ไฟใต้ทำความสุขลดวูบ รวบ 8วัยรุ่นส่อพันปล้นปืน! (ไทยโพสต์)
"อภิสิทธิ์" ยืนกระต่ายขาเดียว แก้ไฟใต้มาถูกทาง เห็นตรง "กองทัพ" ไม่ตกเป็นหลุมโจร จุดพลุความรุนแรงนำสู่โอไอซี เตรียมคลอดระเบียบติดดาบเลขาธิการ ศอ.บต. โพลล์ระบุปัญหาใต้ทำให้ความสุขคนไทยโดยรวมลดวูบ "แม่ทัพภาค 4" รวบ 8 วัยรุ่นส่อเค้าพันปล้นปืน เผย "อส." เป้าหลักลอบสังหาร
การปล้นอาวุธและโจมตีฐานปฏิบัติการ ฉก.นราธิวาส 38 เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ทำให้ปัญหาความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ระอุขึ้นมาอีกครั้ง โดยนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวในรายการเชื่อมั่นประเทศไทยกับนายกฯ อภิสิทธิ์ ถึงเรื่องดังกล่าวว่า ยังเดินหน้าตามแนวทางซึ่งเรามั่นใจว่าจะเดินหน้าได้อย่างยั่งยืน คือการยึดเรื่องพัฒนาและยึดเรื่องการอำนวยความยุติธรรม ซึ่งแนวทางนี้ทำให้สถิติความรุนแรงลดลงชัดเจน แม้ไม่มากอย่างที่ต้องการก็ตาม
"เหตุการณ์ที่นราธิวาสเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอยู่หลายๆ พื้นที่ใน 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยช่วงนี้ฝ่ายตรงข้ามพยายามยั่วยุทำให้เกิดความรุนแรง เพื่อนำเหตุการณ์ตรงนี้ไปเป็นเงื่อนไขในการประชุมประเทศมุสลิมหรือโอไอซีในเดือนมีนาคม ซึ่งรัฐบาลและกองทัพได้มีการหารือกันชัดเจนว่า แนวทางของเราจะไม่ไขว้เขวหรือตกเป็นเหยื่อของการยั่วยุ แต่จะปรับปรุงประสิทธิภาพการดูแลความมั่นคงหรือความปลอดภัยของประชาชน" นายอภิสิทธิ์กล่าว
นายกฯ ยังระบุว่า ในวันร์ที่ 24 ม.ค.นี้ จะประชุมคณะกรรมการด้านการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ กพต. เป็นครั้งแรกตามกฎหมายใหม่ที่มีผลบังคับใช้ ซึ่งจะมีการพิจารณาระเบียบต่างๆ โดยเฉพาะการให้เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) สามารถเอาข้าราชการที่ปฏิบัติตนไม่ดี ไม่เป็นธรรม รังแกประชาชนในพื้นที่ออกจากพื้นที่ได้
มีรายงานว่า ในวันที่ 24 ม.ค. กระทรวงมหาดไทยจะรายงานให้คณะรัฐมนตรีรับทราบโครงการติดตั้งระบบกล้องวงจรปิด หรือ CCTV ใน 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ วงเงิน 969 ล้านบาทด้วย
นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า เหตุการณ์โจมที่นราธิวาสสะท้อนถึงการทำงานที่ล้มเหลวของรัฐบาล โดยมีเพียงการเหวี่ยงงบประมาณลงพื้นที่ จึงถึงเวลาที่นายอภิสิทธิ์ควรใช้ภาวะผู้นำทบทวนผู้รับผิดชอบด้านความมั่นคง ทั้งนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และควรหันมาแก้ไขปัญหาไฟใต้อย่างจริงจังเสียที เลิกแก้ปัญหาการเมืองได้แล้ว
ยังมีการสำรวจความคิดเห็นของเอแบคโพลล์ ที่สำรวจประชาชน 17 จังหวัดทั่วประเทศ จำนวน 2,218 ครัวเรือน ในเรื่องความสุขของประชาชนในสถานการณ์ปัจจุบัน พบว่า ปัญหาภาคใต้ได้ฉุดให้ความสุขมวลรวมที่เคยสูงถึง 8.37 คะแนนในเดือน ธ.ค. มาอยู่ที่ 5.28 คะแนน ในการสำรวจครั้งล่าสุด โดยเมื่อนึกถึงสถานการณ์ในพื้นที่ประชาชนมีความสุขเพียง 1.04 คะแนน จากคะแนนเต็ม 10 เท่านั้น
ด้านความเคลื่อนไหวในพื้นที่นั้น ที่อาคารกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ค่ายสิรินธร จ.ปัตตานี พล.ท.อุดมชัย ธรรมสาโรรัชต์ แม่ทัพภาคที่ 4 ได้ชี้แจงถึงเหตุการณ์โจมตีฐานปฏิบัติการ กองร้อยทหารราบที่ 15121 สังกัด ฉก.38 เมื่อวันที่ 19 ม.ค.ว่า มีกองกำลังไม่ต่ำกว่า 40 คน ซึ่งวางแผนอย่างดี
