประเทศมากและใกล้เคียงกัน และสุดท้ายสโมสรเมืองทองฯ ยูไนเต็ด ก็เข้าป้ายคว้าแชมป์ไปครองเป็นสมัยที่ 2 ติดต่อกัน โดยมีสโมสรบุรีรัมย์ พีอีเอ ที่มาแซงในช่วงท้ายฤดูกาลเข้าป้ายรองแชมป์ ส่งผลให้สโมสรชลบุรี เอฟซี ได้เพียงอันดับ 3 ไปครอง และในการแข่งขันปีที่ผ่านมา บอกได้เลยว่ามีเรื่องราวปัญหามากมายเกิดขึ้นมา ไม่ว่าจะเป็นเรื่องผู้ตัดสินโดนดักยิงหลังจบเกม สโมสรบุรีรัมย์ พีอีเอ เอาชนะสโมสรโอสถสภาฯ ในบ้าน และยังมีอีกมากมาย เนื่องจากกระแสความนิยมของแฟนบอลและคนทำทีมต้องการชัยชนะ เรียกได้ว่าปี 2553 ที่ผ่านมาฟุตบอลไทยพรีเมียร์ลีกเติบโตเร็วเกินความคาดหมาย

          ส่วนการแข่งขันฟุตบอลมูลนิธิไทยคม เอฟเอคัพ ที่จัดเป็นปีที่ 2 ยังคงได้รับ ความสนใจจากแฟนบอลและสโมสรที่เข้าร่วม แม้ว่าเงินรางวัลจะน้อยกว่าไทยพรีเมียร์ลีก หรือโตโยต้าลีกคัพก็ตาม ทุกสโมสรต้องการที่จะคว้าแชมป์รายการนี้ เพื่อเป็นตัวแทนสโมสรจากประเทศไทยไป เข้าร่วมการแข่งขันฟุตบอลเอเอฟซี  คัพ นอกจากแชมป์ไทยพรีเมียร์ลีกที่ได้สิทธิ์ไปแข่งขันฟุตบอลเอเอฟซี  แชมเปียนลีก ทำให้สโมสรบุรีรัมย์ พีอีเอ กับสโมสรชลบุรี มุ่งมั่นอย่างมาก เพราะมองว่าการคว้าแชมป์ไทยพรีเมียร์ลีกค่อนข้างยาก เนื่องจากในช่วงแข่งขันมีแต้มตามหลังทีมนำเมืองทองฯ ห่างมากพอสมควร แต่ทางสโมสรบุรีรัมย์ พีอีเอ ต้องอกหักตกรอบไปก่อน ขณะที่ชลบุรี เอฟซี กับทีมเมืองทองฯ ยูไนเต็ด เส้นทางสดใสจนทั้งสองทีมผ่านเข้าไปชิงชนะเลิศ

          สำหรับนัดชิงชนะเลิศฟุตบอลมูลนิธิไทยคม เอฟเอคัพ กลายเป็นคู่ชิงที่ทุกคนต้องการเห็น ระหว่างเมืองทองฯ ยูไเต็ด กับชลุบรี เอฟซี แต่สุดท้ายสโมสรชลบุรี เอฟซี สามารถเอาชนะทีมเมืองทองฯ คว้าแชมป์ไปครองสำเร็จ ส่งผลให้ทีมเมืองทองฯ ยูไนเต็ด ที่ต้องการสร้างสถิติเป็นสโมสรแรกคว้า 2 แชมป์ในปีเดียวต้องอกหักไปแบบน่าเสียดาย

          ส่วนการแข่งขันฟุตบอลโตโยต้า ลีกคัพ ที่เป็นการแข่งขันแบบเหย้าและเยือนแพ้ตกรอบ หลายทีมโดยเฉพาะทีมใหญ่ในระดับไทยพรีเมียร์ลีก ส่งนักเตะระดับดาวรุ่งเข้าร่วมทีม ที่ได้รับการคาดหมายให้เป็นทีมเต็งไม่ว่าจะเป็นทีมเมืองทองฯ ทีมชลบุรี หรือทีมบางกอกกล๊าสเองต้องตกรอบไปเสียก่อน แต่คู่ชิงชนะเลิศก็ยังเป็นทีมในระดับไทยพรีเมียร์ลีก ระหว่างสโมสรบุรีรัมย์ พีอีเอ กับสโมสรการท่าเรือไทย เอฟซี ซึ่งแฟนบอลคาดหมายให้ทีมบุรีรัมย์ พีอีเอ เป็นทีมเต็งหนึ่งในการคว้าแชมป์ เนื่องจากส่งนักเตะชุดใหญ่และผลงาน พร้อมกับฟอร์มการเล่นของทีมกำลังร้อนแรงในช่วงนั้น ขณะที่การท่าเรือไทย เอฟซี มีปัญหาภายในทีมมากมายจน "โค้ชเตี้ย" สะสม พบประเสิรฐ ต้องร้องขอให้นักเตะทุกคนมุ่งมั่นในเกมนัดชิงชนะเลิศเสียก่อน แล้วค่อยมาจัดการปัญหาภายในว่าจะเป็นอย่างไร

