เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
เมื่อวันที่ 20 มกราคมที่ผ่านมา สำนักข่าวรอยเตอร์ส รายงานว่า ประเทศอิหร่านสั่งแบนของขวัญวันวาเลนไทน์ และการโปรโมทต่าง ๆ เกี่ยวกับเทศกาลแห่งความรัก เนื่องจากเห็นว่าเป็นวัฒนธรรมของชาวตะวันตก
โดยการแบนของขวัญวันวาเลนไทน์ และการจัดเทศกาลวาเลนไทนี้ ทางการอิหร่านได้ให้เหตุผลว่า เทศกาลวาเลนไทน์เป็นเทศกาลของชาวคริสต์ ซึ่งไม่ได้เกี่ยวกับอิสลามแต่อย่างใด ในประเทศอิหร่านนั้นมีอารยธรรมเก่าแก่ และมีวันสำคัญที่เกี่ยวกับความรัก ความดี หลายวันเช่นกัน จึงไม่จำเป็นต้องทำอะไรไปตามกระแสของวัฒนธรรมตะวันตก
ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา วันวาเลนไทน์ถือเป็นวันที่มีอิทธพลต่อวัยรุ่นชาวอิหร่านมากมาย และขณะเดียวกันมันก็เป็นเทศกาลที่สร้างรายได้ให้กับธุรกิจขายของที่ระลึกได้มากมายเช่นกัน และชาวอิหร่านก็ให้ความสำคัญกับวันวาเลนไทน์ไม่แพ้ชาติอื่น ๆ ทั่วโลก ถึงแม้ว่าอิหร่านจะเคยมีความขัดแย้งกับสหรัฐฯ และทางการอิหร่านก็ต่อต้านสหรัฐฯ อย่างเป็นทางการด้วย แต่ดูเหมือนว่าความจริงข้อนี้จะถูกลบลืมไป ชาวอิหร่านส่วนใหญ่หลงลืมการปฏิวัติอิสลามเมื่อปี ค.ศ. 1979 ไปอย่างสิ้นเชิง กลับนิยมชมชอบอเมริกามากขึ้น และได้รับอิทธิพลจากอเมริกาไม่แพ้ชาติอื่น ๆ
ด้วยเหตุนี้ เพื่อให้ประชาชนได้ตระหนักถึงความเป็นชาติมากขึ้น และไม่ลืมว่าตนก็มีอารยธรรมของตัวเองมายาวนาน ทางรัฐบาลจึงสั่งแบนสินค้าสื่อความรักทุกอย่าง ทั้งสินค้ารูปหัวใจ ดอกกุหลาบแดง การ์ดวาเลนไทน์ และทุก ๆ กิจกรรมที่มีขึ้นเพื่อโปรโมทวันแห่งความรักนี้ ซึ่งหากใครฝ่าฝืน ทางการก็จะมีบทลงโทษต่อไป
รวมเรื่องน่ารู้เกี่ยวกับวันวาเลนไทน์ และเรื่องความรัก คลิกอ่านความคิดเห็นของเพื่อน ๆ ได้ที่นี่ค่ะ
