x close

สาวไทยในญี่ปุ่น เผยนาทีระทึก! แผ่นดินไหวญี่ปุ่น







สาวไทยในญี่ปุ่นเผยนาทีระทึก!แผ่นดินไหว (ไอเอ็นเอ็น)
 
          คำบอกเล่า "นาทีชีวิตของหญิงไทย และลูกน้อยวัย 3 เดือน ที่ต้องเผชิญมหันตภัยร้ายแผ่นดินไหวในญี่ปุ่น"

          อิโต จิราพร ชาวอำเภอปากพนัง จังหวัดนครศรีธรรมราช อายุ 29 ปี ซึ่งเธอได้แต่งงานกับสามีชาวญี่ปุ่น แล้วย้ายตามสามีไปอยู่ที่ประเทศญี่ปุ่นเป็นเวลา 5 ปีแล้ว โดยอาศัยอยู่ใน จังหวัดชิบะ ซึ่งอยู่ใกล้ ๆ กับโตเกียว ช่วงนาทีชีวิตเธอมีลูกน้อยวัย 3 เดือนอยู่ด้วย โดย จิราพร ได้ถ่ายทอดถึงวินาทีระทึก เหตุแผ่นดินไหวที่เพิ่งประสบมาว่า ....

          เมื่อเวลาประมาณ 15.15 นาฬิกา (ตามเวลาในญี่ปุ่น) ของวันที่ 11 มีนาคม 2554 ซึ่งยังเป็นเวลาทำงานของคนในญี่ปุ่น รวมทั้งสามีดิฉันด้วย ดังนั้น ดิฉันจึงอยู่กับลูกเพียง 2 คน ณ บ้านของตัวเองใน จ.ชิบะ ซึ่งเป็นเวลานอนของลูก และตัวดิฉันเองก็ได้เคลิ้มหลับไป แต่ก็ต้องตกใจตื่น! เพราะเกิดการสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง ตอนแรกก็คิดว่าไม่เป็นอะไร เพราะปกติญี่ปุ่นก็เกิดแผ่นดินไหวบ่อยอยู่แล้ว แต่แล้วมันก็เริ่มเพิ่มความรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ ดิฉันเห็นว่าผิดปกติกว่าทุกครั้ง จึงรีบคว้าลูกวิ่งออกจากบ้าน (ตกใจมาก ๆ รองเท้าก็ไม่ได้ใส่) เมื่อดิฉันออกไปนอกบ้าน ถึงได้รู้ว่าเพื่อนบ้านต่างออกมายืนกันเต็มไปหมดแล้ว ซึ่งถือว่าดิฉันออกมาช้าที่สุดก็ว่าได้

          มีเพื่อนบ้านคนหนึ่งเขาตกใจมาก ถึงกับสติแตกร้องไห้โวยวาย "ฉันต้องตาย ฉันต้องตายแน่ ๆ " จากนั้น หลาย ๆ คนก็พากันร้องไห้ มียายคนหนึ่งวิ่งมากอดฉันแล้วถามฉันว่าเป็นอะไรหรือเปล่า ฉันก็ได้แต่กอดลูกแล้วร้องไห้ ณ เวลานั้นสั่นไปหมด ทำอะไรไม่ถูกจริง ๆ  คิดว่าตัวเองต้องตายแน่ ๆ แล้ว ช่วงเวลานั้นคิดถึง พ่อแม่ญาติพี่น้องที่เมืองไทยมาก อยากกลับบ้านที่สุด แต่สิ่งที่ทำได้ คือ สวดมนต์ ขอพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์โปรดคุ้มครองด้วยเถิด...

          แต่ต้องรวบรวมสติเพราะสงสารลูก วิ่งเข้าไปในบ้านไปเอาผ้าห่มและรองเท้าออกมา จากนั้นก็ได้แต่นั่งกอดลูกอยู่หน้าบ้าน รอว่าเมื่อไหร่มันจะสงบ
         