          ซึ่งการปลุกขวัญกำลังใจนักเตะของ "โค้ชเตี้ย" ก็ประสบความสำเร็จนักเตะทุกคนช่วยกันสู้กับทีมบุรีรัมย์ พีอีเอ ได้อย่างสนุกก่อนที่จะเฉือนเอาชนะคว้าแชมป์ไปครองสำเร็จ นับว่าเป็นการคว้าแชมป์และถ้วยชนะเลิศกลับถิ่นคลองเตยได้อีกปีหนึ่ง หลังจากปีก่อนหน้านี้คว้าแชมป์มูลนิธิไทยคมเอฟเอคัพมาแล้ว ขณะที่สโมสรบุรีรัมย์ พีอีเอ ในปี 2553 ที่ผ่านมาทำได้เพียง 2 รองแชมป์ ได้รองแชมป์จากไทยพรีเมียร์ลีก ก่อนที่จะมาได้รองแชมป์โตโยต้า ลีกคัพ

          ทั้งหมดนี้คือการฟาดแข้งรายการใหญ่ระดับสูงสุด ของวงการฟุตบอลบ้านเราในปีที่ผ่านมา ซึ่งถือว่าเป็นปีที่ฟุตบอลลีกอาชีพบ้านเราบูมที่สุด จนไม่มีใครคาดคิดมาก่อนว่าจะมีกระแสนิยมจากแฟนบอลมากขนาดนี้ แต่ทั้งนี้ยังมีลีกอาชีพระดับภูธร คือลีกดิวิชั่น 2 ที่ให้ทุกจังหวัดส่งทีมเข้าร่วม แม้ว่าจะมีปัญหาอยู่เป็นระยะ แต่ก็ยังได้รับความสนใจไม่น้อยไปกว่าลีกสูงสุดเท่าไหร่

          ปี 2554 ลีกอาชีพจะเปิดสนามในเดือนกุมภาพันธ์ คงต้องติดตามกันต่อไปว่าจะยังได้รับความนิยมจากแฟนบอลเหมือนปี 2553 ที่ ผ่านมาหรือไม่ โดยเฉพาะในระดับไทยพรีเมียร์ลีกที่มี 18  ทีมเข้าร่วมมากกว่าที่ 2553 ที่มีเพียง 16 ทีมเท่านั้น แต่เท่าที่ติดตามความเคลื่อนไหวหลายทีมยังมีปัญหาภายในมากมาย เนื่องจากการทำทีมฟุตบอลอาชีพในระดับลีกสูงสุดนั้น ต้องใช้เม็ดเงินมหาศาล หลายทีมยังดิ้นรนหาเงิน ซึ่งยังไม่แน่ใจว่าจะมีเพียงพอจนการแข่งขันสิ้นสุดหรือไม่ ลำพังจะหวังเงินจากค่าผ่านประตู ในการเป็นเจ้าบ้านอย่างเดียวคงไปไม่พอ เนื่องจากค่าผ่านประตูที่เก็บค่อนข้างถูก หากเก็บแพงแฟนบอลจะน้อย ด้วยสภาพเศรษฐกิจที่คนไทยต้องดิ้นรนต่อสู้หาเงินเลี้ยงครอบครัว อาจส่งผลกระทบให้แฟนบอลที่จะซื้อบัตรหรือต้องเสียเงิน เพื่อเข้าไปชมและเชียร์ในสนาม อาจจะน้อยลงไปจากปี 2553 ก็เป็นไปได้ ปี 2554 ฟุตบอลลีกอาชีพเมืองไทยจะบูมหรือไม่ต้องติดตาม


ขอขอบคุณข้อมูลจาก




เรื่องที่คุณอาจสนใจ
ปีเสือบอลลีกอาชีพไทยบูม อัปเดตล่าสุด 1 มกราคม 2554 เวลา 16:25:18 6,804 อ่าน
TOP