ปภ. แนะขับขี่ผ่านเส้นทางที่มีหมอกและควันไฟอย่างปลอดภัย
ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ของทุกปีเป็นช่วงที่หลายพื้นที่มีหมอกหนา ประกอบกับเกษตรกรส่วนใหญ่นิยมเตรียมพื้นที่การเกษตร โดยการเผาตอซังข้าว ทำให้เกิดปัญหาหมอกและควันไฟปกคลุมพื้นที่ ส่งผลให้ทัศนวิสัยในการมองเห็นเส้นทางลดลง จึงเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุสูงกว่าปกติ ดังนั้น เพื่อความปลอดภัย กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ขอแนะวิธีขับขี่ผ่านเส้นทางที่มีหมอกและควันไฟ ดังนี้
ก่อนเดินทาง
ตรวจสอบสัญญาณไฟให้สามารถใช้งานได้ดี ทำความสะอาดกระจกครอบสัญญาณไฟให้แสงไฟส่องสว่างอย่างชัดเจน ปรับระดับไฟสูง – ต่ำ ให้เหมาะสม หากหลอดไฟขาดให้จัดการเปลี่ยนใหม่ทันที
ขณะเดินทาง
การใช้สัญญาณไฟ ปรับเปลี่ยนระดับความสว่างของไฟหน้ารถ ตามสถานการณ์และทัศวิสัยในการมองเห็นเส้นทาง เปิดสัญญาณไฟหน้ารถ จะช่วยให้มองเห็นเส้นทางชัดเจนขึ้น และทำให้ผู้ร่วมใช้เส้นทางรายอื่นมองเห็นรถเราในระยะไกล เปิดใช้ไฟตัดหมอก เมื่อไม่สามารถมองเห็นเส้นทางได้ในระยะ 100 เมตร และปิดสัญญาณไฟเมื่อมองเห็นเส้นทางชัดเจน หลีกเลี่ยงการเปิดใช้ไฟสูง เพราะแสงของไฟจะทำให้เกิดเงาสะท้อนจากกระจก เข้าตาผู้ขับขี่รถคันหน้า จนมองไม่เห็นเส้นทางก่อให้เกิดอุบัติเหตุได้
การขับขี่ ไม่ขับรถด้วยความเร็วสูง และเว้นระยะห่างจากรถคันหน้าให้มากกว่าปกติ จะได้มีเวลาเพียงพอ ที่ตัดสินใจแก้ไขปัญหาและระยะในการหยุดรถที่ปลอดภัย หากเกิดเหตุฉุกเฉิน ไม่แซง ไม่เปลี่ยนช่องทางหรือหยุดรถกะทันหัน หากจะลดความเร็ว ให้ใช้วิธีแตะเบรกเป็นระยะ เพื่อให้สัญญาณเตือนรถที่ขับตามหลังมาเพิ่มความระมัดระวัง พยายามขับรถให้อยู่กลางช่องระหว่างเส้นหรือแถวหมุดสะท้อนแสง ไม่ขับรถชิดหรือทับเส้นกลางถนน เพื่อลดความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ ในลักษณะเฉี่ยวชน หรือประสานงา
การขับผ่านทางแยก เพิ่มความระมัดระวังขณะขับผ่านทางแยกเป็นพิเศษ โดยเปิดหน้าต่างรถ ปิดเครื่องเสียง เพื่อให้ได้ยินเสียงรถยนต์ที่กำลังวิ่งเข้ามา พร้อมใช้ไฟและเสียงแตรเป็นสัญญาณเตือนผู้ร่วมใช้เส้นทาง โดยเฉพาะหากต้องเลี้ยวขวาบริเวณทางแยก ให้ตรวจสอบก่อนว่าไม่มีรถวิ่งผ่านมา จึงสามารถเลี้ยวได้
กรณีทัศนวิสัยแย่มาก ให้นำรถเข้าจอดในบริเวณที่ปลอดภัย เช่น ที่พักรถริมข้างทาง สถานีบริการน้ำมัน กรณีที่ไม่สามารถหาจุดจอดรถที่ปลอดภัยได้ ให้จอดรถบนไหล่ทาง ชิดริมของถนนมากที่สุด พร้อมเปิดสัญญาณไฟ และนำวัสดุหรือป้ายสะท้อนแสงมาตั้งด้านหลังรถในระยะไม่ต่ำกว่า 50 เมตร เพื่อเตือนให้ผู้ใช้เส้นทางรายอื่นมองเห็นได้ในระยะไกล
กรณีละอองฝ้าเกาะตามกระจกรถ หากเป็นกระจกหน้ารถ ให้เปิดที่ปัดน้ำฝน หรือใช้ผ้าแห้งเช็ดกระจกบริเวณที่เป็นละอองฝ้า ปรับลดอุณหภูมิภายในรถให้ต่ำกว่านอกรถ ลดระดับของกระจกหน้าต่างลง จะช่วยไล่ละอองน้ำหรือไอน้ำที่เกาะตามกระจกรถให้จางหายไปเร็วขึ้น แต่หากเป็นกระจกหลังรถ ให้เปิดปุ่มไล่ฝ้าที่มีตะแกรงขดลวดความร้อน จะช่วยให้มองเห็นเส้นทางชัดเจนขึ้น แต่ห้ามเปิดทิ้งไว้ตลอดเวลา เพราะความร้อนจะส่งผลต่ออายุการใช้งานของกระจกรถ
สุดท้ายนี้ เพื่อความปลอดภัยในการเดินทางผ่านเส้นทางที่มีหมอกและควัน–ไฟ ปกคลุม ขอให้ผู้ขับขี่เพิ่มความระมัดระวังมากขึ้น ไม่ขับรถด้วยความเร็วสูง ปฏิบัติตามกฎจราจรอย่างเคร่งครัด หากทัศนวิสัยในการมองเห็นเส้นทางไม่ชัดเจน ควรนำรถเข้าจอดในบริเวณที่ปลอดภัย เพื่อลดความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุทางถนน
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย
