เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก ไทยโพสต์ , camnews.org
สำนักข่าวเอพีแฉซ้ำ พบทหารกัมพูชาหลายร้อยนายอยู่ภายในพระวิหารและวัดแก้วสิกขาคีรีสวาระ นอกจากนี้ยังมีการเตรียมพร้อมในการทำสงครามกับฝ่ายไทย
หลังจากที่ฝ่ายไทยได้มีการทักท้วงไปยังยูเนสโกว่า กัมพูชามีการใช้พื้นที่บริเวณปราสาทเขาพระวิหาร สถานที่อันเป็นมรดกโลกเป็นบังเกอร์ ในการตั้งกองกำลังต่อสู้กับทหารไทย แต่ในขณะเดียวกัน สมเด็จฮุน เซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ก็ออกมาปฏิเสธและโต้กลับว่า กัมพูชาไม่เคยและจะไม่มีทหารที่ปราสาทพระวิหาร ซึ่งเป็นสถานที่สำหรับการสักการะบูชา และการท่องเที่ยว ตลอดเวลาที่ผ่านมา มีเพียงเจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมอาวุธเบาเพียงไม่กี่นาย เพื่อดูแลความปลอดภัย โดยรอบปราสาทพระวิหารเท่านั้น
เกี่ยวกับเรื่องนี้ สำนักข่าวรอยเตอร์ ได้รายงานว่า จริง ๆ แล้ว ผู้สื่อข่าวได้พบทหารกัมพูชาหลายร้อยนายอยู่ภายในพื้นที่ปราสาทเขาพระวิหารและวัดแก้วสิกขาคีรีสวาระ พร้อมกันนี้ทหารเหล่านี้ยังมีอาวุธครบมือ มีการเตรียมพร้อมในการทำสงครามกับฝ่ายไทย ทั้งการตั้งบังเกอร์ เล็งประบอกปืนขนาด 81 มิลลิเมตร มายังประเทศไทย
นอกจากนี้ สำนักข่าวรอยเตอร์ ยังระบุด้วยว่า คำกล่าวอ้างของกัมพูชาที่ว่า ระเบิดจากฝั่งไทยได้ทำลายปราสาทเขาพระวิหารส่วนหนึ่งนั้น ไม่เป็นความจริง เพราะไม่มีภาพใดที่แสดงให้เห็นว่า ปราสาทเขาพระวิหารพังทลายตามที่กัมพูชาประกาศไปทั่วโลก มีแต่เพียงรอยกะเทาะของหินบางส่วนเท่านั้น
เช่นเดียวกับที่ สำนักข่าวเอพี ได้ออกมาแฉตามสำนักข่าวรอยเตอร์ โดยมีการเปิดเผยว่า บรรยากาศรอบพระวิหาร มีการเสริมบังเกอร์ที่ทำจากถุงทรายอย่างแข็งแรง ทหารที่ตั้งกองกำลังอยู่โดยรอนนั้น แต่งกายในชุดพรางทหาร อยู่ในบังเกอร์ที่ถูกปกคลุมด้วยผ้าใบกันน้ำทางทหาร ซึ่งทหารรายหนึ่งของกัมพูชาได้เปิดเผยว่า มีทหารกัมพูชาประจำอยู่ในหลายจุด และทหารที่อยูในวัดแก้วสิกขาคีรีสวาระ ก็ได้ย้ายมาประจำการตั้งแต่วันศุกร์ ที่ 4 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา
สำนักข่าวเอพียังระบุอีกว่า เห็นอาวุธวางซ้อน ๆ กันเป็นจำนวนมาก ทั้งปืนใหญ่และหัวจรวดพิงกับกำแพงวัด, ท่อปืนขนาด 81 มิลลิเมตร อยู่ในตำแหน่งที่ชี้ไปทางประเทศไทย ซึ่งตั้งอยู่ในหุบเขาลึก จากชายแดนกัมพูชา
พร้อมกับยืนยันว่า กัมพูชามีการใส่ร้ายป้ายสีว่า ทหารไทยได้ยิงถล่มสร้างความเสียหายให้กับเขาพระวิหาร และวัดแก้วสิกขาคีรีสวาระ จำนวนมาก แต่กลับพบเพียงกำแพงที่มีร่องรอยเศษกระสุนที่แหว่งไปบางส่วนของกำแพงโบราณเล็กน้อย ไม่มีจุดใดที่เสียหายทางโครงสร้างขนาดใหญ่แต่อย่างใด จนทำให้ยูเนสโกเตรียมส่งเจ้าหน้าที่มาดูแล ตามที่กัมพูชาได้รายงานไป แต่ล่าสุด รายงานข่าวของสื่อต่างประเทศ รายงานว่า ยูเนสโกได้ระงับแผนการส่งทีมเข้าตรวจสอบสภาพข้อเท็จจริง ที่เขาพระวิหารเรียบร้อยแล้ว