ไม่แคร์!เชื่อสูตร375:125ไร้ปัญหา (ไทยโพสต์)
"ทศกัณฐ์กรำศึก" ไม่แคร์เพื่อน เชื่อสูตร 375:125 ไร้ปัญหา ก.พ.ชำเรา รธน.เสร็จแน่ "เทพไท" แจง ปชป.ไม่ได้เปรียบ แขวะเพื่อไทยกลับลำโหวตหวังผลการเมือง "ตู่" ยันถึงเวลาเหมาะสมเปิดตัวหัวหน้าพรรคแน่
กระแสการแก้ไขรัฐธรรมนูญ โดยเฉพาะสัดส่วนของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) ระบบเลือกตั้ง และระบบบัญชีรายชื่อ ยังเป็นข้อถกเถียงอยู่ โดยล่าสุดมีกระแสข่าวว่าพรรคเพื่อไทย (พท.) เตรียมจับมือกับพรรคร่วมรัฐบาลเพื่อผลักดันกลับไปยังสูตรเดิมคือ 400:100 แทนที่ข้อเสนอของคณะกรรมาธิการพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญปี 2550 ที่เสนอสูตร 375:125
โดยนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีและเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าวเรื่องนี้ว่า ไม่มีอะไรหนักใจ ทุกอย่างว่าไปตามกฎเกณฑ์กติกา ส่วนที่พรรคร่วมไปจับมือกับพรรคเพื่อไทยนั้น ไม่คาดการณ์อะไรในทางที่เป็นปัญหา หน้าที่คือคาดการณ์อะไรในทางที่เรียบร้อย และพยายามทำให้มันเรียบร้อย "ผมมั่นใจว่ากฎหมายรัฐธรรมนูญจะผ่าน" นายสุเทพยืนยันถึงกำหนดเวลาการแก้ไข รธน.ที่จะผ่านในเดือนกุมภาพันธ์นี้แน่นอน"
นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะ กมธ.พิจารณาแก้ไขรัฐธรรมนูญปี 2550 กล่าวถึงเสียงวิจารณ์สูตร 375:125 ที่จะทำให้เกิดความได้เปรียบเสียเปรียบว่า ไม่มี จำนวน ส.ส.เขตลดลง 25 คนก็กระจายไปทั่วทุกภาคตามสัดส่วน ซึ่งการกล่าวหาว่า ปชป.ได้ประโยชน์ เพราะภาคใต้ลดจำนวน ส.ส.เพียง 4 คนนั้นก็ไม่จริง ถ้าดูจำนวน ส.ส.แต่ละภาคกับจำนวนเขตที่ลดลงโดยสัดส่วนแล้วมีความใกล้เคียงกัน เช่น พื้นที่ กทม. มี ส.ส. 36 คน ลดลง 2 คน ภาคเหนือมี ส.ส. 76 คน ลดลง 7 คน ภาคอีสานมี ส.ส. 136 คน ลดลง 9 คน ภาคใต้มี ส.ส. 50 คน ลดลง 4 คน
นายเทพไทยังกล่าวถึงกรณีพรรคเพื่อไทยออกมาผสมโรงว่าจะกลับลำโหวตหนุนรูปแบบ 400:100 ว่า เป็นเรื่องของเกมการเมืองที่ยุยงให้เกิดความแตกแยกระหว่างพรรคร่วมรัฐบาล เพราะพรรคเพื่อไทยไม่ได้เข้าร่วมการแก้ไข รธน.มาตั้งแต่ต้น ไม่ได้ลงมติรับหลักการในวาระแรก ไม่ร่วมเป็น กมธ. และระหว่างการพิจารณาของ กมธ.ได้เชิญหัวหน้าพรรคเพื่อไทยมาแสดงความคิดเห็นก็ไม่ได้รับความร่วมมือ
