UNSC คว่ำบาตรกัดดาฟี ชาวบ้านฉุนรัฐติดสินบน

 

 
เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก zimbio.com

          ยูเอ็นเอสซีลงมติเอกฉันท์คว่ำบาตร "กัดดาฟี" และบรรดาคนสนิท อายัดทรัพย์สิน ด้านเจ้าหน้าที่รัฐประกาศให้เงินชาวตริโปลีออกมารับเงินครอบครัวละ 400 เหรียญ ชาวบ้านฉุนเชื่อพยายามติดสินบน ขณะที่ในเมืองมิสราทาห์ ทหารรับจ้างกราดยิงประชาชนลงมาจากเฮลิคอปเตอร์ ยังไม่ทราบจำนวนเจ็บ-ตาย

           คณะมนตรีความมั่นคงแห่งองค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็นเอสซี) ที่มีสมาชิก 15 ชาติ ลงมติอย่างเอกฉันท์ผ่านข้อมติคว่ำบาตรพันเอกมุอัมมาร์ กัดดาฟี ผู้นำสูงสุดของลิเบีย พร้อมคนสนิทอีก 15 ราย ห้ามการยักย้ายถ่ายโอนทรัพย์สินและห้ามการค้าขายอาวุธ และเรียกร้องให้ยื่นเรื่องส่งฟ้องต่อศาลคดีอาญาระหว่างประเทศ (ไอซีซี) เข้าสอบสวน เพื่อนำไปสู่การดำเนินคดีกับผู้ที่รับผิดชอบต่อการสังหารพลเรือน

          อย่างไรก็ตาม ในเวลาต่อมา พ.อ.มูอัมมาร์ กัดดาฟี ผู้นำเผด็จการของลิเบีย ได้ออกแถลงการณ์ผ่านสถานีโทรทัศน์พิงค์ เทเลวิชัน ของเซอร์เบีย ตอบโต้คณะมนตรีความมั่นคงฯ ที่ระบุว่า มีประชาชนมากกว่า 1,000 รายถูกสังหาร จึงสั่งครอบครัวและพวกพ้องของเขาห้ามเดินทาง และอายัดทรัพย์สิน รวมถึงห้ามขนส่งอาวุธยุทโธปกรณ์ให้แก่ลิเบีย โดยกัดดาฟี ขอให้แถลงการณ์ดังกล่าวของยูเอ็นเป็นโมฆะ ตามบทบัญญัติในกฎบัตรของสหประชาชาติ เนื่องจากสิ่งที่เกิดขึ้น ไม่เป็นความจริง 
           ขณะที่สถานีโทรทัศน์ลิเบีย ได้แพร่ภาพกลุ่มสนับสนุนกัดดาฟี รวมตัวบริเวณจัตุรัสสีเขียว กลางกรุงทริโปลี เพื่อแสดงจุดยืนในการสนับสนุนรัฐบาล ให้ทำการปราบปรามกลุ่มผู้ประท้วง ด้าน นายซาอิฟ อัล อิสลาม กัดดาฟี บุตรชายของผู้นำลิเบีย ได้ให้สัมภาษณ์กับสถานีอัล อาราบิยา พร้อมทั้งยืนยันว่า สถานการณ์ดังกล่าวกลับสู่ความสงบสุขแล้ว แต่ยอมรับว่า ทางภาคตะวันออกยังคงมีปัญหาอยู่ และทางการลิเบีย ยินยอมให้สื่อต่างชาติ ได้รับอนุญาตให้เข้าพื้นที่กรุงทริโปลี หลังการปะทะอย่างรุนแรงระหว่างกลุ่มต่อต้านกับเจ้าหน้าที่

