การปะทะกันระหว่างกลุ่มผู้ประท้วงในอียิปต์
เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก blogspot , dailystandard , wordpress , commieblaster,see-and-do-france , channel4.com , fdr-stalin-holodomor
ช่วง 2 สัปดาห์ก่อน เราคงได้ยินข่าวการประท้วงของประชาชนชาวอียิปต์ ณ จัตุรัสทาห์รีร์ ในกรุงไคโร จนในที่สุด ประธานาธิบดีฮอสนี มูบารัค ซึ่งครองอำนาจมาถึง 30 ปี ต้องประกาศลาออก เพื่อยุติเหตุการณ์ความรุนแรงทั้งหมด
และนี่เป็นเพียงหนึ่งในเหตุการณ์ประท้วงครั้งยิ่งใหญ่ ที่ถูกบันทึกไว้ในหน้าประวัติศาสตร์เท่านั้น เพราะที่ผ่านมาประวัติศาสตร์โลกเคยบันทึกเหตุการณ์ประท้วงครั้งสำคัญไว้มากมาย ซึ่งนิตยสาร ไทมส์ ก็ได้จัดอันดับ 10 สถานที่ประท้วงที่โด่งดังที่สุดในโลก มาดูกันดีกว่าการประท้วงของมวลชนครั้งใด ติดอันดับบ้าง
อันดับที่ 10 จัตุรัสยูเนี่ยน นิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา
เมื่อวันที่ 20 เมษายน ปี 1861 ประชาชนเกือบ 1 แสนคน ได้มารวมตัวกันที่จัตุรัสยูเนี่ยน กลางนครนิวยอร์ก ในช่วงเกิดเหตุการณ์สงครามกลางเมือง ซึ่งการรวมตัวครั้งนั้น ถือเป็นการรวมตัวครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของอเมริกาเลยทีเดียว
อันดับที่ 9 จัตุรัสอินดิเพนเดนท์ กรุงเคียฟ ประเทศยูเครน 
หลังจากที่นายวิคเตอร์ ยานูโควิช เอาชนะนายวิคเตอร์ ยูชเชนโก้ ในการเลือกตั้งเมื่อปี 2004 ไปอย่างน่ากังขา ก็ทำให้ชาวยูเครนนับหมื่นคนไม่พอใจ ออกมาสวมเสื้อสีส้มซึ่งเป็นสีประจำพรรคการเมืองของนายยูชเชนโก้ รวมตัวประท้วง ณ จัตุรัสอินดิเพนเดนท์ จนถูกขนานนามว่า "การปฏิวัติสีส้ม" และในที่สุด ศาลสูงยูเครนก็ตัดสินให้จัดการเลือกตั้งใหม่ ก่อนที่นายยูชเชนโก้จะกลับมาชนะไปในที่สุด
อันดับที่ 8 จัตุรัสทราฟัลการ์ ลอนดอน ประเทศอังกฤษเมื่อปี 1887 เจ้าหน้าที่ตำรวจกว่า 4 พันคนเข้าปะทะกับกลุ่มผู้ประท้วงนับหมื่นคนที่ออกมาต่อต้านการเลิกจ้างงานที่จัตุรัสแห่งนี้ ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก และจัตุรัสแห่งนี้ ก็กลายเป็นสัญลักษณ์ของการชุมนุมประท้วงไปโดยปริยาย เพราะจนถึงวันนี้ ที่แห่งนี้ก็ยังเป็นที่รวมตัวกันของผู้ประท้วงหลาย ๆ กลุ่ม
อันดับที่ 7 จัตุรัสดีเซมบริสต์ เมืองเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก ประเทศรัสเซีย 
จัตุรัสแห่งนี้เป็นจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลงระบอบการปกครองในรัสเซีย จากระบอบกษัตริย์มาเป็นระบอบคอมมิวนิสต์ โดยเมื่อวันที่ 14 ธันวาคม ปี 1825 ได้มีชายรัสเซียราว 3 พันคน ในนามกบฎ Decembrist หรือกบฎธันวาคม ออกมารวมตัวกันต่อต้านราชวงศ์ และมีกบฎ 5 คนถูกจับไปประหารชีวิต และอีกหลายคนถูกจับขังคุกก่อนจะเนรเทศไปไซบีเรีย