"วันนี้มีหน้ามาประกาศว่าไม่วอล์กเอาต์ในวาระที่ 2 และ 3 พร้อมกับจะยกมือหนุนสูตรดังกล่าวด้วย แต่โฆษกพรรคกลับประกาศว่าจะไม่ร่วมสังฆกรรม และไม่ออกเสียงในวาระที่ 2 และ 3 ไม่ว่าที่มา ส.ส.จะเป็นอย่างไร จึงขอถามถึงจุดยืนของพรรคเพื่อไทยว่าจะเอาอย่างไรกัน ควรเปลี่ยนชื่อพรรคใหม่ว่าพรรคจับฉ่ายแทนจะดีกว่า" นายเทพไทกล่าว
สำหรับกระแสการหาหัวหน้าพรรคเพื่อไทยนั้น นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีนายเทพไทปูดข่าวว่าจะมีคนโน้นคนนี้มาเป็นหัวหน้าพรรคเพื่อไทยว่า ขอบอกว่ามันไม่ใช่กงการอะไรของคุณ ควรกลับไปยุ่งกับคนในพรรคที่ถูกจับเข้าคุกมากกว่า วันนี้คนที่จะมาเป็นนายกฯ ของพรรคเพื่อไทยจะไม่เป็นหัวหน้าและกรรมการบริหารพรรคเด็ดขาด เพราะถ้าทำก็เหมือนเอาคอไปวางบนเขียง และยืนยันว่าเราจะไม่มีการแก่งแย่งแต่อย่างใด ส่วนที่มีตัวเลือกหลายคนนั้น ก็สะท้อนว่าเรามีบุคลากรที่มีความสามารถหลายคน
"วันนี้ไม่ได้มีปัญหาเรื่องหัวหน้าพรรค และว่าที่นายกฯ เมื่อถึงเวลาจะประกาศแน่นอน เราเข้าใจดีว่าไม่ใช่พวกเส้นใหญ่ผัดซีอิ๊ว ไม่มีอำนาจเร้นลับมาช่วย ซึ่งพรรคประชาธิปัตย์จะยุบสภาวันไหนเป็นเรื่องของเขา แต่ส่วนตัวไม่อยากให้ยุบ เพราะยิ่งอยู่นาน พรรคยิ่งได้คะแนนเสียงมากเท่านั้น และวันอภิปรายไม่ไว้วางใจจะจับโกหกนายอภิสิทธิ์ และนายสุเทพ เพราะแค่ครั้งที่แล้วก็แทบจะไม่มีแผ่นดินอยู่แล้ว" นายจตุพรโว
ด้านนายเทพไทกล่าวเรื่องนี้ว่า พรรคเพื่อไทยยังมีความไม่ตกผลึก โดยเฉพาะกรณีคนมาเป็นหัวหน้าพรรค และมีการดิสเครดิตระหว่างกลุ่ม โดยกลุ่มเชลียร์นายใหญ่ก็สนับสนุน น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร กลุ่มนายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ ก็ออกมาอ้างสัญญาณไฟเขียวจากนายใหญ่ ส่วนกลุ่ม ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง และ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ก็ส่งลูกน้องให้สัมภาษณ์ตีกันตลอดเวลา และอีกบางส่วนก็โยนหินถามทาง ปล่อยชื่อนายวีรพงษ์ รามางกูร ออกมาสร้างกระแส
"ยังมีกลุ่ม ส.ส.ที่หวังไต่เต้าและหวังฟลุกทางการเมือง เช่น นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล ส.ส.แพร่, พ.อ.อภิวันท์ วิริยะชัย ส.ส.นนทบุรี, นายวิทยา บุรณศิริ ส.ส.อยุธยา ล้วนแต่แอบฝันหวานที่จะเสียบเป็นหัวหน้าพรรคเช่นกัน ทั้งหมดแสดงว่าพรรคเพื่อไทยยังไม่พร้อมลงสู่สนามเลือกตั้ง การประกาศท้าทายให้รัฐบาลยุบสภาโดยเร็วจึงเป็นแค่การสร้างภาพและหวังผลทางการเมืองเท่านั้น ทั้งที่ความเป็นจริงก็แค่พวกปากกล้าแต่ขาสั่น" นายเทพไทกล่าว
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