          ซึ่งครั้งแรกมันแรงมาก กินเวลาประมาณ 4-5 นาที ถนนหนทาง เสาไฟฟ้า และบ้านเรือนเสียหาย เมื่อเห็นสงบลง ดิฉันจึงตั้งใจจะเข้าบ้าน แต่คุณยายคนหนึ่งห้ามเอาไว้ เพราะยังไม่วางใจ เดี๋ยวอาจจะมาอีกระลอกดิฉันเลยฝากลูกไว้กับเขา แล้วตัวเองรีบวิ่งไปเอาโทรศัพท์ และแล้วรอบที่ 2 ก็มาอีกจนได้ พอครั้งที่สองเริ่มสงบ ดิฉันรีบโทรศัพท์หาสามีทันที เพราะช่วงจังหวะนั้น สามีออกไปทำธุระข้างนอก แต่ก็ติดต่อใครไม่ได้เลย สัญญาณโทรศัพท์โดนตัด โอ้แม่เจ้า! ฉันจะทำอย่างไรดี สับสนไปหมด บอกตรง ๆ กลัวมาก ๆ พี่สาวที่อยู่ต่างจังหวัดก็ติดต่อไม่ได้ เพราะที่พี่สาวอยู่คงจะหนักเหมือนกัน แต่ยังโชคดี อินเทอร์เน็ตยังใช้ได้ ก็ได้ติดต่อกับเพื่อน ๆ ที่เมืองไทย แต่แล้ว ณ ช่วงจังหวะนั้น มันมาอีกแล้ว ดิฉันเริ่มเพิ่มความกลัวมากขึ้น ไม่กล้าเข้าบ้าน นั่งกอดลูกอยู่ข้างบ้านนั่นแหละ อากาศก็หนาวมาก ๆ นั่งอยู่นอกบ้าน ประมาณ 3 ชั่วโมง สามีก็กลับมา ด้วยความเป็นห่วง เมื่อเห็นหน้าสามีฉันก็ปล่อยโฮเลยในใจคิดว่า "จะตายก็ขอตายกัน 3 คน พ่อแม่ลูกนะ" สามีก็ร้องไห้ไปกับดิฉันด้วย

          พอเริ่มสงบลง ครอบครัวดิฉันก็ยังไม่เข้าบ้าน นั่งรอกันในรถอยู่สักพักใหญ่ ๆ ก็ได้เข้าบ้าน พบว่าข้าวของกระจัดกระจายเกลื่อน แต่ไม่เสียหายมากนัก ถ้าเทียบกับพื้นที่อื่น ๆ ซึ่งดิฉันเพิ่งได้มาทราบจากข่าวในโทรทัศน์ ว่าเกิดแผ่นดินไหวที่จังหวัดมิยากิ ทางภาคเหนือของญี่ปุ่น วัดระดับความแรงได้ถึง 8.8 ริกเตอร์ ซึ่งเป็นการรายงานสด เป็นภาพสึนามิ มันมาอย่างรวดเร็ว กวาดบ้านพังไปเป็นแถบ ๆ และเริ่มกินพื้นที่เป็นบริเวณกว้าง รถราวิ่งกันให้ขวักไขว่ หนีตายกันจ้าละหวั่น นายอำเภอต้องออกออกมาประกาศให้คนที่ขับรถอยู่ออกจากรถโดยด่วน แล้วรีบหาที่สูง ๆ กำบังเพื่อความปลอดภัย ผู้คนวิ่งหนีกันวุ่น แต่ก็ไม่ทันมัน ช่างเป็นภาพที่ยากจะลืมจริง ๆ แค่ชั่วพริบตา เมืองทั้งเมืองกลายเป็นทะเลไปหมด มหันตภัยครั้งนี้มันรุนแรงเกินจะป้องกันจริง ๆ เป็นความรุนแรง และเป็นครั้งแรกในรอบพันปีทีเดียว ไม่มีใครเคยเจอมาก่อนเลย

          ยอดผู้เสียชีวิตและสูญหายขณะนี้ (10.00 นาฬิกา 12 มีนาคม 2554) ยังสรุปเป็นตัวเลขที่ไม่แน่ชัด แต่กว่า 1,000 คนแล้ว และคาดว่าจำนวนผู้เสียชีวิตจะเพิ่มขึ้นอีก ณ สถานการณ์ตอนนี้ ยังไม่น่าไว้วางใจว่าจะมีสึนามิมาอีกรอบหรือไม่ ขณะที่ยังคงเกิดแผ่นดินไหวอยู่เป็นระยะ ๆ คิดว่าอาทิตย์นี้อาจจะเกิดทั้งอาทิตย์เลยทีเดียว เมื่อตอนเช้าดิฉันติดต่อพี่สาวได้แล้ว ทุกคนปลอดภัยดี ขอขอบคุณสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ขอให้ทุกอย่างผ่านพ้นไปด้วยดี





เรื่องที่คุณอาจสนใจ
สาวไทยในญี่ปุ่น เผยนาทีระทึก! แผ่นดินไหวญี่ปุ่น อัปเดตล่าสุด 12 มีนาคม 2554 เวลา 17:52:17 40,524 อ่าน
TOP