x close

ชวนชม ซูเปอร์มูน ดวงจันทร์ใกล้โลก 19 มี.ค.นี้


ดวงจันทร์เข้าใกล้โลกมากที่สุดในรอบ 19 ปี สัปดาห์หน้า


ชม-จันทร์ชิดโลก สุกสว่าง‘19มีนา’ (ไทยโพสต์)

          ชวนคนไทยชมปรากฏการณ์ "ซูเปอร์มูน" ดวงจันทร์โคจรเข้าใกล้โลกมากที่สุดในรอบ 18 ปี คืนวันที่ 19 มี.ค. มองเห็นพระจันทร์ดวงโตและสว่างมากที่สุด นักวิชาการยันเป็นปรากฏการณ์ปกติไม่เกี่ยวข้องกับภัยพิบัติทางธรรมชาติ

          คนไทยเตรียมชมปรากฏการณ์ดวงจันทร์โคจรใกล้โลกที่สุดในรอบปี ซึ่งจะทำให้มองเห็นพระจันทร์ดวงโตและมีแสงสว่างไสวมากกว่าปกติ โดยนายสิทธิชัย จันทรศิลปิน นักวิชาการดาราศาสตร์ หัวหน้าท้องฟ้าจำลองกรุงเทพ เปิดเผยว่า ปรากฏการณ์ดังกล่าวจะเกิดขึ้นในวันเสาร์ที่ 19 มีนาคมนี้ ในต่างประเทศเรียกปรากฏการณ์ดวงจันทร์โคจรใกล้โลกว่า ซูเปอร์มูน (Supermoon) ในวันนั้นดวงจันทร์จะโคจรเข้าใกล้โลกในระยะ 356,577 กิโลเมตร จากปกติที่ดวงจันทร์โคจรห่างจากโลกมีระยะเฉลี่ย 384,400 กิโลเมตร และเนื่องจากในวันดังกล่าวตรงกับวันขึ้น 15 ค่ำ พระจันทร์เต็มดวงพอดี คนบนโลกจึงสามารถมองเห็นดวงจันทร์ที่มีขนาดใหญ่กว่าปกติประมาณ 3%

          นายสิทธิชัย กล่าวว่า ปรากฏการณ์ซูเปอร์มูนมีความพิเศษคือ ดวงจันทร์โคจรใกล้โลกมากที่สุดและเป็นคืนวันเพ็ญ ดวงจันทร์เต็มดวงกลมโตและ จะมีสว่างสวยงามมากที่สุดในรอบ 18 ปี หากวันนั้นท้องฟ้าโปร่งไม่มีเมฆบดบัง คนไทยจะได้อาบแสงจันทร์พร้อมกับศึกษาเรียนรู้ปรากฏการณ์บนท้องฟ้า โดยดวงจันทร์โคจรรอบโลกเป็นรูปวงรีเกือบกลม ทำให้ระยะใกล้ไกลระหว่างดวงจันทร์กับโลกมีระยะทางไม่เท่ากัน

          "ช่วงเวลาดีที่สุดที่จะชมดวงจันทร์คือ ดวงจันทร์อยู่ใกล้ขอบฟ้า ถ้าจะให้สนุกมากขึ้นควรสังเกตสีเทาเข้มที่อยู่ในดวงจันทร์เป็นรูป คล้ายกระต่าย สีเทาเข้มคือพื้นผิวบนดวงจันทร์เป็นที่ราบต่ำ บริเวณนี้เป็นจุดที่ยานอพอลโล 11 ลงเหยียบดวงจันทร์ ส่วนสีขาวสว่างไสวของดวงจันทร์ เป็นพื้นที่ราบสูง สะท้อนแสงจากพระอาทิตย์กลับมายังโลกได้มากกว่า นอกจากนี้ ในคืนวันที่ 19 มีนาคม ยังมีดาวเสาร์ขึ้นทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ จะสังเกตเห็นเป็นแสงสว่างสีเหลือง เคียงคู่กับดวงจันทร์กลมโต" หัวหน้าท้องฟ้าจำลองกรุงเทพ เผย

          เขาบอกว่า ช่วงวงโคจรที่ดวงจันทร์อยู่ใกล้โลกมากที่สุดเรียกว่า "เปริจี" มีระยะทางประมาณ 356,000 กิโลเมตร ส่วนช่วงวงโคจรที่ห่างจากโลกมากที่สุดเรียกว่า "อะโปจี" มีระยะทางประมาณ 407,000 กิโลเมตร การที่ดวงจันทร์โคจรรอบโลกและโลกโคจรรอบดวงอาทิตย์ ทำให้ทิศทางของแรงกระทำต่อโลกมีการเปลี่ยนแปลง โดยเฉพาะปรากฏการณ์น้ำขึ้นน้ำลง ในวันที่ 19 มีนาคม น้ำทะเลจะขึ้นสูงมากกว่าปกติ และไม่ส่งผลต่อการเกิดภัยพิบัติทางธรรมชาติแต่อย่างใด 
 
          ดร.สธน วิจารณ์วรรณลักษณ์ อาจารย์ประจำภาควิชาฟิสิกส์ คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาฯ กล่าวว่า ปรากฏการณ์ดวงจันทร์จะโคจรเข้าใกล้โลกเกิดขึ้นทุก ๆ 411 วัน ทุกครั้งที่เกิดขึ้นจะมีระยะทางไม่เท่ากัน ส่วนข้อมูลจากโหราศาสตร์ต่างประเทศที่บอกว่า ซูเปอร์มูนจะทำให้โลกเกิดภัยพิบัติอย่างรุนแรง ก็ไม่น่าเชื่อถือในทางวิทยาศาสตร์ เพราะดวงจันทร์ไม่มีแรงมากพอที่จะขยับเขยื้อนเปลือกโลกหรือวัตถุใต้โลกได้ แม้แต่เชือกเหนียว ๆ ดวงจันทร์ก็ไม่มีแรงดึงขาดได้

          ด้านนายกรหริศ บัวสรวง โหรอิสระ กล่าวว่า ดวงจันทร์โคจรทับดาวเสาร์ที่อยู่ในภพอริของดวงโลก ในทางโหราศาสตร์ถือว่าจะ เกิดการสูญเสียอย่างร้ายแรง สาเหตุเกิดจากไฟ ประเทศญี่ปุ่นจะต้องระมัดระวังและเตรียมรับมือป้องกันให้ดีที่สุดในช่วงวัน ที่ 19-21 มีนาคมนี้ ส่วนประเทศไทยจะไม่ได้รับผลกระทบจากอิทธิพลของดวงดาวครั้งนี้ จะไม่เกิดภัยพิบัติจากธรรมชาติ เพราะเวลานี้มีดาวพฤหัสบดีโคจรในมุมที่ส่งผลดีต่อประเทศไทย




ขอขอบคุณข้อมูลจาก


เรื่องที่คุณอาจสนใจ
ชวนชม ซูเปอร์มูน ดวงจันทร์ใกล้โลก 19 มี.ค.นี้ อัปเดตล่าสุด 18 มีนาคม 2554 เวลา 12:01:57 19,179 อ่าน
TOP