ครม. อนุมัติกรอบงบกลางปี 54 ที่ 1.1 แสนล้านบาท เป็นเงินชดเชยเงินคงคลัง 8.4 หมื่นล้านบาท และงบฟื้นฟูภัยธรรมชาติ ประมาณ 1.7 หมื่นลบ. เล็งนำเข้า ครม. เพื่อหาข้อสรุปสัปดาห์หน้า
นายกรณ์ จาติกวณิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรีในวันนี้ว่า ที่ประชุมได้อนุมัติกรอบงบประมาณ ปี 2554 โดยกำหนดวงเงินไว้ไม่เกิน 110,000 ล้านบาท ซึ่งจะเป็นการชดเชยเงินคงคลังไว้ที่ 84,000 ล้านบาท หลังจากการเก็บรายได้ของรัฐบาลในช่วง 3 เดือนแรกของปีงบประมาณนั้น สามารถจัดเก็บได้เกินเป้ากว่าร้อยละ 10.4 หรือคิดเป็นเงินกว่า 40,000 ล้านบาท อย่างไรก็ตามในส่วนของงบกลางปีนั้น จะยังมีงบในส่วนของการฟื้นฟูภัยธรรมชาติหลายพื้นที่ทั้งอุทกภัยและวาตภัย ซึ่งคาดว่า จะมีวงเงินอยู่ที่ประมาณ 17,000 ล้านบาท ซึ่งงบกลางปีนี้จะได้ข้อสรุปที่ชัดเจนว่า จะมีวงเงินเท่าใดนั้น จะมีการนำเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีในสัปดาห์หน้า เพื่อพิจารณาต่อไป
นายกรณ์ กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า ส่วนเรื่องการจัดตั้งธนาคารท่องเที่ยวนั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างการศึกษาว่า จะให้มีการจัดตั้งหรือไม่ หรือจะปรับปรุงในส่วนของธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม หรือ SME BANK โดยในเรื่องนี้ได้มอบหมายให้ทางสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง หรือ สปค. เร่งไปศึกษาหาความเหมาะสม
นอกจากนี้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีมีมติให้ต่ออายุการประกาศใช้ พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ต่อไปอีก 3 เดือน เริ่มตั้งแต่วันที่ 20 ม.ค.นี้ ยกเว้นที่ อ.แม่ลาน จ.ปัตตานี ที่ยกเลิกไปแล้ว
[18 มกราคม]สมช.ชงครม.ต่ออายุพ.ร.ก.ฉุกเฉิน3จว.ใต้
เลขาฯสมช. เตรียมเสนอ ครม. ต่ออายุ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ อีก 3 เดือน ยกเว้น อ.แม่ลาน จ.ปัตตานี รับ อาจมีคนลองของบ้าง
นายถวิล เปลี่ยนศรี เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ หรือ สมช. เปิดเผยว่า วันนี้ จะมีการเสนอให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี พิจารณาต่ออายุการประกาศใช้ พระราชกำหนดบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่จะครบกำหนดในวันที่ 19 ม.ค. นี้ ยกเว้นอำเภอแม่ลาน จังหวัดปัตตานี ที่ได้ประกาศยกเลิกไปแล้วก่อนหน้านี้ ออกไปอีก 3 เดือน โดยยืนยันว่า รัฐบาลมีความตั้งใจที่จะทยอยยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ในทุกพื้นที่ เพื่อกลับมาใช้กฎหมายปกติ โดยยอมรับว่า ในช่วงแรกอาจมีผู้ที่ลองของบ้าง แต่ในระยะยาวเชื่อว่าจะมีแนวร่วมกลับใจเป็นจำนวนมาก
นอกจากนี้ นายถวิล กล่าวถึงการชุมนุมของกลุ่มคนไทยหัวใจรักชาติ ว่า เป็นสิทธิ์ที่สามารถทำได้ ภายใต้ขอบเขตของกฎหมาย โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจให้การดูแลอยู่ และเชื่อว่าจะควบคุมเหตุการณ์ได้ โดยยังไม่จำเป็นต้องใช้กฎหมายพิเศษ รวมถึงการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรฯ ในวันที่ 25 ม.ค. นี้ ทั้งนี้ยอมรับว่า เป็นเรื่องที่ยังมีจุดอ่อน ที่กฎหมายเกี่ยวกับการชุมนุมในที่สาธารณะ ยังไม่ผ่านการพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎร ทำให้ไม่มีกฎหมายดูแลในเรื่องนี้ โดยไม่กระทบกับสิทธิเสรีภาพของประชาชน