เขมรอ้างยูเนสโกแจ้งไทยแล้วไม่ถอนพระวิหาร (ไอเอ็นเอ็น)
ทูต พิเศษจากยูเนสโก ยัน ไม่ถอนปราสาทพระวิหาร ออกจากบัญชีมรดกโลก ด้าน ฮุนเซน ร้องขอ ยูเนสโก ให้ผ่านแผนบริหารจัดการพื้นที่รอบพระวิหารในปีนี้
สำนักข่าวซินหัว รายงานวานนี้ (28) ว่า นายเอียง สุพัลเลธ โฆษกนายกรัฐมนตรีกัมพูชา ได้ออกมาเปิดเผยคำกล่าวของ นายโคอิชิโร มัตสึอุระ ทูตพิเศษจากยูเนสโก ภายหลังการเข้าพบ และหารือกับ สมเด็จฮุน เซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา โดย นายโคอิชิโร กล่าวว่า ประเทศไทย มีความตั้งใจที่จะขอให้ ยูเนสโก ถอนการขึ้นทะเบียนปราสาท แต่ตนได้แจ้งแก่ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีของไทย และนายกษิต ภิรมย์ รัฐมนตีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ว่า การถอนปราสาทพระวิหารจากบัญชีมรดกโลกนั้น เป็นไปไม่ได้ในทุกทาง เพราะปราสาทพระวิหาร มีคุณค่าเป็นสากลอย่างโดดเด่น นอกจากนี้ นายโคอิชิโร ยังได้บอกกับนายกรัฐมนตรีกัมพูชา ด้วยว่า แหล่งมรดกโลกปราสาทพระวิหารอยู่ภายใต้ความรับผิดชอบของยูเนสโก ดังนั้น ผู้เชี่ยวชาญยูเนสโก จะเดินทางมาประเมินและซ่อมแซมปราสาทพระวิหาร ในอนาคตอันใกล้นี้
ขณะเดียวกัน ฮุน เซน ได้แจ้งกับ นายโคอิชิโร ว่า ทหารไทย ได้ยิงกระสุนปืนครกและปืนใหญ่ กว่า 400 ลูก เข้าใส่ปราสาทพระวิหาร ซึ่งทำความเสียหายอย่างรุนแรงต่อแหล่งมรดกโลก พร้อมทั้ง ขอไม่ให้คณะกรรมการมรดกโลก ชะลอแผนบริหารจัดการในการประชุมประจำปีที่ บาห์เรน ในเดือนมิถุนายน โดยให้เหตุผลว่า "แผนบริหารจัดการปราสาทโดยยูเนสโก ของแหล่งมรดกโลกไม่ควรถูกละเลย เพราะการคุกคามของประเทศไทย และถ้าไม่รีบซ่อมแซม ปราสาทพระวิหาร จะตกอยู่ในอันตราย และยิ่งไปกว่านั้น กรณีที่เกิดขึ้นจะกลายเป็นแบบอย่างที่ไม่ดี ที่ว่าประเทศใหญ่ สามารถคุกคามยูเนสโก ไม่ให้สามารถบริหารจัดการและอนุรักษ์แหล่งมรดกโลก
ขณะที่ สำนักข่าวดืม อัม ปืม (DAP) ของกัมพูชา รายงาน อ้างคำกล่าว นายโคอิชิโร โดยระบุว่า ทางยูเนสโก จะส่งผู้เชี่ยวชาญ เพื่อประเมินความเสียหายของปราสาทพระวิหาร ทันทีที่ผู้สังเกตการณ์จากอินโดนีเซีย เดินทางมาถึงพื้นที่พิพาทชายแดน ระหว่างไทยและกัมพูชา หลังจากนั้น จะเร่งดำเนินการซ่อมแซมโดยด่วน แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ทางยูเนสโก จะไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับปัญหาชายแดนที่เกิดขึ้น
ด้าน นายซก อาน รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีของกัมพูชา ได้นำเสนอแผนที่ ที่กล่าวอ้างว่า ได้รับการยอมรับในระดับสากล เพื่ออธิบายเกี่ยวกับปัญหาชายแดนกับประเทศไทยต่อ นายโคอิชิ และแสดงแผนที่ ที่ระบุว่า เป็นแผนที่ ที่ไทยใช้เพียงฝ่ายเดียว ซึ่งไม่ได้รับการยอมรับใด ๆ ในระดับสากล นอกจานี้ ยังแสดงความเสียหาย จากการปะทะกันของทหารไทยและกัมพูชา โดยระบุว่า เกิดจาก กระสุนปืนครก และกระสุนปืนใหญ่ ที่ยิงจากฝ่ายไทย พร้อมขู่ว่า จะข้อมูลดังกล่าวไปเผยแพร่ต่อการประชุมระหว่างประเทศ