เข้าโจมตี โดยมีการปะทะนาน 30 นาที ทำให้เจ้าหน้าที่เสียชีวิต 4 นายบาดเจ็บ 6 นาย อาวุธปืนและเครื่องกระสุนหายไปจำนวนหนึ่ง แต่ยังไม่สามารถระบุชัดเจนได้ เพราะมีบางส่วนที่เสียหายจากการถูกเผา
"เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เจ้าหน้าที่จะไม่หลงกลกับดักของฝ่ายตรงข้าม ที่ปฏิบัติการทางทหารครั้งนี้ เพื่อยั่วยุให้ใช้ความรุนแรงกับพี่น้องประชาชน หวังให้หยุดนโยบายการสร้างความเจริญ สร้างความสันติสุข" พล.ท.อุดมชัยกล่าว และว่า จะเร่งรัดติดตามอาวุธที่หายไป รวมทั้งไล่ล่าผู้เกี่ยวข้อง ซึ่งเมื่อวันที่ 22 ม.ค. สามารถควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยและจะขยายผลต่อไปว่าเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์หรือไม่
สำหรับการปล่อยข่าวเกี่ยวกับข้อมูลว่ามีเกลือเป็นหนอนนั้น แม่ทัพภาคที่ 4 ระบุว่า เป็นเรื่องของการสร้างความแตกแยกระหว่างคนไทยและเจ้าหน้าที่ไทยพุทธ กับพี่น้องไทยมุสลิมและเจ้าหน้าที่มุสลิม แต่ก็ต้องตรวจสอบข้อเท็จจริงกันต่อไปตามปกติ
ส่วนการปูพรมตรวจหากลุ่มคนร้ายนั้น ล่าสุดกองกำลังกว่า 400 นาย ได้ปิดล้อมตรวจค้นหมู่บ้านต้องสงสัยและบ้านกลุ่มแนวร่วมในพื้นที่ ต.ตันหยงมัส ต.เฉลิม และ ต.มะรือโบตก อ.ระแงะ ซึ่งได้ควบคุมตัวกลุ่มวัยรุ่นต้องสงสัย 8 คน พบว่าบางคนมีร่องรอยบาดแผลและรอยขีดข่วนตามร่างกาย รวมทั้งบาดแผลพุพองจากการถูกความร้อนตามลำคอ จึงได้เชิญทั้ง 8 คนไปยังศูนย์ซักตามค่ายบ่อทอง อ.หนองจิก จ.ปัตตานีแล้ว ส่วนการไล่ล่ากลุ่มคนร้ายบนเทือกเขาบูโด ยังพบผ้าพันคอและร่องรอยเศษอาหาร เครื่องอุปโภคบริโภคของกลุ่มคนร้ายด้วย
นายกฤษฎา บุญราช ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา กล่าวว่า ได้ประสานฝ่ายความมั่นคงร่วมสนธิกำลังฝ่ายปกครองในพื้นที่แกะรอยและหาข้อมูลเชิงลึกเพื่อสกัดกั้นการก่อเหตุและเพื่อป้องกันความปลอดภัยให้กับประชาชนเต็มที่แล้ว หลังมีข่าวการก่อเหตุขึ้น และยังให้เพิ่มความเข้มงวดในการดูแลรักษาความปลอดภัยสถานที่และตรวจสอบความสงบเรียบร้อยอย่างเคร่งครัดทั้งตามพื้นที่ชุมชน สถานที่ราชการ และเส้นทางสำคัญต่างๆ เป็นกรณีพิเศษด้วย
เจ้าหน้าที่หน่วยข่าวความมั่นคงจังหวัดชายแดนภาคใต้ กล่าวว่า กลุ่มก่อความไม่สงบมีเป้าหมายซุ่มโจมตีสังหารอาสาสมัครต่างๆ ที่เข้มข้นขึ้น เนื่องจากทางการมีนโยบายใช้ประชาชนในพื้นที่เข้าเป็นกำลังพลอาสามัคร และยังมีนโยบายมอบอาวุธให้อาสาสมัครจังหวัดละประมาณ 700800 กระบอก จึงเป็นเป้าหมายของกลุ่มก่อความไม่สงบ
นอกจากนี้ ยังพบว่ามีกลุ่มนายหน้ามาติดต่อขอซื้อสวนยางและสวนผลไม้จำนวนมาก แต่กลับให้ราคาที่ต่ำมาก รวมทั้งไม่ยอมเปิดเผยผู้ซื้อ และยังมีการข่มขู่ในการซื้อขายด้วย จึงต้องการให้ภาครัฐมาตรวจสอบด้วย
ด้านเหตุการณ์ความไม่สงบรายวันนั้น ที่จังหวัดนราธิวาส มีคนร้ายได้ลอบยิงศีรษะและปาดคอซ้ำนายช่วย พรหมสอน อายุ 69 ปี ชาวสวนปาล์ม ระหว่างเดินทางไปดูแลสวน รวมทั้งยังได้ขโมยจักรยานยนต์ของผู้ตายไปด้วย ส่วนที่ปัตตานี คนร้ายก็ใช้อาวุธปืน 11 มม. ยิงอาสาสมัครอับดุลรอแม ดอเลาะ อายุ 47 ปี 3 นัด จนเสียชีวิตคาที่ ขณะออกจากบ้านเพื่อไปเข้าเวรในเขตเทศบาลปะนาเระ
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
