น้ำป่าไหลหลากฉับพลัน ออสเตรเลีย
น้ำป่าไหลหลากฉับพลัน ออสเตรเลีย
ชี้ต้นเหตุน้ำท่วมออสซี่ ผลพวงภาวะโลกร้อน (ไทยโพสต์)
นักวิทยาศาสตร์วิเคราะห์สาเหตุน้ำท่วมออสเตรเลียน่าจะมาจากภูมิอากาศโลกที่เปลี่ยนแปลงไป คาดว่าจะยังมีฝนตกชุกต่อไปในรัฐควีนส์แลนด์อีกหลายสัปดาห์
นักวิทยาศาสตร์ออกมาชี้ว่า ปรากฏการณ์โลกร้อนส่งผลให้เกิดภัยแล้งและน้ำท่วมที่รุนแรงมากขึ้น แม้จะยังไม่สามารถสรุปได้ว่าจะส่งผลกระทบให้เกิดปรากฏการณ์ลานีญาและเอลนีโญมีความรุนแรงขึ้นจนสภาพอากาศปั่นป่วนไปทั่วโลกหรือไม่
แมทธิว อิงแลนด์ จากศูนย์วิจัยการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศแห่งมหาวิทยาลัยนิวเซาท์เวลส์ในซิดนีย์ กล่าวว่า ตอนนี้ทะเลรอบๆ ออสเตรเลียมีอุณหภูมิสูงที่สุดเท่าที่เคยมีการวัดมา ซึ่งส่งผลให้มีความชื้นสูงในบรรยากาศรอบ ๆ รัฐควีนส์แลนด์ และตอนเหนือของออสเตรเลีย
ส่วนอุทกภัยในรัฐควีนส์แลนด์ คร่าชีวิตผู้คนไปแล้ว 16 รายในขณะนี้ เนื่องจากฝนตกหนักต่อเนื่องมาตั้งแต่ต้นเดือนที่แล้ว ทำให้เกิดน้ำท่วมตามเมืองต่าง ๆ เช่น เมืองบริสเบน เมืองหลวงของรัฐ
มีการวิเคราะห์ว่า สาเหตุของอุทกภัยทั่วโลกมาจากกระแสน้ำเย็นลานีญามีความรุนแรงขึ้น ทำให้เมื่อลมตะวันออกจากกระแสน้ำเย็นมาปะทะกับกระแสน้ำอุ่นในทะเลแปซิฟิกตะวันตกรอบ ๆ ออสเตรเลีย จึงเกิดฝนตกหนักในบริเวณทะเลแปซิฟิกใต้
เดวิน โจนส์ ผู้อำนวยการศูนย์ตรวจสอบสภาพอากาศแห่งกรมอุตุฯ ออสเตรเลีย กล่าวว่า ขณะนี้ปรากฏการณ์เอลนีโญและลานีญากำลังเปลี่ยนแปลงไปเพราะสภาพอากาศโลกที่ร้อนขึ้น และเตือนว่าภัยแล้งกับน้ำท่วมจะรุนแรงมากขึ้นกว่าที่เคยเป็นมาในอดีต
เควิน เทรนเบิร์ธ นักวิทยาศาสตร์สภาพภูมิอากาศของสหรัฐ กล่าวว่า ปรากฏการณ์น้ำท่วมเกิดจากหลายปัจจัยด้วยกัน โดยชี้ว่าอุณหภูมิน้ำทะเลที่สูงประกอบกับปรากฏการณ์ลานีญาที่เกิดขึ้นต่อเนื่องจากเอลนีโญอย่างรวดเร็ว ทำให้เกิดน้ำท่วมในหลายภูมิภาค
เทรนเบิรธ์สรุปว่า อุณหภูมิพื้นผิวทะเลที่เปลี่ยนแปลงทุก 1 องศาเซลเซียส เพิ่มโอกาสที่จะเกิดฝนตก 10-15% ซึ่งขณะนี้อุณหภูมิพื้นผิวทะเลรอบออสเตรเลียโดยเฉลี่ยอยู่ที่ 0.5 องศาเซลเซียส สูงขึ้นกว่าระดับที่วัดในยุค 2510 ถึง 1.5 องศาเซลเซียส
อย่างไรก็ตาม นักวิทยาศาสตร์บางคนแย้งว่า ยังเร็วไปที่จะสรุปว่าสภาพภูมิอากาศที่เปลี่ยนแปลงนำมาซึ่งอุทกภัยต่าง ๆ เนวิลล์ นิโคลส์ จากมหาวิทยาลัยโมนาชในเมลเบิร์น แย้งว่า นี่เป็นเพียงปรากฏการณ์ธรรมชาติ เพราะยังไม่มีหลักฐานชี้ชัดว่าปรากฏการณ์ต่าง ๆ เป็นเพราะน้ำมือมนุษย์ แต่ก็ยอมรับว่าอุณหภูมิโลกโดยเฉลี่ยที่สูงขึ้น 0.75 องศาเซลเซียส ส่งผลกระทบให้เกิดภัยพิบัติต่าง ๆ
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก ctv.ca, whitelightbringer's Channel