อันดับที่ 6 Plaza de las Tres Culturas กรุงเม็กซิโก ซิตี้ ประเทศเม็กซิโก
สิบวันให้หลังของพิธีเปิดงานโอลิมปิกฤดูร้อน ปี 1968 ที่เม็กซิโกซิตี้ ก็ได้เกิดเหตุการณ์นักศึกษาเดินขบวนประท้วงรัฐบาล ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องเข้าปราบปรามกลุ่มนักศึกษาซึ่งไม่มีอาวุธ โดยกราดยิงนักศึกษาจนบาดเจ็บนับพันคน แต่กลับมีการรายงานออกมาว่า มีผู้เสียชีวิตไม่ถึง 20 คน ซึ่งตรงข้ามกับผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ที่ระบุว่า มีผู้เสียชีวิตนับร้อยคน และยังถูกจับกุมตัวไปอีกนับพันคน แม้ว่าเหตุการณ์ฆาตกรรมหมู่นี้จะผ่านมากว่า 40 ปีแล้ว แต่ดูเหมือนจำนวนผู้เสียชีวิตจะยังเป็นเงื่อนงำมาจนถึงวันนี้
อันดับที่ 5 Place de la Bastille กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส 
เมื่อวันที่ 14 กรกฎาคม 1789 ได้เกิดเหตุการณ์ "ปฏิวัติฝรั่งเศส" ที่คุกบาสตี โดยมวลชนได้รวมตัวกันโค่นล้มสถาบันกษัตริย์ และสถาปนาสาธารณรัฐขึ้น ซึ่งเหตุการณ์นี้เอง กลายเป็นต้นแบบให้เกิดการเปลี่ยนแปลงการปกครองครั้งใหญ่ในประเทศต่าง ๆ ของทวีปยุโรป
อันดับที่ 4 Azadi Square กรุงเตหะราน ประเทศอิหร่าน
ในปี 1979 ชาวอิหร่านนับพันคนได้มารวมตัวกัน เพื่อเรียกร้องอิสรภาพ และโค่นล้มราชวงศ์ชาห์ ก่อนที่ผู้นำศาสนาอิสลามนิกายชีอะห์ จะได้เปลี่ยนแปลงระบอบการปกครองเป็นสาธารณรัฐอิสลามอิหร่าน
อันดับที่ 3 จัตุรัสเวนเซสลาส กรุงปราก สาธารณรัฐเช็ก
ในเดือนพฤศจิกายน ปี 1989 มวลชนนับพันคนได้มารวมตัวกันที่จัตุรัสเวนเซสลาส เพื่อต่อต้านการปกครองระบอบคอมมิวนิสต์ ในชื่อว่า "การปฏิวัติกำมะหยี่" (The Velvet Revolution) โดยก่อนหน้านั้น สถานที่แห่งนี้เคยถูกใช้เป็นที่ตั้งของกลุ่มที่ต่อต้านการรวมประเทศของโซเวียต แต่ปัจจุบันสถานที่แห่งนี้ ไม่ได้ถูกใช้เป็นสถานที่ชุมนุมประท้วงของกลุ่มใดแล้ว
อันดับที่ 2 จัตุรัสเทียนอันเหมิน กรุงปักกิ่ง สาธารณรัฐประชาชนจีน
เมื่อปี ค.ศ.1989 นักศึกษานับแสนคนในประเทศจีนได้รวมตัวกันต่อต้านรัฐบาลพรรคคอมมิวนิสต์ ณ จัตุรัสเทียนอันเหมิน เพื่อเรียกร้องประชาธิปไตยและเสรีภาพ แต่สุดท้ายถูกเจ้าหน้าที่เข้าปราบปราม จนมีผู้เสียชีวิตประมาณ 2,500 คน และบาดเจ็บอีกนับหมื่นคน
อันดับที่ 1 จัตุรัสทาห์รีร์ กรุงไคโร ประเทศอียิปต์
ชาวอียิปต์นับแสนคนได้ออกมาเดินขบวน และชุมนุมกันที่จัตุรัสทาห์รีร์ กรุงไคโร ประเทศอียิปต์ เพื่อเรียกร้องให้นายฮอสนี มูบารัค ประธานาธิบดีซึ่งครองอำนาจมายาวนานกว่า 30 ปี ลาออกจากตำแหน่ง โดยผู้ชุมนุมได้เข้าปะทะกันกับกลุ่มที่สนับสนุนประธานาธิบดีมูบารัค จนเกิดเหตุการณ์จลาจลวุ่นวายไปทั่วไคโร สุดท้าย นายมูบารัคต้องยอมลงจากเก้าอี้ ด้วยการประกาศลาออกจากตำแหน่ง และเดินทางออกนอกประเทศไปในที่สุด