           ส่วนเมืองเบนกาซี เมืองใหญ่อันดับสองของลิเบียที่ผู้ประท้วงยึดไว้ได้ตั้งแต่สัปดาห์ก่อน มุสตาฟา อับดุล-จาลิล อดีตรัฐมนตรียุติธรรมที่ลาออกเพื่อประท้วงการใช้กำลังเกินกว่าเหตุในการปราบปรามผู้ชุมนุม ได้ประกาศเมื่อวันเสาร์ว่า พวกตนกำลังจัดตั้ง "รัฐบาลชั่วคราว" ขึ้นและคณะกรรมการซึ่งประกอบด้วยนายทหารและพลเรือนจะเตรียมการเลือกตั้งภายในเวลา 3 เดือน

           ทางด้านกลุ่มติดอาวุธฝ่ายต่อต้านรัฐบาลลิเบีย ที่มีอาวุธครอบครัน พร้อมทั้งรถถัง และอาวุธครบมือ เฉลิมฉลองอย่างดีใจ หลังสามารถควบคุมเมืองซาวิยา ซึ่งมีประชากร 200,000 คน และอยู่ห่างจากกรุงตริโปลี ไปทางตะวันออกเพียง 500 กิโลเมตรได้สำเร็จ โดยกองกำลังติดอาวุธฝ่ายต่อต้านรัฐบาล สามารถขับไล่ทหารของรัฐบาลให้ออกจากเมืองซาวิยา ไปยังกรุงตริโปลี ได้เกือบทั้งหมด เหลือเพียงบางส่วน ที่ยังวางกำลังคุมพื้นที่ด้านนอกเมืองซาวิยาเอาไว้

          ขณะที่ในเมืองมิสราทาห์ ได้เกิดเหตุทหารรับจ้างกราดยิงใส่ผู้คนจากบนเฮลิคอปเตอร์ ขณะคนเหล่านั้นที่เดินทางมาร่วมงานศพในมัสยิดแห่งหนึ่ง แต่ยังไม่มีรายงานชัดเจนว่า ผู้มีได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตจำนวนเท่าใด

          ด้านสำนักข่าวเอเอฟพี รายงานว่า เจ้าหน้าที่รัฐของลิเบียได้ส่งข้อความผ่านทางโทรศัพท์มือถือไปบอกให้แต่ละครอบครัวในเมืองตริโปลีออกมารับเงินช่วยเหลือครอบครัวละ 400 ดอลลาร์ ทำให้ชาวเมืองคนหนึ่งบอกว่า การแจกเงินให้เฉพาะคนในเมืองตริโปลี เท่ากับเป็นความพยายามติดสินบนประชาชน

          ในเวลาต่อมา สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานวันนี้ (28 กุมภาพันธ์) ว่า กระทรวงการต่างประเทศอังกฤษ ยืนยันว่า ได้ดำเนินการอายัดทรัพย์สินของ พ.อ.มูอัมมาร์ กัดดาฟี และครอบครัวที่อยู่ในประเทศแล้ว ซึ่งมีอยู่ประมาณ 20,000 ล้านปอนด์ โดยส่วนใหญ่อยู่ในกรุงลอนดอน ประกอบด้วยบัญชีธนาคาร อสังหาริมทรัพย์เชิงพาณิชย์ และบ้าน

          ขณะที่ จอร์จ ออสบอร์น รัฐมนตรีการคลังของอังกฤษ ชี้ว่า การดำเนินการอายัดทรัพย์สินของผู้นำลิเบีย เพื่อที่ทรัพย์สินเหล่านั้น จะได้ไม่ถูกนำไปใช้ทำลายผลประโยชน์ของประชาชนชาวลิเบีย

          ด้านเดวิด คาเมรอน ผู้นำของอังกฤษ กล่าวหลังจากภารกิจอพยพช่วยเหลือพลเมือง 150 คน ออกจากลิเบีย เสร็จสิ้นแล้ว ก็ได้เรียกร้องให้กัดดาฟีลาออกจากตำแหน่ง โดยระบุว่า ถึงเวลาแล้วที่จะต้องลงจากอำนาจ         


อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก